หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน

Ánh Huyền-VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง จะเริ่มการเยือนประเทศแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่านในระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคมเพื่อเป็นการยืนยันถึงความปรารถนาของเวียดนามในการสร้างก้าวเดินใหม่ ที่จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในความสัมพันธ์กับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน
(VOVworld)ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง จะเริ่มการเยือนประเทศแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่านในระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคมเพื่อเป็นการยืนยันถึงความปรารถนาของเวียดนามในการสร้างก้าวเดินใหม่ที่จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในความสัมพันธ์กับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน

หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน - ảnh 1
ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง จะเริ่มการเยือนแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่านในระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคม

การเยือนแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่านคือกิจกรรมด้านการต่างประเทศที่สำคัญของเวียดนามในปี 2016 เพื่อหารือถึงมาตรการที่เป็นรูปธรรมและจริงจังเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับสามประเทศเหล่านี้
ขยายความร่วมมือกับแทนซาเนียและโมซัมบิก
ประเทศแรกในกรอบการเยือนต่างประเทศเป็นเวลา 6 วันของประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง คือแทนซาเนียที่ตั้งอยู่ในชายฝั่งตะวันออกของแอฟริกา เศรษฐกิจของแทนซาเนียอาศัยการเกษตรเป็นหลักและปัจจุบัน แทนซาเนียคือประเทศที่ผลิตทองคำมากเป็นอันดับ 3 ของแอฟริกา เวียดนามมีสัมพันธไมตรีที่ยาวนานและดีงามกับแทนซาเนียโดยทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1965 เวียดนามและแทนซาเนียมีความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจและกำลังมีแนวโน้มพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ในด้านการเกษตรและสัตว์น้ำ แทนซาเนียมีความประสงค์ว่า เวียดนามจะส่งผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่เทคนิคและเกษตรกรไปยังแทนซาเนีย ผู้ประกอบการเวียดนามจะลงทุนในด้านเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็กและผลิตเกษตรเพื่อจัดสรรให้แก่แทนซาเนียและตลาดของ 5 ประเทศในแอฟริกาตะวันออก มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในช่วงปี 2010-2013 บรรลุกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เมื่อปี 2015 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 204 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมูลค่าการส่งออกของเวียดนามอยู่ที่ 64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในด้านการลงทุน เมื่อเดือนกันยายนปี 2014 เครือบริษัทโทรคมนาคมกองทัพ Viettel ได้เสร็จสิ้นการเจรจาและจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Viettel แทนซาเนีย รวมยอดเงินลงทุนกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐและได้รับใบอนุญาตก่อสร้างและเปิดใช้เครือข่ายโทรคมนาคม 3 จีในแทนซาเนียและเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปี 2015 เครือข่ายโทรคมนาคม Halotel ของ Viettel ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในแทนซาเนีย
หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนแทนซาเนีย ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางจะเดินทางไปเยือนโมซัมบิกในระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม โมซัมบิกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาโดยมีสินค้าเกษตรหลักคือ ฝ้าย มะม่วงหิมพานต์ ธัญญาหาร อ้อยและถั่วลิสง เป็นต้น เวียดนามและโมซัมบิกมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานและดีงามตั้งแต่ช่วงต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ ทั้งสองประเทศได้สถานปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนปี 1975 สำหรับความร่วมมือด้านการค้า ตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2010 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับโมซัมบิกเพิ่มขึ้น 3 เท่าคือจากประมาณ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็นกว่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการแลกเปลี่ยนการค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเมื่อปี2015 มูลค่าการค้าบรรลุกว่า 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุน ปัจจุบัน เวียดนามมีกลุ่มบริษัท Viettel และ Hapro ที่กำลังลงทุนในโมซัมบิกในด้านโทรคมนาคมและการค้า ในด้านการเกษตร เวียดนามและโมซัมบิกมีโครงการร่วมมือทวิภาคีและไตรภาคีหลายโครงการ รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และฝึกอบรมเทคนิคพัฒนาการเกษตรและสัตว์น้ำ
หน้าใหม่ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน - ảnh 2
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปี 2015 เครือข่ายโทรคมนาคม Halotel ของ Viettel ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในแทนซาเนีย (viettel.vn)

ขยายความร่วมมือกับอิหร่าน
ประเทศสุดท้ายที่ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซางและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามจะเดินทางไปเยือนคืออิหร่านซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมเปอร์เซียซึ่งยังคงมีกิจการด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน หลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ในทุกด้านเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2015 และปฏิบัติข้อตกลงฉบับนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปีนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่มประเทศพี 5+1 ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยสหประชาชาติ สหรัฐและประเทศตะวันตกได้เริ่มยกเลิกการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจต่ออิหร่านซึ่งเศรษฐกิจของอิหร่านกำลังค่อยๆฟื้นตัวโดยในปี 2015 เศรษฐกิจอิหร่านขยายตัวร้อยละ 2 และเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 29 ของโลก
เวียดนามและอิหร่านมีสัมพันธไมตรีที่ยาวนานและดีงามโดยทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมปี 1973 เมื่อปี 1991 อิหร่านได้เปิดสถานทูตประจำกรุงฮานอย และเมื่อปี 1997 เวียดนามได้เปิดสถานทูตประจำกรุงเตหะรานและมีการจัดตั้งสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-อิหร่านเมื่อเดือนกันยายนปี 2009 ทั้งสองประเทศได้จัดการประชุมทาบทามทางการเมือง 6 ครั้งและการประชุมคณะรัฐบาลร่วม 8 ครั้ง เวียดนามและอิหร่านมีความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเบื้องต้นซึ่งคาดว่าจะมีการพัฒนาที่เข้มแข็งในเวลาที่จะถึง มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศเมื่อปี 2015 บรรลุกว่า 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงหลายครั้ง รวมทั้งการเยือนอิหร่านของประธานประเทศ เลดึ๊กแองเมื่อปี 1994 ประธานประเทศ เจิ่นดึ๊กเลืองเมื่อปี 2002 ประธานรัฐสภา นงดึ๊กแหม่งเมื่อปี 1999 รองนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงเมื่อปี 2000 รองนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกเมื่อปี 2014  ส่วนประธานาธิบดีอิหร่าน โมฮัมเหม็ด อามาดีเนจัดได้เดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อปี 2012 และประธานรัฐสภา A.Natech ก็ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อปี 1998
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ดังกล่าว การเยือนประเทศแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่านของประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง ครั้งนี้ก็เพื่อปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่เปิดกว้างของเวียดนาม หารือถึงมาตรการขยายความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้าน เสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่ยาวนานระหว่างเวียดนามกับประเทศเหล่านี้ จะช่วยเปิดหน้าใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับแทนซาเนีย โมซัมบิกและอิหร่าน.

Komentar