เวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการผลักดันสันติภาพ ความร่วมมือ การเชื่อมต่อและการเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง

Van
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนาย สีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ และประธานประเทศจีน วันที่ 17 ตุลาคม ประธานประเทศเวียดนาม หวอวันเถือง จะเข้าร่วมฟอรั่มระดับสูงความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถม หนึ่งเส้นทาง” หรือ BRI ครั้งที่ 3 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของพรรคและรัฐเวียดนามในการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศจีน พร้อมทั้งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการขานรับและการให้ความสำคัญต่อความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการเชื่อมโยง รวมทั้งความคิดริเริ่ม “หนึ่งแถม หนึ่งเส้นทาง”
เวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการผลักดันสันติภาพ ความร่วมมือ การเชื่อมต่อและการเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง - ảnh 1ประธานประเทศเวียดนาม หวอวันเถือง (VNA)

นี่คือการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจครั้งแรกของประธานประเทศ หวอวันเถือง ในประเทศจีนนับตั้งแต่ที่เวียดนามจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 เมื่อปี 2021 ประสบความสำเร็จและจีนจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 20 เมื่อปี 2022

ความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างสองประเทศได้บรรลุระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์

เวียดนามและจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 18 มกราคมปี 1950 โดยในตลอดกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีต่างๆ ที่น่าสนใจคือหลังการการสถาปนาความสัมพันธ์ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในทุกด้านเมื่อปี 2008 ในตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์นั้นได้พัฒนาอย่างมีเสถียรภาพ ประสบความคืบหน้าต่างๆ โดยเฉพาะหลังการเยือนประเทศจีนของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และในปีนี้ การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ โดยเฉพาะในระดับสูงได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างลึก ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนได้บรรลุผลที่น่ายินดีต่างๆ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างสองฝ่ายได้บรรลุ 1 แสน 7 หมื่น 5 พัน 5 ร้อย 6 สิบล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยอดมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามกับจีนใน 9 เดือนที่ผ่านมาบรรลุ 1 แสน 2 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

การแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนระหว่างสองประเทศก็ได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยใน 9 เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเยือนเวียดนามได้บรรลุกว่า 1 ล้านคน และด้านนี้ยังมีศัยกภาพสูงเพราะก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19  จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามได้บรรลุกว่า 5.8 ล้านคน สำหรับภาพรวมของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับจีน นาย ซีจุงปัว เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนามไ ด้ประเมินว่า

            “ความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างสองประเทศได้บรรลุระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งโดดเด่นที่สุดคือการเสริมสร้างความไว้วางใจในด้านการเมือง รวมทั้งความสำคัญของความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน อันเป็นเรื่องที่มีความหมายเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศ ในหลายปีที่ผ่านมา จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ส่วนเวียดนามก็เป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดในอาเซียนของจีน”

            การเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีนของประธานประเทศ หวอวันเถือ ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ผู้นำเวียดนามเข้าร่วมฟอรั่มระดับสูง BRI ที่จัดโดยประเทศจีนและเป็นการสานต่อการหารือและการพบปะอยู่เสมอระหว่างผู้นำระดับสูงของสองพรรคและสองรัฐในเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น การเข้าร่วมฟอรั่มครั้งนี้จึงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก นาย ฝ่ามซาวมาย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนประเมินว่า

            “การเข้าร่วมฟอรั่มครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากของพรรคและรัฐเวียดนามต่อการขยายความสัมพันธ์กับประเทศจีน รวมทั้งความคิดริเริ่มต่างๆ เกี่ยวกับการเชื่อมโยง โดยเฉพาะความคิดริเริ่ม “หนึ่งแถม หนึ่งเส้นทาง” นี่คือโอกาสให้ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศหารืออย่างกว้างลึกเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขเพื่อแปรความเข้าใจร่วมระหว่างผู้นำ โดยเฉพาะการเยือนประเทศจีนที่มีความหมายเชิงประวัติศาสตร์ของเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่องให้กลายเป็นความจริง ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม – จีน ให้พัฒนาอย่างมีเสถียรภาพต่อไป กว้างลึก จริงจังและมีความไว้วางใจทางการเมืองมากขึ้น มีความร่วมมืออย่างกว้างลึก มีพื้นฐานทางสังคมที่ยั่งยืนมากขึ้นและสามารถควบคุมความขัดแย้งระหว่างกันได้”

การมีส่วนร่วมเพื่อสันติภาพ ความร่วมมือ การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและในภูมิภาค

ในการเข้าร่วมฟอรั่ม BRI ครั้งนี้ ประธานประเทศ หวอวันเถือง จะกล่าวปราศรัยในการประชุมระดับสูงภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจดิจิทัลคือพลังขับเคลื่อนใหม่ของการขยายตัว” สำหรับเรื่องนี้ เอกอัครราชทูต ฝ่ามซาวมาย กล่าวว่า

            “การที่ประธานประเทศ หวอวันเถือง เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยในฟอรั่มครั้งนี้ โดยมีการเข้าร่วมของผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้แทนและชมรมสถานประกอบการที่มาจาก 140 ประเทศและองค์กรทั่วโลกจะช่วยให้เวียดนามมีเสียงพูดผลักดันสันติภาพ ความร่วมมือและการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและในภูมิภาค กระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในทั่วโลกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มีส่วนร่วมผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก ปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนถึงปี 2030 ของสหประชาชาติอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอผลสำเร็จต่างๆ ของเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ส่งสารเกี่ยวกับเป้าหมาย ทัศนะและแนวทางการพัฒนาของเวียดนามอีกด้วย”

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ของโลกกำลังมีความผันผวนอย่างซับซ้อนที่ยากจะคาดเดาได้และเศรษฐกิจโลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก การที่ประธานประเทศ หวอวันเถืองและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามเข้าร่วมฟอรั่ม BRI ครั้งที่ 3 นี้ได้แสดงให้เห็นถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามเกี่ยวกับแนวทางการทูตที่อิสระ พึ่งตนเอง สันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและพัฒนา หลายรูปแบบหลายฝ่าย การเป็นฝ่ายรุกและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็ง รอบด้าน กว้างลึก คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่เป็นเพื่อน เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก มีส่วนร่วมผลักดันสันติภาพ ความร่วมมือ การเชื่อมโยงในด้านเศรษฐกิจและในภูมิภาค.

Komentar