(VOVworld) – การประชุมผู้นำฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกครั้งที่ 22ได้เปิดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจี คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเพื่อส่งเสริมบทบาทเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งของเวียดนามในเอเปก มีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อระเบียบวาระการประชุมครั้งนี้
ท่าน เจืองเติ๊นซาง พบปะทวิภาคีกับผู้นำของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปก
|
การประชุมสุดยอดเอเปกปีนี้ที่มีหัวข้อ “กำหนดอนาคตผ่านความร่วมมือเอเชียแปซิฟิก” ได้มีขึ้นเป็นเวลา 2 วันโดยเน้นหารือถึงเนื้อหาต่างๆ เช่นการเชื่อมโยงภายในกลุ่ม การจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกหรือเอฟทีเอเอพีและเนื้อหาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ- การค้าใหม่ ตามการประเมินของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจโลก การประชุมปีนี้ที่ขึ้นในประเทศจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาอย่างเข้มแข็งถือเป็นการสร้างความหวังเกี่ยวกับก้าวเดินใหม่และพลังขับเคลื่อนใหม่ให้เศรษฐกิจสมาชิกต่างๆของเอเปกโดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ในปี 2014 ความท้าทายด้านการพัฒนาและบรรยากาศแห่งสันติภาพได้ปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนทั้งในระดับภูมิภาคและโลก
เส้นทาง 25 ปีแห่งการจัดตั้งและพัฒนาของเอเปก
เอเปกได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 1989 และในตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี เช่นการลดภาษี 3 ครั้ง การค้าภายในกลุ่มเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า การแลกเปลี่ยนระดับประชาชนและบัตรเดินทางของนักธุรกิจในกลุ่มได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างไม่เคยมีมาก่อนซึ่งได้สร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เอเปกและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพัฒนาอย่างคล่องตัว นาย เหงียนเกิ๋มตู๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า“เอเปกมีโครงการที่เป็นรูปธรรมเพื่อพัฒนาการค้า เช่นในช่วงปี 2010-2015 เอเปกได้ปฏิบัติโครงการลดค่าใช้จ่ายและเวลาการทำธุรกรรมซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมประมาณร้อยละ 5 และประหยัดเวลาถึงร้อยละ 6 ให้แก่สถานประกอบการ เอเปกยังอำนวยความสะดวกให้แก่การทำธุรกรรมของสถานประกอบการด้านการค้า เช่นการออกบัตรผู้ประกอบการเอเปกซึ่งช่วยให้สถานประกอบการของเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกไม่ต้องขอวีซ่าเมื่อเดินทางภายในกลุ่ม นอกจากนั้นเอเปกยังมีระบบฐานข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับระเบียบการ นโยบายและกฎหมาย ตลอดจนข้อมูลการค้าของทุกสมาชิกซึ่งช่วยให้สถานประกอบการสามารถประหยัดเวลาการศึกษาตลาดและระเบียบการของเศรษฐกิจสมาชิกในกระบวนการแลกเปลี่ยนการค้า นั่นคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งที่เอเปกได้สนองให้แก่การพัฒนาการค้าของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเวลาที่ผ่านมา”
ปี 2014 ถือเป็นนิมิตหมายแห่งเส้นทาง 25 ปีของการจัดตั้งเอเปกและ 20 ปีที่เอเปกปฏิบัติเป้าหมายต่างๆเกี่ยวกับการเอื้ออำนวยให้แก่การค้าเสรีและการลงทุน ดังนั้น การประชุมเอเปกครั้งที่ 22 คือโอกาสเพื่อให้เอเปกทบทวนผลสำเร็จที่ได้บรรลุและกำหนดแนวทางการพัฒนาในเวลาที่จะถึง
16 ปีที่เวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งของเอเปก
เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของเอเปกเมื่อปี 1998 ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งการปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่กว้างขวาง มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบและหลายฝ่าย มีการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ในตลอด 16 ปีที่ผ่านมา เอเปกได้พิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของกลไกความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์มากมายให้แก่เวียดนาม นาย เหงียนกิ๋มตู๊ได้ย้ำว่า“เอเปกเป็นฟอรั่มเศรษฐกิจที่เปิดกว้างนำมาซึ่งข้อตกลงที่อำนวยความสะดวกให้แก่ประเทศที่มีระดับการพัฒนาที่จำกัดดั่งเช่นเวียดนามในการเลือกเงื่อนไขที่สะดวกเมื่อเข้าร่วม เอเปกยังมีระเบียบการสนทนาเปิดเกี่ยวกับนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายด้านการค้าซึ่งเป็นระเบียบการที่สะดวกให้แก่ประเทศเวียดนามโดยช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของระเบียบการค้าโลกและระเบียบการค้าของตน”
เมื่อย่างเข้าสู่ยุคแห่งยุทธศาสตร์การพัฒนาใหม่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งฟอรั่มเอเปกก็ยิ่งมีความหมายสำคัญมากขึ้นต่อเวียดนามซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความผูกพันที่ใกล้ชิดต่อการพัฒนาของเวียดนามทั้งในด้านเศรษฐกิจ การต่างประเทศ ความมั่นคงและการพัฒนา เมื่อกล่าวถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดนี้ ท่าน บุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า“เอเปกคือภูมิภาคที่มีผลโยชน์ที่ใกล้ชิดกับเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 65 ของยอดการลงทุนของต่างประเทศในเวียดนาม มูลค่าการค้าการส่งออกของเวียดนามไปยังสมาชิกของเอเปก็อยู่ที่ร้อยละ 60 ของยอดการส่งออกในขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนเวียดนามร้อยละ 70 มาจากสมาชิกเอเปก นี่ก็เป็นภูมิภาคที่เวียดนามมีเครือข่ายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนในทุกด้านกับหลายประเทศสมาชิก ดังนั้น เวียดนามจึงตระหนักถึงศักยภาพที่เข้มแข็งดังกล่าวและได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของเอเปกในเชิงรุก”
เพื่อส่งเสริมส่วนร่วมที่เข้มแข็งในเอเปกต่อไป ในการประชุมเอเปกครั้งที่ 22 ที่มีขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้เข้าร่วมการประชุมครบองค์ การสนทนาตามกลุ่มและมีการพบปะกับบรรดาผู้นำของเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อปฏิบัติแนวทางด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายให้ความสำคัญและส่งเสริมบทบาทในกลไกความร่วมมือต่างๆในเอเชียแปซิฟิก ผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับเศรษฐกิจสมาชิกหลักของเอเปก นี่ก็เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามใช้ประโยชน์จากโครงการร่วมมือที่เหมาะสมของเอเปกเพื่อมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมต่อการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สนับสนุนเป้าหมายพัฒนาเศรษฐกิจสังคม เปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวในเวียดนาม โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดเอเปกครั้งที่ 24 ในปี 2017./.