เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ให้การต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน |
ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เผยว่า ความสัมพันธ์เวียดนาม – สหรัฐได้มีก้าวพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ลึกซึ้ง จริงจังและมีประสิทธิภาพนับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ บนพื้นฐานดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศและความปรารถนาที่จะขยายความร่วมมือเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสภาวการณ์ใหม่ ผู้นำทั้งสองประเทศได้อนุมัติแถลงการณ์ร่วมที่ยกระดับความสัมพันธ์เวียดนาม – สหรัฐขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
หลักการของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม – สหรัฐ
ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ ได้เผยว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม – สหรัฐอยู่บนการเคารพหลักการขั้นพื้นฐานที่กำหนดแนวทางให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมาต่อไป โดยให้ความเคารพกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายสากลและระบอบการเมือง เอกราช อธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดนของกัน โดยชี้ชัดว่า
“เราย้ำถึงความเข้าใจระหว่างกัน สถานการณ์ของกัน ให้ความเคารพผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของกันและไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัน ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่มีความหมายสำคัญอยู่เสมอในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เวียดนามให้ความสำคัญต่อคำยืนยันของสหรัฐที่สนับสนุนประเทศเวียดนาม “เข้มแข็ง เอกราช พึ่งตนเองและเจริญรุ่งเรือง” เนื้อหาในความสัมพันธ์ใหม่นี้จะสานต่อเนื้อหาของความร่วมมือที่กำลังมีอยู่ระหว่างสองประเทศที่ได้รับการยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ผ่านการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนตามแนวทางที่ถือนวัตกรรมเป็นพื้นฐาน เป็นเสาหลักและพลังขับเคลื่อนของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ การขยายความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเป็นก้าวกระโดดใหม่ของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง ยังชี้ชัดว่า เวียดนามขยายความร่วมมือกับสหรัฐและหุ้นส่วนระหว่างประเทศต่างๆ ตามเจตนารมณ์ที่ประธานโฮจิมินห์ได้ระบุอย่างชัดเจนหลังจากที่เวียดนามปลดปล่อยประเทศเป็นเอกราชว่า “เวียดนามเป็นเพื่อนมิตรกับทุกประเทศ” สำหรับประเทศสหรัฐ ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันเกี่ยวกับเอกราชที่สมบูรณ์ของเวียดนามและเวียดนามพร้อมที่จะร่วมมืออย่างสมบูรณ์กับสหัฐ เอกราชและความร่วมมือนั้นเป็นประโยชน์ต่อโลก เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง ยังเผยว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 ได้มีการกำหนดแนวทางผลักดันและกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีกับทุกประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในกรอบแนวทางการต่างประเทศที่เอกภาพ พึ่งตนเอง สันติภาพ มิตรภาพ ร่วมมือและพัฒนา มีความสัมพันธ์การต่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่าย เวียดนามเป็นเพื่อนและหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจ เป็นสมาชิกที่เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ
เปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
ส่วนนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ยืนยันว่า ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้ เวียดนามและสหรัฐสามารถย้อนกลับไปมองความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในตลอด 50 ปีที่ผ่านมาเพื่อเห็นว่า
“จากที่เคยเป็นศัตรู เราได้ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติและเวลานี้เราจะยกระดับความสัมพันธ์เพื่อผลักดันความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองกับหนึ่งในภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของโลก เราจะยกระดับขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านและเรามีความยินดีเป็นอย่างมาก นี่คือก้าวเดินที่จำเป็นสำหรับทั้งสองประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในขณะที่เรากำลังต้องรับมือความท้ายต่างๆ ที่ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อความสัมพันธ์ทั้งภายในภูมิภาคและโลก”
ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้เผยว่า เวียดนามและสหรัฐจะกระชับความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีหลักและเพิ่งโดดเด่น โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์ห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมทั้งขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างสองประเทศ ในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ จะมีการลงนามสัญญาการค้าที่สำคัญๆ และทั้งสองประเทศยังคงพยายามแก้ไขวิกฤตด้านสภาพอากาศ สนับสนุนการโยกย้ายมาใช้พลังงานสะอาดของเวียดนาม เพิ่มความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของโลกและผลักดันความร่วมมือด้านสาธารณสุข ความร่วมมือด้านความมั่นคง การพบปะในระดับประชาชนและการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังแสดงความภาคภูมิใจเกี่ยวกับวิธีการที่สองประเทศและประชาชนของสองประเทศได้ปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจระหว่างกันเพื่อสามารถสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ และภารกิจต่อไปของทั้งสองประเทศคือ ต้องเก็บกู้ระเบิดที่เหลือจากสงคราม ชะล้างสารไดอ๊อกซินที่ปนเปื้อนในเวียดนาม ขยายโครงการช่วยเหลือผู้พิการและค้นหาอัฐิของทหารสหรัฐและทหารเวียดนามที่สูญหายในสงครามที่เวียดนาม ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเผยว่า เวียดนามและสหรัฐกำลังสร้างสรรค์มรดกใหม่ ซึ่งเป็นมรดกแห่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองเพื่อต้อนรับอนาคตที่ก้าวหน้าระหว่างสองประชาชาติ เวียดนามเป็นประเทศที่สำคัญในภูมิภาคและโลก โดยตนกำลังรอคอยศักราชใหม่ของความสัมพันธ์เวียดนาม – สหรัฐ.