(VOVworld)- งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นและร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รับชั่นฉบับแก้ไขเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่บรรดาผู้แทนรัฐสภาจะร่วมหารือใน2วันข้างหน้า  ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ได้เน้นแก้ไขข้อจำกัด ข้อบกพร่องและสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางทัศนะชี้นำการปฏิบัติตามมติต่างๆของพรรคและรัฐว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รับชั่นและตอบสนองต่อเงื่อนไขต่างๆในอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เวียดนามให้ภาคยานุวัติ

ร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รับชั่นฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม จะยื่นให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติในการประชุมครั้งที่4

ร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รับชั่นฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมได้ถูกประกาศเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากประชาชนและจะยื่นให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติในการประชุมครั้งที่4 ซึ่งนับเป็นร่างกฎหมายที่มีระเบียบการที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติจริง มีความเข้มงวดพอที่จะจำกัดช่องโหว่ที่อาจจะถูกฉกฉวยใช้ประโยชน์ให้เหลือน้อยที่สุด  การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ก็เพื่อยกระดับคุณภาพกฎข้อบังคับต่างๆด้านการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญโดยเฉพาะการส่งเสริมกระบวนการปฏิบัติที่เปิดเผยและโปร่งใสควบคู่กับมาตรการเพิ่มความรับผิดชอบในการอภิปรายการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ข้าราชการ 

มีผู้แทนรัฐสภาหลายคนได้แสดงความเห็นว่า การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รับชั่นครั้งนี้ควรเพิ่มมาตรการที่มีลักษณะป้องปรามและป้องกันพฤติกรรมคอร์รับชั่น นาย เหงวียนบ๊าเทวี่ยน ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดเลิมด่งกล่าวว่าระเบียบการในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นบางข้อเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้งานด้านนี้ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งหากเราได้รับสิทธิ์ในการติดตามบุคคลบางคนอย่างสะดวก การค้นพบและเปิดโปงคดีคอร์รับชั่นจะมีประสิทธิผลแน่นอน   อันที่จริง การแสดงบัญชีทรัพย์สินตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นปี2005ยังไม่ถูกต้องและตรงเป้าหมาย ซึ่งหากต้องการป้องกันภัยคอร์รัปชั่นจะต้องตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของทุกคนในสังคมโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูง ดังนั้นร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รับชั่นฉบับแก้ไขได้เน้นในการปรับข้อกำหนดด้านการแสดงบัญชีทรัพย์สินและรายได้ทั้งในที่ทำงานและในท้องถิ่นที่อาศัย ขยายกลุ่มเป้าหมายและขอบเขตในการแสดงบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ข้าราชการและสมาชิกพรรค พิสูจน์แหล่งที่มาของทรัพย์สินและรายได้ที่ไม่สามารถแจ้งแหล่งที่มาได้ ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาที่ประชามติให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง นาย เลืองหงอกเซิน ชาวฮานอยแสดงความเห็นว่ามาตรการที่สำคัญที่สุดคือเพื่อให้การป้องกันการคอร์รัปชั่นมีประสิทธิภาพเราต้องส่งเสริมการปฏิบัติให้มีประชาธิปไตย เปิดเผยและโปร่งใสก่อน