เวียดนามเข้าร่วมกระบวนการผสมผสานของเอเปคในเชิงรุก

Hoang Dung-VOV
Chia sẻ
(VOVworld)- ท่านเจืองเตินซาง ประธานประเทศพร้อมภริยาจะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซียแปซีฟิกหรือเอเปคครั้งที่20 ณ เมืองวลาดีวอสต๊อค ประเทศรัสเซียในระหว่างวันที่7-9กันยายนนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีรัสเซียปูตินและภาริยา ซึ่งนับเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันแผนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างสมบูรณ์ในเชิงรุกตามเจตนารมณ์ของมติสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่11 รวมทั้งเพื่อกระชับความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับรัสเซียให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

(VOVworld)- ท่านเจืองเตินซาง ประธานประเทศพร้อมภริยาจะเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซียแปซีฟิกหรือเอเปคครั้งที่20 ณ เมืองวลาดีวอสต๊อค ประเทศรัสเซียในระหว่างวันที่7-9กันยายนนี้ ตามคำเชิญของประธานาธิบดีรัสเซียปูตินและภาริยา ซึ่งนับเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันแผนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างสมบูรณ์ในเชิงรุกตามเจตนารมณ์ของมติสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่11 รวมทั้งเพื่อกระชับความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับรัสเซียให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

เวียดนามเข้าร่วมกระบวนการผสมผสานของเอเปคในเชิงรุก   - ảnh 1
APEC TELMIN9 (internet)

ฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเซียแปซีฟิกหรือเอเปคได้รับการก่อตั้งเมื่อปี1989โดยข้อเสนอของออสเตรเลียและจากเริ่มแรกที่มีสมาชิกเพียง12เขตเศรษฐกิจมาจนถึงปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเป็น21เขตเศรษฐกิจภายหลังมีการขยายองค์กรถึง4ครั้งโดยมี9เขตเศรษฐกิจใหญ่ของจี20เข้าร่วมเช่น รัสเซีย สหรัฐ จีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีคิดเป็นร้อยละ59ของประชากรโลก มีส่วนร่วมกว่าร้อยละ50ของจีดีพีและร้อยละ57ของมูลค่าการค้าทั่วโลก ดังนั้นสมาชิกเอเปกจึงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือในฟอรั่ม โดยการประชุมสุดยอดเอเปคได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความมั่นคงและการเมืองโลกกำลังเป็นไปอย่างซับซ้อน เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้าและท่ามกลางความเสี่ยงสูง ส่วนการประชุมรอบโดฮาก็ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น จากบทบาทการเป็นฟอรั่มแห่งการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาคเอเซียแปซีฟิก เอเปคก็ได้เห็นพ้องต่อการกำหนดแนวทางความร่วมมือในปี2012นี้คือ “รวมตัวเพื่อเติบโต สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความมั่งคั่ง- Integrate to Grow, Innovate to Prosper”  เพื่อเป้าห growมายผลักดันการเติบโต สร้างงานทำและมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งตามนั้นภารกิจของเอเปคในปี2012จะเน้นใน4ด้านที่ให้ความสนใจก่อนคือ 1-การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนและการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค 2-การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร 3-การสร้างเครือข่ายอุปทานที่เชื่อน่าเชื่อถือ และ4 คือความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตอย่างมีนวัตกรรม. 

นับตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเอเปคเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี1998 เวียดนามก็เป็นสมาชิกที่เข้มแข็ง คล่องตัวและมีความรับผิดชอบของฟอรั่ม เข้าร่วมกระบวนการร่วมมือในทุกด้านในเชิงรุกและผลงานที่โดดเด่นในกระบวนการผสมผสานนี้คือเวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพเอเปค2006ครั้งที่14 ณ กรุงฮานอย ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมที่มีความหมายของการเตรียมพร้อมเพื่อวางแนวทางความร่วมมือระยะยาวให้แก่เอเปค เวียดนามก็ได้ปฏิบัติพันธกรณีแห่งความร่วมมือต่างๆของเอเปคอย่างจริงจังไม่ว่าจะเป็นรายงานเกี่ยวกับโครงการแห่งชาติประจำปี การปฏิบัติแผนปฏิบัติการการอำนวยความสะดวกแก่ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนต่างๆ รวมทั้งรับหน้าที่เป็นประธานและผู้ประสานงานของกลุ่มปฏิบัติงานสำคัญๆหลายกลุ่มเช่น กลุ่มปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขวาระปี2009-2010 กลุ่มปฏิบัติงานเกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน กลุ่มปฏิบัติงานด้านการค้าอิเล็กทรอนิก เป็นต้นตลอดจนได้ประสบผลสำเร็จในการดำเนินข้อคิดริเริ่มกว่า70ข้อและมีส่วนร่วมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน สาธารณสุข การรับมือกับภัยธรรมชาติและการต่อต้านการก่อการร้ายเป็นต้น

การที่ประธานประเทศเจืองเตินซางได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปค2012 ณ รัสเซียครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพื่อยืนยันอีกครั้งถึงความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับรัสเซียที่เพิ่งได้รับการยกระดับขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเท่านั้นหากยังเป็นสาส์นที่ส่งถึงประชาคมระหว่างประเทศว่า เวียดนามผสมผสานในเชิงรุกและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกประเทศและอาณาเขตเพื่อการพัฒนาของแต่ละประเทศ เพื่อสันติภาพและการพัฒนาของภุมิภาคและโลก โดยประธานเจืองเตินซางจะอ่านสุนทรพจน์เปิดการประชุมปิดเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและในการประชุมเต็มคณะของการประชุมสุดยอดผู้ประกอบการในหัวข้อ น้ำ-แหล่งทรัพยากรณ์ยุทธศาสตร์ใหม่ของโลก ซึ่งนับเป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะใหม่ของเวียดนามที่นับวันยิ่งสูงเด่นขึ้นในเอเปค นอกจากนี้การประชุมเอเปค2012ก็เป็นโอกาสให้เวียดนามได้มีส่วนร่วมผ่านการเสนอข้อคิดริเริ่มใหม่เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค รวมทั้งแสวงหาโอกาสความร่วมมือกับเศรษฐกิจอื่นๆในเอเปคเพื่อตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาของเวียดนามเช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจ  เปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวและปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมช่วงปี2011-2020ให้เป็นผลสำเร็จ

ในโอกาสร่วมการประชุมเอเปคครั้งนี้ ประธานเจืองเตินซางจะยืนยันสถานะของเวียดนามในเวทีระว่างประเทศด้วยความพร้อมที่จะผสมผสานอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก เวียดนามจะอยู่เคียงข้างทุกเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุมสุดยอดเอเปค2012 เพื่อภูมิภาคเอเซียแปซีฟิกที่สันติภาพ มีเสถียรภาพและเจริญรุ่งเรือง./.

Komentar