สหภาพยุโรปและเป้าหมายลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในความพยายามเพื่อผลักดันความมั่นคงของแหล่งจัดสรรพลังงานให้แก่สหภาพยุโรปหรืออียู ประเทศสมาชิกของอียูได้บรรลุข้อตกลงขอความร่วมมือโดยสมัครใจในการลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15 ในช่วงฤดูหนาวนี้ แต่อย่างไรก็ตาม การบรรลุเป้าหมายนี้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย
สหภาพยุโรปและเป้าหมายลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15 - ảnh 1ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ในเมือง Lubmin ประเทศเยอรมนี (AFP)

ตามข้อตกลง ประเทศต่างๆ จะลดปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติโดยสมัครใจตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2022 ถึงเดือนมีนาคมปี 2023 เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้เฉลี่ยในช่วงปี 2017-2021 เป้าหมายการปรับลดนี้อาจกลายเป็นข้อบังคับในกรณีฉุกเฉินเกี่ยวกับแหล่งจัดสรร

ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน

บรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า ฤดูหนาวปี 2022-2023 นี้จะประสบอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะ ถ้าหากอุณหภูมิลดลงอย่างมาก เป้าหมายลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้สหภาพยุโรปฟันฝ่าฤดูหนาวนี้

ตามการคาดการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรป ถ้าหากสหภาพยุโรปลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15  ประเทศสมาชิกของกลุ่มนี้จะสามารถลดการใช้ก๊าซธรรมชาติได้ 4 หมื่น 5 พันล้านลูกบาศก์เมตร แต่ประเทศสมาชิกสามารถขอผ่อนผันปริมาณการใช้ที่มากกว่านี้ได้ ทางการอียูเชื่อว่า แผนการดังกล่าวจะช่วยให้สหภาพยุโรปฟันฝ่าฤดูหนาวที่สภาพอากาศมีความหนาวในระดับปานกลางได้

เดิมแผนการลดการใช้ก๊าซธรรมชาติมีกำหนดระยะเวลา 2 ปี แต่รัฐบาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ขอลดเวลาลงเหลือ1 ปี และหลังฤดูหนาวปีนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับแผนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับฤดูหนาวปี 2023-2024

ก่อนการประชุมเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทางการของสหภาพยุโรปได้ยอมรับว่า อย่างน้อย 12 จาก 27 ประเทศสมาชิกได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอปรับลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นาย Joao Galamba รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของโปรตุเกสได้ย้ำว่า ลิสบอน "คัดค้าน" แผนการของสหภาพยุโรปเพราะ "ข้อเสนอนี้ไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างประเทศ" ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของกรีซ Kostas Skrekas กล่าวว่า กรีซคัดค้านการบังคับปฏิบัติตามเป้าหมายลดการใช้ก๊าซธรรมชาติและไม่เห็นด้วยกับเพดานจำกัดการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ประกาศโดยสหภาพยุโรป นาง Anna Moskwa รัฐมนตรีกระทรวงภูมิอากาศของโปแลนด์ย้ำว่า  "ไม่สามารถยอมรับการตัดสินใจใดๆ ที่กำหนดไว้สำหรับประเทศต่างๆ ความมั่นคงด้านพลังงานคือสิทธิพิเศษของแต่ละประเทศ" ถึงแม้จะลงคะแนนเห็นชอบข้อตกลงดังกล่าว แต่รัฐมนตรีโปแลนด์ก็ยืนยันว่า อุตสาหกรรมของโปแลนด์จะไม่ถูกบังคับให้ลดการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ส่วนฮังการีซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ประกาศว่า ข้อตกลงฉบับนี้ "ไม่ยุติธรรม ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถใช้บังคับได้และเป็นอันตราย"

ก่อนหน้านั้น ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ปฏิเสธข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีเกี่ยวกับการมอบสิทธิให้แก่คณะผู้บริหารของสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์สามารถกำหนดปริมาณลดการใช้ก๊าซธรรมชาติในกรณีฉุกเฉิน โดยกลุ่มนี้ต้องการให้ 27 ประเทศสมาชิกตัดสินใจเอง ไม่ใช่คณะผู้บริหารของสหภาพยุโรปที่มีสำนักงานในกรุงบรัสเซลส์ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว

สหภาพยุโรปและเป้าหมายลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15 - ảnh 2รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานโปรตุเกส Joao Galamba  (EPA )

การสำรองพลังงาน

บางคนแสดงความวิตกกังวลว่า การลดการใช้ก๊าซธรรมชาติลงร้อยละ 15 อาจไม่เพียงพอเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติในยุโรปในช่วงฤดูหนาวนี้ได้ เพราะระดับของปริมาณพลังงานสำรองในปัจจุบันของประเทศต่าง ๆ มีความแตกต่างกันมาก จนถึงขณะนี้ ทั้งสหภาพยุโรปสามารถลดการใช้ก๊าซธรรมชาติได้เพียงประมาณร้อยละ 5 เท่านั้น ถึงแม้ว่า ราคาก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และแหล่งจัดสรรจากรัสเซียถูกควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นก็ตาม

ในภาพรวม สหภาพยุโรปมีแผนที่จะจัดสรรก๊าซธรรมชาติประมาณร้อยละ 80 ของปริมาณสำรองในวันที่ 1 พฤศจิกายนเพื่อค้ำประกันแหล่งจัดสรรสำหรับฤดูหนาว ในขณะที่เยอรมนีตั้งเป้าการสำรองไว้ที่ร้อยละ 95 ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

ฐานข้อมูลของสำนักงานด้านโครงสร้างพื้นฐานก๊าซยุโรประบุว่า จนถึงขณะนี้ ปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติของยุโรปอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 66  ส่วนสำหรับเยอรมนี จนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองอยู่ที่ร้อยละ 65.91

นาง Kateryna Filippenko นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทที่ปรึกษา Wood Mackenzie กล่าวว่า ยุโรปน่าจะผ่านพ้นฤดูหนาวนี้ไปได้ โดยเหลือก๊าซธรรมชาติร้อยละ 20 ในคลังภายในสิ้นเดือนมีนาคมปี 2023 ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำมาก .

ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านพลังงานซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ดังนั้น ประเทศยุโรปต้องทำงานร่วมกันถ้าหากอยากฟันฝ่าฤดูหนาวโดยไม่เผชิญการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่แม้ว่าประเทศสหภาพยุโรปจะทำเช่นนั้น ฤดูหนาวครั้งหน้าในช่วงปี 2023-2024 ก็อาจเผชิญกับราคาก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดก็เป็นได้.

ก่อนการประชุมเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทางการของสหภาพยุโรปได้ยอมรับว่า อย่างน้อย 12 จาก 27 ประเทศสมาชิกได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอปรับลดการใช้ก๊าซ โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นาย Joao Galamba รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของโปรตุเกสได้ย้ำว่า ลิสบอน "คัดค้าน" แผนการของสหภาพยุโรปเพราะ "ข้อเสนอนี้ไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างประเทศ" ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของกรีซ Kostas Skrekas กล่าวว่า กรีซคัดค้านการบังคับปฏิบัติตามเป้าหมายลดการใช้ก๊าซ และไม่เห็นด้วยกับขีดจำกัด การใช้ก๊าซที่ประกาศโดยสหภาพยุโรป นาง Anna Moskwa รัฐมนตรีกระทรวงภูมิอากาศของโปแลนด์ย้ำว่า  "ไม่สามารถยอมรับการตัดสินใจใดๆ ที่กำหนดไว้สำหรับประเทศต่างๆ ความมั่นคงด้านพลังงานคือสิทธิพิเศษของประเทศ" ถึงแม้จะลงคะแนนเห็นชอบข้อตกลงดังกล่าว แต่รัฐมนตรีโปแลนด์ก็ยืนยันว่า อุตสาหกรรมของโปแลนด์จะไม่ถูกบังคับให้ลดการใช้ก๊าซเพื่อช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ส่วนฮังการีซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ประกาศว่า ข้อตกลงฉบับนี้ "ไม่ยุติธรรม ไร้ประโยชน์ ใช้บังคับไม่ได้และเป็นอันตราย"

ก่อนหน้านั้น ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้ปฏิเสธข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซีเกี่ยวกับการมอบสิทธิให้แก่บรัสเซลส์ในการกำหนดการลดก๊าซในกรณีฉุกเฉิน โดยกลุ่มนี้ต้องการให้ 27 ประเทศสมาชิกเอง ไม่ใช่คณะผู้บริหารของสหภาพยุโรปที่มีสำนักงานในกรุงบรัสเซลส์ตัดสินใจกรอบเวลาและวิธีการปฏิบัติเป้าหมายที่มีผลผูกพัน

การสำรองพลังงาน

บางคนแสดงความวิตกกังวลว่า การลดความต้องการใช้ก๊าซลงร้อยละ 15 จะยังไม่พอเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนก๊าซในยุโรปในช่วงฤดูหนาวนี้ได้ ระดับของปริมาณสำรองพลังงานในปัจจุบันแตกต่างกันมากระหว่างประเทศต่างๆ จนถึงขณะนี้ ทั้งสหภาพยุโรปได้ลดการใช้ก๊าซลงเพียงประมาณร้อยละ 5 ถึงแม้ว่า ราคาก๊าซจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และแหล่งจัดสรรจากรัสเซียถูกควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้นก็ตาม

ในภาพรวม สหภาพยุโรปมีแผนที่จะจัดสรรก๊าซประมาณร้อยละ 80 ของคลังเชื้อเพลิงในวันที่ 1 พฤศจิกายนเพื่อค้ำประกันแหล่งจัดสรรสำหรับฤดูหนาว เยอรมนีตั้งเป้าหมายที่สูงกว่าคือเติมน้ำมันร้อยละ 95 ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ฐานข้อมูลจากสำนักงานด้านโครงสร้างพื้นฐานก๊าซยุโรปปรากฎว่า จนถึงขณะนี้ ปริมาณสำรองก๊าซของยุโรปอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 66  สำหรับเยอรมนี จนถึงวันที่ 23 กรกฎาคม ปริมาณสำรองก๊าซของประเทศนี้อยู่ที่ร้อยละ 65.91

นาง Kateryna Filippenko นักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทที่ปรึกษา Wood Mackenzie กล่าวว่า ยุโรปน่าจะผ่านพ้นฤดูหนาวนี้ไปได้ โดยเหลือก๊าซเพียงร้อยละ 20 ไว้ในคลังภายในสิ้นเดือนมีนาคมปี 2023 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมาก .

            ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ ระบบพลังงานของยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤต ภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านพลังงานมีจริง ดังนั้น ประเทศยุโรปต้องทำงานร่วมกันถ้าหากอยากฟันฝ่าฤดูหนาวโดยไม่สูญเสียครั้งใหญ่ แต่แม้ว่าประเทศสหภาพยุโรปจะทำเช่นนั้น ฤดูหนาวปีหน้าในช่วงปี 2023-2024 ราคาก๊าซยังคงมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน.

Komentar