(VOVWorld) – เมื่อวันที่๑๖เมษายน ที่ประเทศสหรัฐ ได้เกิดเหตุระเบิด๒ครั้งซ้อนที่จัตุรัสCopley ใจกลางนครบอสตัน ที่กำลังมีการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งใหญ่โดยมีผู้เข้าร่วมนับหมื่นคน รวมทั้งนักกีฬาจาก๙๖ประเทศซึ่งได้สร้างความไม่พอใจในหมู่ประชามติ ถึงแม้ว่า หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ให้คำมั่นว่า จะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุและผู้บงการมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว แต่นี่ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่มีต่อทางการของประธานาธิบดีบารัก โอบามา
|
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย๓คนและได้รับบาดเจ็บอีกกว่า๑๗๐คน(Photo:vov.vn) |
เหตุระเบิดใกล้เส้นชัยของการแข่งขันบอสตันมาราธอนทำให้การแข่งขันกีฬาที่คึกคักกลายเป็นความสูญเสียอย่างนองเลือดซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย๓คนและได้รับบาดเจ็บอีกกว่า๑๗๐คน จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นจำนวนมาก หลังเหตุระเบิดนี้ นายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐได้กำชับให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศสหรัฐและได้กล่าวให้คำมั่นผ่านทางสถานีโทรทัศน์ว่า จะนำตัวผู้ก่อเหตุและผู้บงการมาดำเนินคดี เหตุระเบิดนี้ทำให้ผู้คนคิดถึงเหตุระเบิดก่อการร้ายเมื่อกว่า๑๐ปีก่อน และประชามติเห็นว่า นี่เป็นอุปสรรคแรกสำหรับผู้กุมบังเหียนทำเนียบขาว เมื่อเริ่มวาระที่๒ซึ่งเคยให้คำมั่นว่า จะเน้นแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การควบคุมอาวุธปืน คนเข้าเมือง การขาดดุลย์งบประมาณและการต่อต้านการก่อการร้าย หลังเหตุระเบิดนี้ เมื่อวันที่๑๖เมษายน บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปหรือEU องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้และสหพันธ์กรีฑานานาชาติหรือIAAF ประณามเหตุระเบิดดังกล่าว และถือว่า นี่เป็นการโจมตีความกล้าหาญและมนุษยธรรม ส่วนรัสเซีย จีน เยอรมนี ฝรั่งเศส อิหร่าน อัฟกานิสถาน สิงคโปร์ และตุรกีก็ได้ประณามเหตุระเบิดดังกล่าวเช่นกันและแสดงความสามัคคีกับชาวอเมริกัน ท่านวลาดีเมีย ปูตีน ประธานาธิบดีรัสเซีย ท่านสีจิ๊นผิงประธานประเทศจีน และผู้นำอีกหลายประเทศได้ส่งโทรเลขแสดงความเสียใจถึงประธานาธิบดีบารัก โอบามา
|
เหตุระเบิดที่นครบอสตัน(Photo:kenh14.vn) |
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามาและเจ้าหน้าที่สหรัฐยังไม่ได้พูดถึงคำว่า ก่อการร้าย แต่ประชาคมระหว่างประเทศยังคงคิดถึงเหตุก่อการร้ายในอดีต ซึ่งเมื่อกว่า๑๐ปีก่อน เหตุก่อการร้ายวันที่๑๑กันยายนปี๒๐๐๑ได้ทำให้สถานภาพความมั่นคงในสหรัฐและโลกมีการเปลี่ยนแปลงไป จากเหตุการณ์นี้ วอชิงตันได้เปิดสงครามในอัฟกานิสถานเพื่อไล่ล่าและสังหารขุมกำลังของอัล กออิดะห์และ การไล่ล่าที่ใช้เวลา๑ทศวรรษและสิ้นเปลืองงบประมาณไม่น้อยได้ยุติลง เมื่อหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัล กออิดะห์บิน ลาเดนถูกสังหารที่ปากีสถาน เมื่อเดือนพฤษภาคมปี๒๐๑๑ซึ่งในตอนนั้น ชาวอเมริกันรู้สึกโล่งอกเหมือนพ้นทุกข์ที่อยู่ใจมานานซึ่งจากความสำเร็จนี้ สหรัฐได้ตัดสินใจถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานหลังจากที่เข้าร่วมสงครามในประเทศนี้มากว่า๑๐ปี แต่เหตุระเบิดครั้งนี้ได้ทำให้หลายคนเปลี่ยงท่าทีไปเพราะเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมรำลึกครบรอบ๒ปีการสังหารหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์บิน ลาเดนซึ่งตรงกับวันที่๒พฤษภาคมและเกิดขึ้นประจวบเหมาะกับวันหยุดในโอกาสเทศกาลรักชาติที่๑๕เมษายน เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในนครที่กำลังมีการแข่งขันกีฬาโดยมีผู้เข้าร่วมนับหมื่นคนพร้อมกับผู้ติดตามชมเกือบ๒หมื่น๗พันคนและเป็นนครที่ถือว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษา ที่มีมหาวิทยาลัยHavard และก็เป็นศูนย์กลางทางการเงินของสหรัฐได้สร้างความหวาดผวาให้แก่โลก โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐ แม้ว่า ปากีสถานและขบวนการตาลีบันได้ประกาศว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าวและบรรดาผู้สันทัดกรณีก็ถือว่า เหตุระเบิดนี้เป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาก่อขึ้น และเกี่ยวข้องกับปัญหาภายในประเทศ อีกทั้งเหตุระเบิดนี้ได้เตือนความใส่ใจเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายที่วอชิงตันกำลังดำเนินอยู่
|
นายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐกำชับให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศสหรัฐ(Photo:vov.vn) |
จนถึงขณะนี้ สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐหรือFBIซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการต่อต้านการก่อการร้ายก็กำลังออกตามล่าตัวมือระเบิด นายCharles Stone อดีตเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนรัฐGeorgia และอดีตสมาชิกทีมต่อต้านการวางระเบิดของFBIเผยว่า เหตุระเบิดที่บอสตันเหมือนเหตุระเบิดในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแอตแลนตาสหรัฐ เมื่อปี๑๙๙๖ และเหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดหุ้นซึ่ง ดัชนีย์S and P ๕๐๐ลดลงร้อยละ๒ ดัชนีย์ Dow Jones ลดลงร้อยละ๑.๗๙ และดัชนีย์Nasdaqลดลงร้อยละ๑.๙๔ บรรดานักลงทุนได้เทขายทั้งน้ำมันและทองคำแต่ที่อันตรายที่สุดคือ ผลกระทบที่มีต่อจิตใจของชาวอเมริกันเมื่อเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับเหตุก่อการร้ายเมื่อกว่า๑๐ปีก่อนได้กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง./.