(VOVWorld)- หลังการประชุมเป็นเวลา๓วัน การประชุมระดับสูงสหประชาชาติย่านเอเชีย-ยุโรปเกี่ยวกับการผลักดันความร่วมมือ อำนวยความสะดวกให้แก่การขนถ่ายสินค้าและปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้เสร็จสิ้นลง ณ กรุงฮานอยในวันที่๙มีนาคม โดยการจัดการประชุมครั้งนี้เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของเวียดนามในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการพัฒานาอย่างยั่งยืนตามที่ถูกระบุในระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐ที่สหประชาชาติได้อนุมัติ
ภาพของการประชุม (Photo: vietnamplus.vn)
|
การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนกว่า๒๐๐คนจาก๔๐ประเทศและ๒๙องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วม โดยที่ประชุมได้กำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันการเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกให้แก่การค้า รวมทั้ง การให้ความช่วยเหลือประเทศที่ไม่มีทะเลและประเทศทางผ่านเพื่อปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ประสบความสำเร็จ ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีความผันผวนมากมายและการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ย่างเข้าสู่ปีที่๒ ซึ่งการจัดการประชุมครั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงคำมั่นของเวียดนามในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐และผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ประสบความสำเร็จ
ผลักดันการปฏิบัติตามระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐ผ่านการค้าเสรี
เอกสารต่างๆของสหประชาชาติ เช่น โครงการปฏิบัติงานเวียนนา ระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี๒๐๓๐และโครงการปฏิบัติงานแอดดิสอาบาบาล้วนแต่ยืนยันว่า การค้าเป็นปัจจัยชี้ขาดเพื่อปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐ พร้อมทั้ง ระบุถึงความท้าทายและความต้องการพิเศษของประเทศที่ไม่มีทะเล ดังนั้น ความร่วมมือในการช่วยเหลือประเทศที่ไม่มีทะเลและประเทศทางผ่านในการแก้ไขอุปสรรคและการผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลกอย่างกว้างลึก ค้ำประกันให้ไม่มีประเทศใดถูกทิ้งอยู่ข้างหลังในกระบวนการพัฒนาของศตวรรษที่๒๑ ซึ่งเป็นหนึ่งในเนื้อหาหลักของระเบียบวาระการประชุมปี๒๐๓๐ที่สหประชาชาติได้อนุมัติ นาย Gyan Chandra Acharya รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เผยว่า
“ระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี๒๐๓๐ได้ยอมรับความท้าทายดังกล่าวและประชาคมโลกให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือประเทศที่ไม่มีทะเลในการแก้ไขอุปสรรค โดยจะเน้นถึงการผลักดันความร่วมมือ การผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะ ข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับการเชื่อมโยง การปรับปรุงระบบกฎหมายและระเบียบศุลกากรเพื่อผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงอำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยนทางการค้าขององค์การการค้าโลกและผลักดันการลงทุน”
สำหรับเวียดนาม จากประสบการณ์ในการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในรอบ๓๐ปี เวียดนามตระหนักได้ดีถึงบทบาทที่สำคัญของการอำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาความยากจน ดังนั้น เวียดนามได้เข้าร่วมกลไกความร่วมมือพหุภาคีและภูมิภาค เช่น WTO อาเซียน เอเปก อาเซมและข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกับหุ้นส่วนต่างๆอย่างแข็งขัน เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการผลักดันความเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ กับประเทศลาว ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีทะเลทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า “เวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการขยายความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด พวกเรามีความเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศเพื่อนบ้านจะส่งผลดีต่อการพัฒนาของเวียดนามและช่วยให้เวียดนามผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค เวียดนามได้มีก้าวเดินที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศต่างๆในเขตลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างเพื่อเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและมีส่วนร่วมเชื่อมโยงกับเขตที่อยู่ไกลจากท่าเรือนานาชาติ”
เวียดนามผลักดันการเข้าร่วมความพยายามของสหประชาชาติ
นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลกภายหลัง๓๐ปีของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศแล้ว เวียดนามได้มีข้อเสนอต่างๆเพื่อผลักดันการระดมแหล่งพลังต่างๆจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศและภาคเอกชนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการขนถ่ายสินค้าและอำนวยความสะดวกให้แก่การค้าและการลงทุน
ระเบียบวาระการประชุมที่สหประชาชาติอนุมัติเมื่อปี๒๐๑๕แทนเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษที่หมดอายุเมื่อปลายปี๒๐๑๕ได้กำหนด๑๗เป้าหมายและ๑๖๙มาตรฐาน ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงคำมั่นของผู้นำต่อประชาคมโลกว่า ทุกประเทศจะร่วมกันสร้างสรรค์โลกแห่งสันติภาพ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี๒๐๓๐ รัฐบาลและองค์การต่างๆต้องพยายามมากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์อนาคตอันสดใส นำสันติภาพและความเจริงรุ่งเรืองมาให้แก่ประชาคมโลก ในฐานะเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของสหประชาชาติ เวียดนามได้เข้าร่วมความพยายามของสหประชาชาติเพื่อสร้างสรรค์โลกที่สันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งกิจกรรมที่จัดโดยเวียดนามก็เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว โดยเฉพาะ ปี๒๐๑๗เป็นปีฉลองครบรอบ๔๐ปีที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติและเป็นปีที่๒ที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสภาเศรษฐกิจ-สังคมของสหประชาชาติวาระปี๒๐๑๖-๒๐๑๘.