( VOVworld )- ชาวเวียดนามกว่า ๔ ล้าน ๕ แสนคนที่อาศัยและทำงานใน ๑๐๙ ประเทศและเขตดินแดนต่างๆในทั่วโลกเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศเวียดนาม ซึ่งเวทีปัญญาชนเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐิจและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกระยะปี ๒๐๑๖-๒๐๒๐ของเวียดนามและการพบปะระหว่างองค์การที่เกี่ยวข้องกับตัวแทนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายนที่ผ่านมาเป็นกิจกรรมหนึ่งและเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นของชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศต่อกระบวนการสร้างสรรค์บ้านเกิด
ปัญญาชนชาวเวียดนามเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการเพิ่มขีดความ
สามารถในการแข่งขันของเวียดนาม
เวทีปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกของเวียดนามระยะปี ๒๐๑๖-๒๐๒๐ ที่จัดโดยคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนกลางและคณะกรรมการแห่งรัฐว่าด้วยชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกับกระทรวงการต่างประเทศ และการพบปะกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญและปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายนที่ผ่านมาที่จัดโดยแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามกับคณะกรรมการเศรษฐกิจส่วนกลางและคณะกรรมการแห่งรัฐว่าด้วยชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้หารือถึงนโยบายและปัญหาใหญ่ๆเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนแสดงให้เห็นถึงความสนใจของพรรคและรัฐต่อแถวขบวนปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ
ชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเต็มใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ
นับเป็นครั้งแรกที่บรรดานักวิทยาศาสตร์และปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและมีชื่อเสียงในด้านการศึกษาและฝึกอบรม การเงินและการธนาคาร เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ การออกแบบเครื่องบินและการดูแลสุขภาพที่กำลังทำงานในศูนย์ศึกษาวิจัยและมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกเช่น มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด อินเดียนาและมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ปารีสได้เข้าร่วมการพบปะและมีข้อเสนอแนะที่จริงใจเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศในระยะใหม่ต่อพรรคและรัฐ โดยให้ความคิดเห็นว่า รัฐต้องเน้นลงทุนพัฒนาด้านเกษตรกรรมซึ่งปัจจัยหลักในการสร้างสรรค์และอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมในเวียดนาม ศ.เจิ่นหงอกแอง ผู้อำนวยการกลุ่มความคิดริเริ่มเวียดนามเห็นว่า เกษตรกรรมคือรากฐานให้แก่การพัฒนาประเทศ แต่ต้องพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการเกษตร การแก้ไขปัญหาบุคลากรและการผลิตทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ ศ.เจิ่นหงอกแองกล่าวว่า “ เกษตรกรรมนำมาซึ่งความสำเร็จของการปฏิรูปทุกอย่าง พวกเราได้ปฏิรูปการเกษตรประสบความสำเร็จและยังมีศักยภาพมากมาย การพัฒนาเวียดนามเป็นประเทศมหาอำนาจด้านการเกษตรเป็นข้อคิดเห็นที่ดี ในศตวรรษที่ ๒๑ นี้ ทรัพยากรมนุษย์เป็นแหล่งพลังที่สำคัญที่สุด ดังนั้แผนการเพิ่มความรู้และทักษการศึกษาะถือเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่ง ”
ปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศยังแสดงความคิดเห็นว่า รัฐบาลควรแสวงหาการสนับสนุนจากนานาประเทศในการพัฒนาประเทศ อีกทั้งอำนวยความสะดวกและมีความไว้วางใจต่อพวกเขาในการมอบหมายหน้าที่การพัฒนาประเทศและเศรษฐกิจ ตลอดจนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับก้าวกระโดดในการบริหารประเทศโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ พวกเขายังยืนยันว่า จะทุ่มเทเวลา ความรู้ ประสบการณ์และความสัมพันธ์ต่างๆเพื่อร่วมกับพรรค รัฐบาลและแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
เน้นส่งเสริมทรัพยากรชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศมากขึ้น
แถวขบวนปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเป็นศักยภาพของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญต่อภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยของเวียดนาม ดังนั้นในหลายปีที่ผ่านมา พรรคและรัฐเวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายเพื่อดึงดูดปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศให้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจและพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของประเทศ ซึ่งได้ประสบผลเป็นที่น่ายินดี โดยจำนวนปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกลับประเทศทำงานหรือมีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้น ท่านเหงวียนถิ่ยวานรองประธานประเทศได้กล่าวต่อที่ประชุมเวทีผู้เชี่ยวชาญและปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามระยะปี ๒๐๑๖-๒๐๒๐ โดยยืนยันว่า ชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ ปัญญาชนเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากประเทศได้และเป็นศักยภาพของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ ความรู้ ประสบการณ์ในการบริหาร ทักษะความสามารถและเทคโนโลยีของพวกเขาจะมีส่วนช่วยเพิ่มคุณภาพในการพัฒนา การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนามอย่างรวดเร็วและยั่งยืน พรรคและรัฐให้ความเคารพ อำนวยความสะดวกและเล็งเห็นถึงส่วนร่วมอันล้ำค่านี้ของพวกเขา “ องค์การที่เกี่ยวข้องควรรับฟังและรวบรวมความคิดเห็นเพื่อวิจัยและวิเคราะห์แล้วนำเสนอเพื่อการปรับปรุงแนวทางและนโยบายระยะใหม่ให้มีความสมบูรณ์ ดิฉันหวังว่า จากการเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้ ปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและในประเทศจะร่วมมือกันและร่วมมือกับนานาประเทศเพื่อขยายการวิจัยและเสนอมาตรการแก้ไขที่เหมาะสมให้แก่ด้านต่างๆของเวียดนามในกระบวนการผสมผสานและพัฒนาของเวียดนาม ”
ข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์ของปัญญาชนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศจะเป็นพื้นฐานให้แก่การร่างแนวทางและนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมยุคผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของพรรคและรัฐเวียดนาม ./.