(VOVworld) - ในการสัมมนานานาชาติเกี่ยวกับ “ระเบียบเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่ชนกลุ่มน้อยในเวียดนามและประสบการณ์ของบางประเทศในแถบยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่กำลังมีขึ้น ณ กรุงฮานอย ผู้แทนทุกคนต่างยืนยันว่า พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐเวียดนามให้ความสำคัญต่องานด้านชนเผ่าโดยปฏิบัตินโยบายต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่พวกเขา
|
ชนกลุ่มน้อยมักจะอาศัยในเขตเขาที่อยู่ห่างไกลความเจริญ (Internet) |
เวียดนามมี 54 ชนเผ่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชาติกิง ส่วนชนเผ่าอื่นๆมีจำนวนน้อยกว่า ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย พวกเขาเหล่านี้มักจะอาศัยเขตเขาที่อยู่ห่างไกลความเจริญมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่ำกว่าของชนชาติกิง ดังนั้นพรรคและรัฐเวียดนามจึงประกาศนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายต่อชนกลุ่มน้อยว่า ต้องมีความสามัคคีกัน ความเสมอภาค ให้ความเคารพรักและช่วยเหลือจุนเจือกัน ส่วนการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยได้ประสบความสำเร็จที่น่ายินดี ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการ 134 เกี่ยวกับการช่วยเหลือในด้านที่ดินเพื่อพัฒนาการผลิตและที่พักอาศัย โครงการ 135 เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ - สังคมในตำบลที่ยากจนพิเศษและช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในเขตทุรกันดาน มติที่ 30 a เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจนอย่างรวดเร็วและยั่งยืนให้แก่อำเภอยากจน 62 แห่งในทั่วประเทศ เป็นต้น นาง H Black ชาวบานาที่อาศัยในจ.ดักลั๊กเผยว่า “ พรรคและรัฐให้ความดูแลเอาใจใส่ต่อชนกลุ่มน้อยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยในจ.ดักลัก ซึ่งนโยบายต่างๆของพรรคและรัฐเวียดนามได้สร้างโฉมใหม่ให้แก่หมู่บ้าน เช่น โครงการไฟฟ้า สร้างถนน โรงเรียนและสถานีอนามัย เป็นต้น ซึ่งไม่เคยมีในระบอบการเมืองเมื่อก่อน ที่ผ่านมาชนกลุ่มน้อยไม่รู้จักวิธีการปลูกพืชอุตสาหกรรม ผลิตพันธุ์พืช เช่น กาแฟแต่เดี๋ยวนี้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้แล้ว”
จนถึงขณะนี้ ตำบลเขตเขาทุกแห่งมีสถานีอนามัยและมีโรงเรียนประถมศึกษา รัฐบาลเวียดนามยังอนุมัติให้สอนภาษาของชนกลุ่มน้อยตามศูนย์การศึกษาและโรงเรียนกว่า 7000 แห่งโดยเฉพาะการก่อสร้างโรงเรียนประจำให้แก่เด็กชนกลุ่มน้อยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นความพยายามอย่างสูงเพราะเวียดนามยังเป็นประเทศที่ยากจน นอกจากนี้ ตำบลร้อยละ 95 และอำเภอทุกแห่งในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยก็มีระบบไฟฟ้า ไปรษณีย์และโทรคมนาคม ส่วนสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์แห่งชาติสามารถส่งสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศถึงร้อยละ 90 และร้อยละ 80แล้วตามลำดับ อีกทั้งยังมีการออกอากาศรายการต่างๆเป็นภาษาของชนกลุ่มน้อยอีกด้วย ผลสำเร็จในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและทางจิตใจให้แก่ชนกลุ่มน้อยนั้นเป็นการยืนยันถึงระเบียบการปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่ชนกลุ่มน้อยและมีส่วนร่วมต่อการยกระดับประสิทธิภาพในการปกป้องสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม นาย Đặng Chí Dũng รองหัวหน้าสถาบันวิจัยสิทธิมนุษยชนสังกัดสถาบันการเมืองแห่งชาติโฮจิมินห์ได้ย้ำว่า “ ในเวียดนาม สิทธิมนุษยชนนับวันยิ่งได้รับการปกป้องในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ในความเป็นจริง รัฐได้ปรับปรุงกลไกให้สมบูรณ์ทั้งในระดับส่วนกลางและระดับท้องถิ่นเพื่อปกป้องการปฏิบัตินโยบายและกฏหมายต่างๆ นอกจากนี้ ยังปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่ประชาชนทุกคน”
|
สิทธิการเรียนหนังสือ (Internet) |
เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะสิทธิการพัฒนาจะได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆจากรัฐเวียดนาม ซึ่งถูกระบุอย่างชัดเจ็นในกฏหมาย นโยบายและโครงการเป้าหมายแห่งชาติ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จที่น่ายินดีต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน การศึกษา สาธารณสุข การสร้างงานทำ การอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรม ภาษาและประเพณีอันล้ำค่าของชนกลุ่มน้อย ดังนั้น ในการสัมมนาเกี่ยวกับระเบียบการปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่ชนกลุ่มน้อยในเวียดนาม ผู้เชี่ยวชาญขององค์กรสิทธิมนุษยชนสากลได้ให้ความสำคัญต่อความพยายามของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งนายอูโก การูโซ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของอียูได้กล่าวว่า ตนได้เห็นแง่ดีเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัตินโยบายสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลเวียดนาม
ถึงแม้ว่าได้ประสบผลสำเร็จที่น่ายินดีในด้านนี้ แต่เวียดนามยังคงต้องปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อจะสามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างสมบูรณ์ให้แก่ประชาชนทุกคน ซึ่งรวมทั้งชนกลุ่มน้อยเพราะว่าเวียดนามยังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา นาย Lê Quang Bình หัวหน้าสถาบันวิจัยสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเผยว่า ต้องคำนึงถึงมาตรการแก้ไขอย่างสมบูรณ์เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อย “เราควรมอบที่ดินและพื้นที่ป่าไม้ให้แก่ชนกลุ่มน้อยเพื่อให้พวกเขาสามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นต่อไป ต่อจากนั้นต้องยกเลิกอคติเกี่ยวกับการสร้างบรรยกาศให้แก่การพัฒนาของชนกลุ่มน้อย ประการที่สามคือ ต้องพัฒนาระบบการศึกษาให้แก่ชนกลุ่มน้อยโดยมุ่งไปยังชนกลุ่มน้อยที่เป็นเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่น การเพิ่มความรู้และฝึกอบรมความชำนาญ” การยกระดับความรู้ ปกป้องการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพในเขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจะมีส่วนร่วมต่อการปกป้องสิทธิมนุษยชนให้แก่พวกเขา ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างงานทำเท่านั้น หากยังเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกเกี่ยวกับทักษะความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของชนกลุ่มน้อยเพื่อให้พวกเขาสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะเป็นแนวทางการปฏิบัติของเวียดนามในอนาคต./.