Photo: Langviet
|
ทัศนะของพรรคและรัฐเวียดนามเกี่ยวกับความสามัคคีชนในชาติ
นับตั้งแต่วันก่อตั้ง 3 กุมภาพันธ์ปี1930 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้วางแนวทางขยายความร่วมมือระหว่างกองกำลังรักชาติ ประชาชนและปัญญาชนทุกชั้นชนเพื่อสร้างสรรค์กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อเป้าหมายช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประเทศชาติ
วันที่ 18 พฤศจิกายนปี 1930 ได้มีการก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรต่อต้านจักรวรรดินิยม ซึ่งเป็นรูปแบบในตอนแรกของแนวร่วมประชาชาติเอกภาพเวียดนามหรือในปัจจุบันคือแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม นับตั้งแต่วันนั้น วันที่ 18 พฤศจิกายนได้กลายเป็นวันก่อตั้งแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม โดยในระหว่างการเคลื่อนไหว ทั้งพรรคและรัฐเวียดนามต่างให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆถึงแนวทาง “ถือประชาชนเป็นรากฐาน” สร้างสรรค์และส่งเสริมสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชน เป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาและชัดเจนเกี่ยวกับทัศนะการสร้างสรรค์กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติถือประชาชนเป็นรากฐานเพื่อชี้นำให้ทั้งประชาชน พรรคและรัฐปฏิบัติประชาธิปไตยในการรณรงค์ประชาชนเพื่อสร้างสรรค์กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อต่อสู้ปลดปล่อยประชาชาติ รวมประเทศเป็นเอกภาพและผลักดันกระบวนการสร้างสรรค์ประเทศ ในภารกิจการสร้างสรรค์ประเทศ ความสามัคคีชนในชาติคือความสามัคคีและความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนทุกชั้นชน รวมทั้งชนกลุ่มน้อย ประชาชนที่นับถือศาสนาต่างๆและชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศบนพื้นฐานผลสำเร็จในขั้นพื้นฐาน เอกราชของประชาชาติพร้อมกับลัทธิสังคมนิยม ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเข้มแข็ง สังคมมีความยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม ส่วนทัศนะเกี่ยวกับบทบาทการเป็นตัวแทนของประชาชนเวียดนามของแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้แปรเป็นกฎหมายในมาตราที่ 9 รัฐธรรมนูญปี 1992 และรัฐธรรมนูญปี 2013 โดยระบุว่า “แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามคือองค์การที่มีส่วนร่วมทางการเมืองที่จัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจขององค์กรการเมือง องค์กรการเมือง-สังคม องค์กรสังคม บุคคลดีเด่นในประชาชนทุกชั้นชน ประชาชาติ ศาสนาและชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามยังเป็นพื้นฐานด้านการเมืองของทางการประชาชน ซึ่งเป็นตัวแทนที่ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประชาชน ระดมและพัฒนาพลังกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ปฏิบัติประชาธิปไตย สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในสังคม ตรวจสอบและสะท้อนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เข้าร่วมการสร้างสรรค์พรรคและรัฐ มีส่วนร่วมต่อกิจกรรมการทูตประชาชน การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ” ในความเป็นจริง ในหลายปีที่ผ่านมา แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อรัฐเพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนผ่านการปฏิบัติกระบวนการและการณรงค์ต่างๆ เช่น การแก้ปัญหาความยากจน การตอบแทนบุญคุณ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยธรรมชาติ ประกาศนโยบายและจัดทำโครงการ “วันเพื่อคนจน” เป็นต้น ซึ่งได้ประสบผลงานอย่างน่ายินดี
นโยบายหมาสามัคคีชนในชาติในยุคแห่งการผสมผสาน
ในสภาวการณ์โลกาภิวัตน์ปัจจุบัน ยิ่งกว่าช่วงเวลาใด พรรคและรัฐเวียดนามให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการปฏิบัตินโยบายชนในชาติพร้อมกับการปฏิบัตินโยบายศาสนา ให้ความเคารพและค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา การนับถือหรือไม่นับถือศาสนาของพลเมือง สิทธิการประกอบศาสนกิจตามกฎหมายเวียดนาม การปฏิบัตินโยบายเหล่านี้ให้ดีที่สุดได้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติและการแบ่งแยกชนในชาติและศาสนา แก้ไขความรู้สึกในแง่ลบของด้านชาติพันธุ์และศาสนา สร้างสรรค์กลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติเป้าหมาย ประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเข้มแข็ง สังคมยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม
ตามปรกติ ในแต่ละปี ผู้นำพรรค รัฐ สภาแห่งชาติและรัฐบาลมักจะลงพื้นที่จังหวัดต่างๆเพื่อเข้าร่วมวันมหาสามัคคีชนในชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสเพื่อพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงถึงชีวิต งานทำ ที่ดิน สิ่งแวดล้อมและการคอร์รัปชั่น เป็นต้น อีกทั้งต้องเป็นฝ่ายรุกต่อต้านการใส่ร้ายป้ายสี การปลุกปั่นของกลุ่มที่เป็นอริกับประเทศที่มุ่งทำลายกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนกับพรรคและรัฐเวียดนาม
ในสภาวการณ์ใหม่นั้น การปฏิบัติแนวทางและนโยบายของพรรคเกี่ยวกับปัญหาชนในชาติและความสามัคคีชนในชาติให้มีประสิทธิภาพคือมาตรการแก้ไขเดียวเพื่อเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศ.