อุปสรรคในการเจรจาข้อตกลง ทีทีไอพีระหว่างสหรัฐและอียู

Hong Van/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)- กระบวนการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกหรือทีทีไอพีระหว่างสหภาพยุโรปหรืออียูและสหรัฐได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่8กรกฎาคม ณ กรุงวอชิงตันท่ามกลางสภาวการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายที่กำลังแตกร้าว......

(VOVworld)-กระบวนการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกหรือทีทีไอพีระหว่างสหภาพยุโรปหรืออียูและสหรัฐได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่8กรกฎาคม ณ กรุงวอชิงตันท่ามกลางสภาวการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายที่กำลังแตกร้าวเนื่องจากการเปิดโปงข่าวทางการสหรัฐมีโครงการสอดแนมข้อมูลโดยการดักฟังโทรศัพท์สำนักงานของอียูที่กรุงบรัสเซลและวอชิงตัน  ทำให้ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มการเจรจาระหว่างกันแล้วแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จดั่งความคาดหวังในการหารือครั้งสำคัญนี้
อุปสรรคในการเจรจาข้อตกลง ทีทีไอพีระหว่างสหรัฐและอียู - ảnh 1
ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะได้เริ่มการเจรจาระหว่างกันแล้วแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จดั่งความคาดหวังในการหารือครั้งสำคัญนี้(VNA)

เนื้อหาของการเจรจารอบแรกระหว่างสหรัฐและอียูคือขอบเขตของปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมหารือ ตามข้อมูลที่รวบรวมไว้นั้น เศรษฐกิจของอียูและสหรัฐคิดเป็นร้อยละ50ของยอดสินค้าและการบริการและเป็นร้อยละ30ของยอดมูลค่าการค้าโลก สหรัฐเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของอียูโดยเมื่อปี2011มูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายบรรลุ449พันล้านยูโร ถึงปีต่อไปก็เพิ่มเป็น646พันล้านยูโร ส่วนในปี2012กระแสเงินทุนโดยตรงระหว่างสองฝ่ายอยู่ที่1000พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าหากการเจรจาสำเร็จผลประโยชน์ที่ทั้งสหรัฐและอียูจะได้จากทีทีไอพีนั้นถือว่ามีความหมายอย่างเป็นรูปธรรมเพราะแต่ละปีทีทีไอพีอาจจะช่วยเพิ่มอัตราจีดีพีตั้งแต่ร้อยละ0.5-1และมีส่วนร่วมสร้างงานใหม่อีกหลายล้านตำแหน่ง  ตามการคำนวนข้อตกลงนี้อาจจะสร้างรายได้119พันล้านยูโรต่อปีให้แก่เศรษฐกิจยุโรป ซึ่งสูงกว่าตัวเลขรายได้95พันล้านยูโรที่สหรัฐสามารถทำได้ทุกปี นอกจากนี้ภาคธุรกิจต่างๆก็จะได้รับประโยชน์จากทีทีไอพีด้วยอย่างเช่น รายได้ของบริษัทรถยนต์ยุโรปในตลาดสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อียูลดการพึ่งพาแหล่งก๊าซจากรัสเซียในอนาคต  ในขณะเดียวกันสหรัฐได้คาดหวังว่าทีทีไอพีจะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างล่าช้าในขณะที่อัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้มีเพียงร้อยละ2.5และอัตราคนว่างงานในเดือนพฤษภาคมได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ7.6เมื่อเทียบกับอัตราร้อยละ7.4ในเดือนเมษายน  เพราะเหตุนี้ นายกฯอังกฤษนายเดวิดคาเมรอนๆได้ย้ำว่า ข้อตกลงทีทีไอพีระหว่างสหรัฐกับอียูเป็นข้อตกลงทางการค้าทวิภาคีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่วนประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซี ซึ่งก็เป็นสมาชิกคนสำคัญในคณะเจรจาของอียู โฮเซ มานูเอล บาโรโซ ได้แสดงความปรารถนาว่ากระบวนการเจรจานี้จะได้รับการผลักดันให้เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ถึงอย่างไรก็ดี แม้ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจถึงความสำคัญของทีทีไอพีแต่ก็ต้องแก้ไขอุปสรรคต่างๆกว่าที่จะบรรลุข้อตกลงนี้ได้ ซึ่งก่อนอื่นคือตารางภาษีระหว่างสหรัฐและอียูยังมีอัตราค่อนข้างต่ำดังนั้นประเด็นที่ถือว่ายากที่สุดในการหารือคือการลดระเบียบและกำแพงกีดกันทางการค้าที่ขัดขวางกิจกรรมการค้าในด้านต่างๆทั้งการเกษตร เคมี การผลิตรถยนต์และการเงิน แต่นี่มิใช่เรื่องที่สามารถตกลงกันได้ง่ายเพราะทั้งสองฝ่ายได้มีความขัดแย้งกันในนโยบายที่เกี่ยวข้องมานาน ในขณะเดียวกันวัฒนธรรมก็เป็นอีกปัจจัยที่ถือว่าเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเจรจาทีทีไอพี โดยก่อนเริ่มขบวนเจรจา ฝรั่งเศสได้ยืนยันว่าจะใช้อำนาจของตนในการงดหารือมาตราที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงและโทรทัศน์ ในขณะที่สำหรับสหรัฐนั้น ปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมถือเป็นประเด็นที่ต้องระบุในระเบียบวาระการประชุม และฝรั่งเศสก็เคยเสนอเงื่อนไขข้อนี้เมื่อปี1993ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยภาษีและการค้าจีเอทีทีขององค์การการค้าโลก ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายเริ่มมีรอยร้าวเมื่อข่าวเกี่ยวกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐเอ็นเอสเอได้ดักฟังโทรศัพท์และสอดแนมสำนักงานของอียูที่กรุงบรัสเซลและกรุงวอชิงตันถูกเปิดโปง ถึงแม้ว่าคณะกรรมการยุโรปได้แสดงความเห็นว่าฝ่ายต่างๆต้องทำการชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้กรณีอื้อฉาวเรื่องสายลับนี้ส่งผลกระทบต่อการเจรจาแต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงเป็นจุดหนึ่งที่ต้องปรับปรุงในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย

ทั้งอียูและสหรัฐต่างคาดหวังว่าจะสามารถลงนามทีทีไอพีภายในเวลา18เดือนคือก่อนที่คณะกรรมการยุโรปชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในปี2014 แต่ดูเหมือนว่ากระบวนการนี้ยากที่จะสำเร็จได้เมื่อระหว่างทั้งสองฝ่ายยังมีปัญหาและอุปสรรคมากมายที่ต้องแก้ไข./.

Komentar