รัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักรัฐบาล มายเตี๊ยนหยุง (Photo:baochinhphu.vn) |
รายงานของรัฐบาลในการประชุมครั้งที่ 11 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ได้ชี้ชัดว่า ในวาระที่ผ่านมา เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัวอย่างเข้มแข็งทั้งในด้านกว้างและส่วนลึก โดยอัตราการขยายตัวจีดีพีเฉลี่ยในช่วงปี 2016 -2020 อยู่ที่ร้อยละ 5.99 ซึ่งติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะในปี 2020 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของวาระและยังเป็นปีที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ รัฐบาลได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติ 2 เป้าหมายคู่คือการรับมือการแพร่ระบาดควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวจีดีพีในปี 2020 อยู่ที่ร้อยละ 2.91 ทำให้เวียดนามเป็นประเทศเดียวที่มีอัตราการขยายตัวเป็นบวกในกลุ่ม 6 เศรษฐกิจใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
ในปี 2020 แม้ตลาดส่งออกจะชะงักงันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่เวียดนามได้เปรียบดุลการค้า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติกาล การเบิกจ่ายเงินลงทุนภาครัฐได้รับการผลักดันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งบรรลุร้อยละ 97.46 ของแผนการที่ได้วางไว้ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในช่วงปี 2016 -2021 รัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักรัฐบาล มายเตี๊ยนหยุงได้เผยว่า ผลงานดังกล่าวมาจากการบริหารอย่างเคร่งครัดของรัฐบาลในการปรับปรุงกลไกและระเบียบราชการ บรรยากาศการลงทุน การสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ
“การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ การลดค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของรัฐบาลในวาระปี 2016 -2021 ทัศนะของนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้นวาระคือตั้งใจสร้างรัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์บริสุทธิ์ ปฏิบัติงานและมีวิธีการเข้าถึง โดยถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลางของการปฏิรูปและการพัฒนา ดังนั้น รัฐบาลได้มีปฏิบัติการต่างๆ โดยประกาศใช้มติที่ 02 เกี่ยวกับการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”
นาย เดิ่วแองต๊วน หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายสังกัดหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (Photo: baodautu.vn) |
ในวาระที่ผ่านมา การบริหารอย่างเคร่งครัดของรัฐบาลได้สร้างก้าวกระโดดในการปรับปรุงระเบียบราชการ การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยในช่วงปี 2016 -2020 รัฐบาลได้ประกาศเอกสารทางนิตินัย 50 ฉบับ ปรับลดเงื่อนไขการประกอบธุรกิจ 3,893 เงื่อนไขจากจำนวนทั้งหมด 6,191 เงื่อนไขของการประกอบธุรกิจ คิดเป็นเกือบร้อยละ 63 ประกาศใช้เอกสารทางนิตินัย 21 ฉบับเพื่อปรับลดขั้นตอน 1 ใน 3 ของระเบียบการตรวจสอบตามแขนงงาน ซึ่งสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 6.3 ล้านล้านด่งต่อปี นาย เดิ่วแองต๊วน หัวหน้าคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายสังกัดหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า รัฐบาลได้ปรับปรุงระเบียบราชการและบรรยากาศการประกอบธุรกิจเพื่อดึงดูดสถานประกอบการและนักลงทุน
“ในรอบ 4 -5 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้มีก้าวกระโดดในการยกระดับบรรยากาศการประกอบธุรกิจของเวียดนาม โดยการประกาศใช้มติที่ 19 และ 02 ของรัฐบาลได้สร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกมากขึ้น โดยปรับปรุงระเบียบการด้านภาษี ศุลกากร การเข้าถึงไฟฟ้าและการทำระเบียบการก่อสร้าง เป้าหมายของเวียดนามคือติดอยู่ในกลุ่มประเทศนำหน้าของอาเซียน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเวียดนามในเวลาที่ผานมาได้แสดงให้เห็นผ่านการเลื่อนอันดับขึ้นในตารางการจัดอันดับของธนาคารโลกและฟอรั่มเศรษฐกิจโลก”
นาย เหงวียนก๊วกเหียบ นายกสมาคมผู้รับเหมางานก่อสร้างเวียดนามได้เผยว่า การปรับปรุงระเบียบราชการของรัฐบาลได้สร้างความไว้วางใจให้แก่ชมรมสถานประกอบการ
“รัฐบาลและสภาแห่งชาติได้พยายามปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจผ่านการแก้ไขกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น กฎหมายการก่อสร้าง กฎหมายที่ดินและกฎหมายการลงทุน เป็นต้น รวมทั้งการช่วยแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ ซึ่งความพยายามดังกล่าวของสภาแห่งชาติและรัฐบาลได้สร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่สถานประกอบการในการดำเนินงาน”
เพื่อส่งเสริมผลงานที่ได้บรรลุ รัฐบาลวาระต่อไปจะมีมาตรการในระยะยาว กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกใหม่ ธำรงอัตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก.