เวียดนาม – ญี่ปุ่นร่วมกันพัฒนา

Ánh Huyền – VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) - วันนี้ 12 ธันวาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เริ่มการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือที่ดีงามระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น  ในกรอบการเยือนประเทศญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุงจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน – ญี่ปุ่นและการประชุมสุดยอดแม่โขง – ญี่ปุ่นครั้งที่ 5 ณ กรุงโตเกียว 

เวียดนาม – ญี่ปุ่นร่วมกันพัฒนา - ảnh 1
(VOVworld) - วันนี้ 12 ธันวาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เริ่มการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือที่ดีงามระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น  ในกรอบการเยือนประเทศญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม ท่านเหงียนเติ๊นหยุงจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน – ญี่ปุ่นและการประชุมสุดยอดแม่โขง – ญี่ปุ่นครั้งที่ 5 ณ กรุงโตเกียว
นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเดือนกันยายนปี 1973 ความสัมพันธ์เวียดนาม – ญี่ปุ่นในตลอด 40 ปีมานี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยสมบัติอันล้ำค่าคือความไว้วางใจระหว่างกันและความร่วมมือในทุกด้าน ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากการที่ผู้นำทั้งสองประเทศประกาศยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาชนทั้งสองประเทศ

หุ้นส่วนที่นับวันยิ่งสำคัญมากขึ้น

เวียดนามและญี่ปุ่นได้กลายเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านที่นับวันยิ่งสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การต่างประเทศ เศรษฐกิจ – การค้า การลงทุน การให้เงินช่วยเหลือโอดีเอ การพัฒนาแหล่งบุคลากร วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัฒนธรรมและการพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน

ในด้านการเมือง ความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นได้รับการพัฒนาและยกระดับให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเมื่อปี 2009 ได้ยกระดับให้เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในเอเชีย”  นอกจากนี้ ผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศได้เยี่ยมเยือนและพบปะกันอยู่เสมอ ซึ่งได้ช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจในด้านการเมืองและชี้นำให้ปฏิบัติแนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้พัฒนายิ่งขึ้น
ในด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ญี่ปุ่นได้กลายเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนาม โดยเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดทั้งในด้านเงินทุนจดทะเบียน การเบิกจ่ายเงินและจำนวนโครงการ  ในด้านการค้า ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนทวิภาคีอันดับ 3 ของเวียดนามโดยมูลค่าต่างตอบแทนในปี 2012 อยู่ที่ 2 หมื่น 4 พัน 7 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ  ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงฉบับต่างๆ โดยเฉพาะข้อตกลงหุ่นส่วนความร่วมมือเศรษฐกิจเวียดนาม - ญี่ปุ่นซึ่งได้อำนวยความสะดวกและเป็นกรอบทางนิตินัยให้แก่ความร่วมมือต่างๆ  ส่วนความร่วมมือในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรม การกีฬา กลาโหมและความมั่นคงทางทะเล เป็นต้น ก็ได้ดำเนินไปอย่างคึกคัก  ท่านฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามประเมินว่า “ ความสัมพันธ์เวียดนาม ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงแห่งการพัฒนาอย่างเข้มแข็งที่สุด ซึ่งสมบัติอันล้ำค่าคือความไว้วางใจระหว่างกันและความร่วมมือในทุกด้าน โดยสามารถเห็นได้ชัดจากการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ได้รับความเห็นพ้องจากผู้นำและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากประชาชนทั้งสองประเทศ นี่คือพื้นฐานสำคัญเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม - ญี่ปุ่นให้นับวันยิ่งลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต เอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศและมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและโลก
พร้อมกับความใกล้เคียงด้านภูมิศาสตร์และความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่มีมาช้านานในประวัติศาสตร์บวกกับผลประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปัจจุบันได้ช่วยให้ทั้งสองประเทศยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยไม่เพียงแต่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจเท่านั้นหากการพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนก็สนิตแน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเห็นถึงไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างกันจากการช่วยเหลือของประชาชนเวียดนามในช่วงที่ญี่ปุ่นต้องประสบผลเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมปี 2011 โดยประชาชนเวียดนามได้เห็นอกเห็นใจและจัดกิจกรรมรับบริจาคเงินที่มีขอบเขตขนาดใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนโดยประชาชนทุกชั้นชนทั่วประเทศเข้าร่วม  นายเงียมหวูขาย นายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม – ญี่ปุ่นกล่าวว่า “  เมื่อ 40 ปีก่อน เวียดนามและญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการแต่ความสัมพันธ์การทูตประชาชนได้มีมากว่า 400 ปีแล้ว เพราะว่าเวียดนามและญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากดั่งคำยืนยันของนักปฏิวัติเวียดนาม ฟานโบ่ยเจิว ผู้ริเริ่มขบวนการทางการเมืองดงซูว่า เวียดนามและญี่ปุ่นมีความคล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรม  เชื้อสายและอยู่ในทวีปเดียวกัน  และในกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์ เวียดนามและญี่ปุ่นก็ยิ่งปรากฎความคล้ายคลึงกันอีกมากมายที่นับวันยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น

ร่วมมือและร่วมกันพัฒนา

      อาจกล่าวได้ว่า ผลสำเร็จของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นในปัจจุบันมาจากความพยายามของรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศในตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะร่วมมือปฏิบัติโครงการที่สำคัญต่างๆในอนาคต เช่น ยุทธศาสตร์การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของเวียดนามในกรอบความร่วมมือเวียดนาม – ญี่ปุ่นภายในปี 2020 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2030 ทั้งสองประเทศกำลังมีก้าวเดินที่มั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในแถลงการณ์ร่วมเมื่อปี 2011 คือ จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็นสองเท่าใน 10 ปีข้างหน้า และญี่ปุ่นได้ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญในภูมิภาคเสมอ ดังนั้นการเยือนประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์เวียดนาม – ญี่ปุ่นให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งมากขึ้นและเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองประเทศ./.

Komentar