(VOVWorld) – วันที่๖เดือนนี้ ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เข้าร่วมการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออกหรือWEF on east asia ๒๐๑๓ ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่าซึ่งเป็นฟอรั่มระดับภูมิภาคที่ได้รับการจัดขึ้นทุกปี นี่เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามได้ประสานกับประเทศต่างๆในภูมิภาคเพื่อผลักดันความคิดสร้างสรรค์ และกรอบความร่วมมือเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพกิจกรรมของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก และผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศสมาชิก
|
ในฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก๒๐๑๓(Photo:nguyentandung) |
ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก๒๐๑๓ ในหัวข้อ“การเปลี่ยนแปลงอย่างเข้มแข็งเพื่อมุ่งสู่การผสมผสานและการพัฒนาในทุกด้าน”ได้รับการจัดขึ้น ในสภาวการณ์ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่มั่นคง ส่วนเอเชียตะวันออกมีอัตราการขยายตัวในระดับค่อนข้างสูงคือประมาณร้อยละ๗.๘ในปีนี้ จากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เอเชียตะวันออกนับวันยิ่งมีอิทธิพลและมีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อเข้าร่วมระเบียบความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็งมากขึ้น บทบาทบนเวทีโลกของเอเชียตะวันออกถูกถ่ายทอดผ่านการเข้าร่วมระเบียบความร่วมมือต่างๆของประเทศสมาชิก เช่น สหประชาชาติ กลุ่มเศรษฐกิจชั้นนำของโลกหรือจี๒๐ องค์การการค้าโลกหรือWTO โดยเฉพาะ จากการที่๔ประเทศมาชิกที่เป็นตัวแทนอาเซียนใน๒๐ เอเชียตะวันออกสามารถมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างสรรค์โครงสร้างการบริหารใหม่ของโลกที่มีประสิทธิภาพและประชาธิปไตยยิ่งขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วย เอเชียตะวันออกได้รับการจัดขึ้น ณ ประเทศพม่าซึ่งเป็นประเทศที่มีสถานะยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคที่กำลังผลักดันการปฏิรูปและพัฒนาประเทศ และจะเป็นประธานหมุนเวียนอาเซียนในปี๒๐๑๔ จากการเข้าร่วมการประชุมของนักการเมือง เจ้าหน้าที่บริหารเครือบริษัทใหญ่ๆได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของวงการเจ้าหน้าที่และชมรมนักธุรกิจที่มีต่อประเทศพม่าที่กำลังเปิดประเทศและผสมผสานเข้ากับโลกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมีส่วนร่วมขยายการแลกเปลี่ยนความร่วมมือและสร้างพลังเศรษฐกิจที่เข้มแข็งแบบบูรณาการให้แก่เอเชียตะวันออก โดยเฉพาะ อาเซียน
|
ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวปราศรัยในฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก๒๐๑๓ (Photo:nguyentandung ) |
ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้เข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกอย่างแข็งขันและเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจว่าด้วยเอเชียตะวันออก๒๐๑๐ ณ นครโฮจิมินห์ในหัวข้อ“เอเชียนับวันมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการพัฒนาของโลก”โดยมีการประชุมย่อยในหัวข้อต่างๆ๒๐ครั้ง เช่น เอเชียนับวันยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อโลก แผนการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของเอเชียและขีดความสามารถในการแข่งขันที่ได้สร้างความประทับใจให้แก่ผู้นำระดับสูงในภูมิภาค องค์การระหว่างประเทศและชมรมนักธุรกิจระหว่างประเทศ ส่วนในการกล่าวปราศรัยในฟอรั่มเศรษฐกิจว่าด้วย เอเชียตะวันออกปี๒๐๑๒ ณ ประเทศไทย นายกรัฐมนตรีเวียดนามNguyễn Tấn Dũng ได้ยืนยันว่า เวียดนามจะประสานกับประเทศต่างๆในภูมิภาคเพื่อผลักดันความคิดสร้างสรรค์ กรอบความร่วมมือที่มุ่งสู่เป้าหมายเสริมสร้างความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค ยกระดับประสิทธิภาพของการเข้าร่วมกรอบและระเบียบการร่วมมือเอเชียตะวันออกและกิจกรรมการสนทนาและที่ปรึกษาด้านนโยบายอย่างแข็งขัน เสนอและเข้าร่วมความคิดสร้างสรรค์ในเชิงรุกเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพให้แก่กิจกรรมต่างๆของฟอรั่มเศรษฐกิจโลกซึ่งตามแนวทางนี้ ในฟอรั่มครั้งนี้ ท่านNguyễn Tấn Dũng ได้มีบทปราศรัยในนัดเปิดการประชุมที่เน้นปัญหาการผสมผสานเข้ากับภูมิภาค ความร่วมมือของแนวเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก ถ่ายทอดประสบการณ์ของเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว บรรดานักลงทุนจะแสวงหาตลาดที่มีเสถียรภาพและมีศักยภาพพัฒนาเพื่อขยายการลงทุนซึ่งจากการเข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจโลก เวียดนามจะสามารถปฏิบัติเป้าหมายที่วางไว้ ประชาสัมพันธ์ประเทศที่กำลังผสมผสานเข้ากับประชาคมโลกในทุกด้าน พัฒนาอย่างคล่องตัว อำนวยความสะดวกให้ชมรมนักธุรกิจเวียดนามในการติดต่อกับต่างประเทศ ขยายการสนทนานโยบายระหว่างรัฐบาลกับชมรมนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วย เอเชียตะวันออกปี๒๐๑๓ ยังเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามขยายการลงทุนในพม่าซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ยังไม่ได้รับใช้ประโยชน์โดยมีประชากร๖๐ล้านคน และค่าแรงงานต่ำ จนถึงปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในพม่าหลายโครงการและที่โดดเด่นที่สุดคือ โครงการศูนย์การค้ามูลค่า๓๐๐ล้านเหรียญสหรัฐของกรุ๊ปHoàng Anh Gia Lai นอกจากนี้ เครือบริษัทViettel ก็กำลังเร่งเดินหน้าลงทุนด้านโทรคมนาคมในประเทศนี้ การเข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกว่าด้วย เอเชียตะวันออกปี๒๐๑๓ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามNguyễn Tấn Dũng เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงแนวทางการผสมผสานเข้ากับโลกในเชิงรุกของประเทศ ยกระดับบทบาท สถานะและภาพลักษณ์ของเวียดนามในภูมิภาคอีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือกับฟอรั่มเศรษฐกิจโลกและมีส่วนร่วมกระชับสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในด้านที่มีศักยภาพกับพม่า ./.