อนาคตทางการเมืองของยูเครนหลังการเลือกตั้งรัฐสภา

Ánh Huyền/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) –  หลังการเลือกตั้งรัฐสภาสมัยที่๘ซึ่งชัยชนะได้ตกเป็นของพรรคการเมืองต่างๆที่นิยมตะวันตก ยูเครนกำลังเร่งเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งภายในยูเครนพร้อมกับการโจมตีของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกที่รุนแรงมากขึ้นกำลังเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางผู้นำประเทศนี้ในการปฏิบัติคำมั่นที่เน้นสร้างสันติภาพและการขยายความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป

(VOVworld) –  หลังการเลือกตั้งรัฐสภาสมัยที่๘ซึ่งชัยชนะได้ตกเป็นของพรรคการเมืองต่างๆที่นิยมตะวันตก ยูเครนกำลังเร่งเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งภายในยูเครนพร้อมกับการโจมตีของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกที่รุนแรงมากขึ้นกำลังเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางผู้นำประเทศนี้ในการปฏิบัติคำมั่นที่เน้นสร้างสันติภาพและการขยายความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป

อนาคตทางการเมืองของยูเครนหลังการเลือกตั้งรัฐสภา - ảnh 1
สถานที่เลือกตั้งแห่งหนึ่งในยูเครน

หลังจากที่กองกำลังชาตินิยมสายกลางและพรรคการเมืองต่างๆที่นิยมตะวันตกได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อวันที่๒๖ตุลาคม งานที่ต้องปฏิบัติต่อไปและเต็มไปด้วยความยากลำบากก็คือการจัดตั้งรัฐบาลผสมซึ่งผลการนับคะแนนประมาณร้อยละ๙๘.๔ปรากฎว่า พรรคแนวร่วมประชาชนของนายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซ็นยุคได้รับคะแนนสนับสนุนร้อยละ๒๒.๑๗ ส่วนกลุ่มโปโรเชนโกของประธานาธิบดีคนปัจจุบันเปโตร โปโรเชนโกก็ได้คะแนนสนับสนุนสูสีคู่คี่คือร้อยละ๒๑.๘๒

ยากที่จะสร้างความสมดุลด้านผลประโยชน์ระหว่างพรรคฝ่ายต่างๆในรัฐบาลชุดใหม่

หลังการเลือกตั้ง หลายคนหวังว่า สองพรรคนี้จะร่วมมือกันในรัฐบาลชุดใหม่และนายอาร์เซนีย์ ยัตเซ็นยุคจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปแต่เพื่อได้ที่นั่งข้างมากในรัฐสภา สองพรรคนี้ต้องร่วมมือกับพรรคช่วยเหลือตนเองที่อยู่อันดับ๓ในการเลือกตั้ง แต่เมื่อวันที่๒๙ตุลาคม นายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซ็นยุคได้ออกมายอมรับว่า เขามีความประสงค์ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีแต่กลับคัดค้านข้อเสนอของกลุ่มโปโรเชนโกและเสนอร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นๆที่อยู่ในอันดับถัดไปซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ว่า พรรคการเมืองต่างๆที่นิยมยุโรปได้รับชัยชนะแต่การจัดตั้งรัฐบาลผสมที่สามารถสร้างความสมดุลด้านผลประโยชน์ระหว่างฝ่ายต่างๆมิใช่เรื่องง่าย

ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคฝ่ายต่างๆในยูเครนยังคงมีความรุนแรงโดย แนวทางแห่งสันติภาพและไกล่เกลี่ยปรองดองชาติพร้อมกับการรณรงค์เจรจากับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของประธานาธิบดีโปโรเชนโกไม่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายนิยมการต่อสู้ซึ่งตัวแทนคือนายกรัฐมนตรียัตเซ็นยุค ดังนั้น หลังการเลือกตั้ง นายยัตเซ็นยุคแถลงว่า รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆกับกลุ่มก่อการร้ายในภาคตะวันออกและต้องทำการต่อสู้เพื่อประเทศต่อไป ส่วนในขณะที่ประธานาธิบดีโปโรเชนโกกำลังพยายามสร้างภาพลักษณ์ของนักการเมืองสายกลาง สนับสนุนการปฏิรูปเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและสามารถสมานความแตกแยกในสังคมยูเครนแต่เพื่อนร่วมงานการเมืองของเขากลับเห็นว่า เขาไม่มีความเด็ดเดี่ยวในยุทธนาการทางทหารเพื่อต่อต้านกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

อนาคตใดให้แก่ยูเครน

ในสภาวการณ์ปัจจุบัน  ประธานาธิบดีโปโรเชนโกจะสามารถสร้างกองหนุนที่มีพลังเข้มแข็งเพียงพอเพื่อปฏิบัตินโยบายของตนหรือไม่ก็เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบและดูเหมือนว่า จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาภาคตะวันออกได้เพราะหลังการเลือกตั้งไม่กี่ชั่วโมงได้เกิดการปะทะระหว่างทหารรัฐบาลกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกซึ่งทำให้ประชาชนผู้บริสุทธ์หลายคนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุทำลายนครบางแห่งภายใต้การควบคุมของรัฐบาลและ ในวันที่๒พฤศจิกายน  ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง๔ล้านคนในเขตแบ่งแยกดินแดนภาคตะวันออกก็จะจัดการเลือกตั้งซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่อยากมีความเกี่ยวข้องกับส่วนกลางและไม่อยากอยู่ภายใต้การบริหารควบคุมของรัฐบาลนิยมตะวันตกโดยเมืองโดเนตสค์และเมืองลูฮันสก์ได้ยืนยันว่า จะไม่ทำการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงและจะยึดคืนเขตที่ถูกทหารรัฐบาลยึดครองซึ่งแสดงให้เห็นว่า แม้ว่าทางการประธานาธิบดีโปโรเชนโกจะมีเจตนาดีเพื่อไกล่เกลี่ยปรองดองแต่ก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จตามความปรารถนา

อีกปัญหาหนึ่งคือพลังงานเพราะต้องหาทางค้ำประกันพลังงานในขณะที่ฤดูหนาวกำลังใกล้มาถึงซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของนายโปโรเชนโก   จนถึงปัจจุบัน คำถามเกี่ยวกับแหล่งงบเพื่อชำระหนี้ให้แก่รัสเซียเพื่อจะได้มีพลังงานไว้ใช้ต่อไปก็ยังไม่มีคำตอบ นอกจากนี้ ยูเครนยังเผชิญกับปัญหาไม่มีแหล่งสนับสนุนงบประมาณ เงินเฟ้อในระดับสูงและช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนนับวันเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ยูเครนมีอนาคตที่มืดมนจนทำให้ ประชาชนรู้สึกว่า กำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงและรู้สึกเฉยชาและไม่หวังการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง ความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ความล่อแหลมต่อการเกิดความไม่สงบ การขาดแคลนพลังงาน ภัยหิวโหย ความหนาวเหน็บและเศรษฐกิจซบเซาล้วนเป็นปัญหาที่ยูเครนต้องเผชิญหน้า

ขณะนี้ ยูเครนต้องจัดตั้งพันธมิตรทางการเมืองเพื่อกอบกู้สันติภาพและทำการปฏิรูปอย่างกว้างลึกเพื่อนำประเทศหลุดพ้นจากวิกฤตอย่างรุนแรงแต่จากความผันผวนในปัจจุบัน ทำให้ยากที่จะมีก้าวกระโดดเพื่อพลิกกลับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังถลำลึกในวิกฤต././?     

Komentar