เอเปก 2017: เพิ่มมูลค่าให้แก่สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) -การอำนวยความสะดวก การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความคิดสร้างสรรค์และการเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าโลกคือ 1 ใน 4 เนื้อหาที่เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในฟอรั่มเอเปก 2017 จากการมีจำนวนและการมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาของเศรษฐกิจเวียดนาม ฟอรั่มเอเปก 2017 ถือเป็นโอกาสให้สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋วของเวียดนามเรียนรู้ประสบการณ์ เพิ่มทักษะความสามารถและสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมมือประกอบธุรกิจกับสถานประกอบการชั้นนำทั่วโลก
เอเปก 2017: เพิ่มมูลค่าให้แก่สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว - ảnh 1เอเปก 2017: เพิ่มมูลค่าให้แก่สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว (Photo Internet) 

สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋วมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในเวียดนามเท่านั้น หากยังในภูมิภาคเอเปกอีกด้วย ซึ่งมีจำนวนคิดเป็นร้อยละ 79ของสถานประกอบการและมีส่วนร่วมในการสร้างงานทำร้อยละ 65 และมีส่วนร่วมร้อยละ 30-40 ในมูลค่าการส่งออกของเอเปก แม้มีบทบาทสำคัญ แต่ในเวลาที่ผ่านมา สถานประกอบการเหล่านี้ยังประสบอุปสรรคต่างๆเนื่องจากมีแหล่งเงินทุนที่เปราะบาง แหล่งบุคลากรขั้นพื้นฐานยังไม่ตอบสนองความต้องการ โดยเฉพาะขาดการลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยี นายเหงียนตังเกือง ผู้อำนวยการใหญ่ของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมกวางจุงเผยว่า “อุปสรรคที่สำคัญที่สุดของเราคือปัญหาตลาดและเทคโนโลยี แม้พวกเราได้ลงทุนเป็นอย่างมากให้แก่เทคโนโลยีแต่ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาค ก็ยังตามไม่ทัน”

ในความเป็นจริง ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้สนับสนุนการลงทุนอย่างเหมาะสมให้แก่สถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว แต่ขอบเขตการเปิดเศรษฐกิจเวียดนามยิ่งกว้างเท่าไหร่ก็ยิ่งมีการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้ เวียดนามกำลังต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การพัฒนาเขตตัวเมืองใหม่ ปัญหาประชากรสูงอายุ การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลโดยตรงถึงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของสถานประกอบการเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว ดังนั้นต้องให้ความสนใจและมีนโยบายต่างๆเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการเหล่านี้ นี่คือ 1 ใน 4 ประเด็นที่เวียดนามยื่นเสนอเพื่อให้

ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปีเอกเปกภายใต้หัวข้อ “เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋วในยุคดิจิตอล” ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวของเวียดนามได้รับความเห็นพ้องจากบรรดาประเทศสมาชิกเอเปก นายหวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามกล่าวว่า “ขณะนี้ ไม่เพียงแต่สถานประกอบการใหญ่สามารถเชื่อมโยงกับหว่งโซ่มูลค่าโลกได้เท่านั้น หากสถานประกอบการขนาดย่อมและขนาดจิ๋วก็สามารถเชื่อมโยงได้เช่นกัน การพบปะ การเข้าร่วมและการหารือระหว่างผู้นำเอกเปกและมหาเศรษฐีทั่วโลกจะเปิดโอกาสให้พวกเรารับทราบแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มและรูปแบบการบริหารของสถานประกอบการทั่วโลก นี่จะเป็นโอกาสให้เราเชื่อมโยงกับสถานประกอบการชั้นนำของโลก”

ปีเอเปก 2017 มีขึ้นประจวบเวลาที่รัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆมุ่งสู่สถานประกอบการผ่านการปฏิบัติมติที่ 35 เกี่ยวกับการสนับสนุนและพัฒนาสถานประกอบการถึงปี 2020 และมติเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่และมาตรการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแห่งชาติปี 2017 และกำหนดแนวทางถึงปี 2020 นายหวูเตี๊ยนหลกยืนยันว่า “การประชุมเอเปกที่จัดขึ้นในเวียดนามได้กลายเป็นฟอรั่มแห่งความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการจะกลายเป็นกิจกรรมแห่งความคิดสร้างสรรค์ในประวัติศาสตร์ของเอเปก โดยเฉพาะเพิ่มมูลค่าให้แก่เศรษฐกิจของเวียดนามผ่านกิจกรรมต่างๆของสถานประกอบการ เศรษฐกิจเวียดนามและสถานประกอบการจะได้รับประโยชน์จากเอกเปกเพราะมีการพัฒนา สามารถดึงดูดการลงทุนและมีการขยายตัวในการส่งออก”

ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้พยายามใช้โอกาสจากโครงการร่วมมือในกรอบเอเปก ปรับปรุงกลไกนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป สร้างสรรค์บรรยากาศการลงทุนให้มีความโปร่งใส เปิดเผยและลดอุปสรรคด้านการค้าและการลงทุนให้สอดคล้องกับกฎหมายร่วมกัน  เวียดนามกำลังใช้โอกาสจากความร่วมมือภายในเอเปกและความสัมพันธ์ทวิภาคีกับทุกประเทศสมาชิกเอเปกเพื่อผลักดันการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงในระดับสูงและยั่งยืน ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค พัฒนาแหล่งบุคลากร เพิ่มการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อมีส่วนร่วมเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการเวียดนาม จุดใหม่ของเอเปก 2017 คือให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งสถานประกอบการขนาดจิ๋วเพื่ออำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเหล่านี้เข้าถึงและเชื่อมโยงกับห่วงโซ่มูลค่าโลก ตลอดจนมีโอกาสเข้าถึงตลาดภูมิภาคที่กว้างใหญ่ที่มีประชากร 2.8 พันล้านคน.

Komentar