สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยเร็ว

Lai Hoa - Thu Hoa - VOV
Chia sẻ
(VOVworld) – ร่างรายงานการเมืองที่จะยื่นเสนอต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 มีการปรับปรุงเป้าหมายด้านยุทธศาสตร์ คือเปลี่ยนจากเป้าหมายเดิมคือ “ถึงปี 2020 จะพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน” เป็น “สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยเร็ว” สำหรับเนื้อหานี้ เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า นี่คือการมองที่ถูกต้อง เกาะติดสานการณ์และเหมาะสม

(VOVworld) – ร่างรายงานการเมืองที่จะยื่นเสนอต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 มีการปรับปรุงเป้าหมายด้านยุทธศาสตร์ คือเปลี่ยนจากเป้าหมายเดิมคือ “ถึงปี 2020 จะพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน” เป็น “สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยเร็ว” สำหรับเนื้อหานี้ เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า นี่คือการมองที่ถูกต้อง เกาะติดสานการณ์และเหมาะสม

สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยเร็ว - ảnh 1
ดร.เฉิ่นยูหลิก ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจและสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 13
เป้าหมายในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 7 เมื่อปี 1991 คือ เวียดนามจะพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมในขั้นพื้นฐานในปี 2020 แต่ไม่สามารถบรรลุได้ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากการที่เวียดนามยังปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจไม่แล้วเสร็จ และยังมีการใช้รูปแบบการขยายตัวแบบเก่าจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับยุคแห่งการแข่งขันและผสมผสานในปัจจุบัน ดังนั้น จนถึงขณะนี้ การอุตสาหกรรมของเวียดนามจึงยังอยู่ในระดับรับว่าจ้างและการผลิตที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรและค่าแรงต่ำ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามส่วนใหญ่อาศัยเงินทุนและทรัพยากรเป็นหลัก
ใช้โอกาสเพื่อพัฒนา
ดร.เฉิ่นยูหลิก ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจและสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 13 ได้ชี้แจงถึงสองโอกาสที่เวียดนามต้องรู้จักใช้อย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตคือ บรรยากาศเศรษฐกิจมหภาคค่อนข้างมีเสถียรภาพ รวมทั้งเงื่อนไขการผสมผสานและสถานะของเวียดนามที่นับวันยิ่งสะดวกมากขึ้น “ในด้านศักยภาพและสถานะ เราสามารถทำการปรับปรุงโครงสร้างได้ดีกว่านี้ในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อผลักดันกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยอย่างรวดเร็ว ผมคิดว่า จะมีปัญหาใหญ่ๆบางประเด็นที่ถูกยื่นเสนอในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 นี้ หนึ่งคือ ต้องปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่ในด้านระเบียบการอย่างรวดเร็วเพราะมันเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา สองคือต้องระดมพลังภายในประเทศทุกแหล่งอย่างเข้มแข็งมากขึ้นและสามคือต้องใช้บุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ส่วนดร.ฝ่ามยามิงห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและรองเลขาธิการสมาคมประสานชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเผยว่า ต้องกำหนดเป้าหมายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เน้นเป้าหมายที่สะท้อนระดับการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจและสังคม การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในระยะต่อไปคือการผลักดันการปฏิบัติรูปแบบการพัฒนาดังกล่าวโดยมีเงื่อนไขคือ การพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงปัญญา ถือวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทางปัญญาและบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเป็นพลังขับเคลื่อน ดร.ฝ่ามยามิงห์ยืนยันว่า ต้องสร้างสรรค์โครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างแรงงานให้เหมาะสม พัฒนาจุดแข็งในการเปรียบเทียบ ผลผลิตของแรงงานและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในการผลิตและห่วงโซ่การผลิตของโลก “ควรสร้างสรรค์เขตการค้าตามรูปแบบของสาธารณรัฐเกาหลี ไต้หวันและสิงคโปร์ ซึ่งพวกเราควรศึกษาและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา ส่วนเจ้าหน้าที่ข้าราชการจะต้องมีเงินเดือนสูงเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ให้แก่เศรษฐกิจพัฒนา หัวใจของการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกคือผลผลิตของแรงงาน”
สร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยโดยเร็ว - ảnh 2
ศ.หวูเยืองนิงห์ ครูประชาชนจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอย
มนุษย์เป็นปัจจัยชี้ขาดการพัฒนา
ศ.หวูเยืองนิงห์ ครูประชาชนจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยเผยว่า เพื่อสร้างสรรค์สังคมอุตสาหกรรม จะต้องมีบุคลากรที่สอดคล้องกับระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม ซึ่งหมายความว่า ต้องมีระเบียบวินัยทั้งในการผลิตและการใช้ชีวิต แม้เป้าหมายของเราคือ ถึงปี 2020 จะพัฒนาให้เวียดนามเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในขั้นพื้นฐาน แต่สังคมเวียดนามคุ้นเคยกับวิถีชีวิตของเกษตรกรจึงกีดขวางการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรม ศ.หวูเยืองนิงห์ครูประชาชนยืนยันว่า “เพื่อสร้างสรรค์สังคมอุตสาหกรรม จำเป็นต้องสร้างสรรค์บุคลากรที่มีระเบียบวินัยตามแบบอุตสาหกรรมทั้งในการผลิตและการใช้ชีวิต ผมคิดว่านี่ยังคงเป็นจุดอ่อนของคนเวียดนามอยู่”
เพื่อปฏิบัติเป้าหมายที่ได้วางไว้ให้ประสบความสำเร็จ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เปลี่ยนคำว่า “ถึงปี 2020”ให้เป็น “โดยเร็ว” ซึ่งตอบสนองสองเป้าหมายคือ การปรับเวลาอย่างคล่องตัวกับสถานการณ์ความเป็นจริงแต่ยังคงสามารถรักษาเป้าหมายการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยให้พรรคและประชาชนพยายามปฏิบัติต่อไป.

Komentar