ภาพการประชุม
|
ภายใต้หัวข้อ “การทูตเวียดนาม: เป็นฝ่ายรุก มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติมติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ให้ประสบความสำเร็จ” การประชุมครั้งนี้เน้นประเมินสถานการณ์โลก ผลักดันงานด้านการพัฒนาหน่วยงาน ยกระดับสถานะของการทูตพหุภาคี ผลักดันการผสมผสานและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในเวลาข้างหน้า
ประเมินอย่างถูกต้องเพื่อให้การสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ในเวลาที่ผ่านมา หน่วยงานการทูตได้ประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ จัดตั้งและยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และรอบด้านกับ 27 หุ้นส่วน ผลักดันการเจรจาและการลงนามข้อตกลงการค้าเสรี 16 ฉบับ ซึ่งเป็นพื้นฐานทางการเมือง เศรษฐกิจและนิตินัยที่มีคุณค่าเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามมีความเสมอภาค ได้รับประโยชน์และได้สิทธิพิเศษในการทำธุรกิจในตลาดโลก ควบคู่กันนั้น การเยือนระดับสูงครั้งต่างๆก็เป็นโอกาสให้สถานประกอบการเข้าร่วมฟอรั่มเศรษฐกิจและลงนามในสัญญาและโครงการที่มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่อย่างไรก็ตาม บนเส้นทางแห่งการผสมผสาน สถานประกอบการคือฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความผันผวนของโลก ยกตัวอย่างเช่น การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ได้สร้างความท้าทายต่างๆที่สามารถเห็นอย่างชัดเจนในปัจจุบัน เช่น การพัฒนาของการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ของธุรกิจ start-up และผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีต่างๆ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เวียดนามจะเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี 16 ฉบับกับ 59 หุ้นส่วน ซึ่งเวียดนามต้องปฏิบัติคำมั่นที่ให้ไว้เกี่ยวกับการเปิดประเทศ ดังนั้นนี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ลำบากสำหรับสถานประกอบการเวียดนามในการใช้โอกาสนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและก็ถือเป็นโจทย์ที่หน่วยงานการทูตเวียดนามและสำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามในต่างประเทศต้องหาคำตอบว่า ต้องทำอย่างไรเพื่อสามารถก้าวเดินไปพร้อมกับสถานประกอบการได้อย่างแท้จริง
สนับสนุนสถานประกอบการเวียดนามสู่ตลาดโลก
นายห่ากิมหงอก เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐเผยว่า แม้เวียดนามมีความได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐและมีนโยบายหลักที่มีเสถียรภาพแต่สำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามประจำสหรัฐก็จำเป็นต้องมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมการทูต “รัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มักจะมีการตัดสินใจต่างๆที่ไม่มั่นคงแน่นอนทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก ดังนั้นพวกเราตั้งเป้าไว้ว่า ต้องธำรงบรรยากาศที่สะดวกเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่างๆให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งความสัมพันธ์การค้าและการลงทุน โดยพยายามให้ความสัมพันธ์นี้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุกในการเชื่อมโยงและช่วยให้รัฐบาลใหม่ของสหรัฐตระหนักได้ดีว่า เวียดนามมีบทบาทและสถานะสำคัญในเอเชีย – แปซิฟิกและเวียดนามคือหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่ความร่วมมือในหลายด้าน เช่น การค้า การลงทุนและผลักดันการทำธุรกิจของสถานประกอบการเวียดนาม”
สำหรับแนวทางปฏิบัติของสำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามประจำญี่ปุ่นได้เน้นธำรงความสัมพันธ์ที่ดีงามและสร้างบรรยากาศที่สะดวกมากที่สุดเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือทางการค้าและการลงทุนเพื่อเปิดโอกาสให้สถานประกอบการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น นาย เหงียนก๊วกเกื่อง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำญี่ปุ่นเผยว่า “ปัจจุบันนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นอยู่ในระยะที่ดีที่สุด ซึ่งเปิดโอกาสให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสถานประกอบการระหว่างสองประเทศ เมื่อข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพีมีผลบังคับใช้ จะเปิดโอกาสมากมายให้แก่เวียดนามเพราะสินค้าเกษตรที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่นไม่ถูกเก็บภาษี”
อาจกล่าวได้ว่า ความต้องการของสถานประกอบการมีความหลากหลายมาก แต่ละหน่วยงานมีลักษณะเฉพาะของตนเอง โดยกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานงานอย่างใกล้ชิดได้ช่วยให้เครือข่ายของสำนักงานตัวแทนและชมรมสถานประกอบการกลายเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่น่าเชื่อถือและเดินไปพร้อมกันบนเส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ รองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท TH True Milk โงมิงห์หายประเมินว่า “ในกระบวนการพัฒนาของกลุ่มบริษัทฯ มีส่วนร่วมที่สำคัญจากหน่วยงานการทูตเวียดนาม เช่น ในการเดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมกับเวียดนาม แสวงหาหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของอิสราเอลในการเลี้ยงโคนม ผลสำเร็จในเบื้องต้นได้นำไปสู่การสร้างเครื่องหมายการค้าและนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในตลาดโลก”
ในสภาวการณ์ใหม่ หน่วยงานการทูตเวียดนามกำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการสนับสนุนและแก้ไขอุปสรรคกับสถานประกอบการเพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ให้คำปรึกษาอย่างทันการณ์ มีปฏิบัติการอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมต่อภารกิจผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ.