มรสุมทางการเมืองในสาธารณรัฐเกาหลี

Anh Huyen/VOV5
Chia sẻ

(VOVworld) – สถานการณ์ทางการเมืองในสาธารณรัฐเกาหลีกำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตเมื่อเกิดความแตกแยกในพรรครัฐบาล และประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ กำลังพยายามแก้ไขผ่านการปรับคณะรัฐมนตรี เหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องถึงคนสนิทของนาง ปาร์ค กึน เฮ ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ความเป็นเพื่อนสนิทกับนาง ปาร์ค กึน เฮ เพื่อแทรกแซงปัญหาที่สำคัญของประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในทางลบต่อชื่อเสียงของนาง ปาร์ค กึน เฮ เท่านั้น หากยังนำไปสู่ผลร้ายที่คาดไม่ถึงอีกด้วย

(VOVworld) – สถานการณ์ทางการเมืองในสาธารณรัฐเกาหลีกำลังมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตเมื่อเกิดความแตกแยกในพรรครัฐบาล และประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ กำลังพยายามแก้ไขผ่านการปรับคณะรัฐมนตรี เหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องถึงคนสนิทของนาง ปาร์ค กึน เฮ ที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ความเป็นเพื่อนสนิทกับนาง ปาร์ค กึน เฮ เพื่อแทรกแซงปัญหาที่สำคัญของประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในทางลบต่อชื่อเสียงของนาง ปาร์ค กึน เฮ เท่านั้น หากยังนำไปสู่ผลร้ายที่คาดไม่ถึงอีกด้วย

มรสุมทางการเมืองในสาธารณรัฐเกาหลี - ảnh 1
ประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ (sydsvenskan)
เหตุอื้อฉาวได้ทำให้ประชาชนสาธารณรัฐเกาหลีนับหมื่นคนพากันออกมาชุมนุมบนท้องถนนในกรุงโซลในหลายวันที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ลาออกจากตำแหน่งหรือเข้ารับการดำเนินคดี ในสภาวการณ์ที่ถูกแรงกดดันจากประชามติ โดยเฉพาะจากพรรค เซนูรี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล รวมทั้งจากพรรคฝ่ายค้านต่างๆ ประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ได้ประกาศปรับคณะรัฐมนตรี โดยได้ปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีดูแลปัญหาเศรษฐกิจและรัฐมนตรีความปลอดภัยประชาชน
แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของนาง ปาร์ค กึน เฮ ได้ถูกประท้วงจากพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากไม่มีการทาบทามความคิดเห็นก่อน ส่วนรัฐสภาประกาศว่า จะไม่อนุมัติการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรีของนาง ปาร์ค กึน เฮ ก่อนหน้านั้น ผู้ช่วยระดับสูงของนาง ปาร์ค กึน เฮ 8 คนได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากเกิดเหตุเอื้อฉาวดังกล่าว
ความเสี่ยงที่จะต้องลาออกจากตำแหน่งหรือถูกดำเนินคดี
ในการเคลื่อนไหวล่าสุด นาง ซอย ชุน ซิล ผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ที่ถูกกล่าวหาว่า ได้ใช้ความสัมพันธ์นี้เพื่อแทรกแซงกิจการภายของประเทศ ถูกจับกุมหลังจากเดินทางไปยังสำนักงานอัยการเพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว ก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของสำนักงานอัยการสาธารณรัฐเกาหลีได้เผยว่า บรรดาอัยการกำลังสืบสวนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่านาง ซอย ชุน ซิล อาศัยฐานะเป็นเพื่อนสนิทของประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ เพื่อแทรกแซงปัญหาของประเทศด้วยการเข้าถึงข้อมูลลับและแสวงหาผลประโยชน์จากกองทุนที่ไม่แสวงหาผลกำไร คาดว่า จำนวนเงินที่สมทบเข้ากองทุนที่ไม่แสวงผลกำไรโดยนาง ซอย ชุน ซิล เป็นผู้ก่อตั้งอยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาง ปาร์ค กึน เฮ ได้ออกมาขอโทษต่อกรณีที่ให้เพื่อนสนิทมีส่วนในการร่างคำปราศรัยในช่วงเพิ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและทำให้ประชาชนมีความวิตกกังวล ส่วนนาง ซอย ชุน ซิล ก็ได้ยอมรับว่า ได้รับเอกสารของประธานาธิบดี แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้แทรกแซงปัญหาของประเทศ หรือสร้างแรงกดดันให้บริษัทต่างๆสนับสนุนกองทุน
หลังจากเกิดเหตุอื้อฉาว อัตราเสียงสนับสนุนประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ได้ลดลงเป็นอย่างมาก แต่ตามความเห็นของบรรดานักวิชาการ โอกาสที่นาง ปาร์ค กึน เฮ จะถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีตามคำเรียกร้องของฝ่ายค้านไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการดำเนินคดีนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากศาลสูงสุดที่นาง ปาร์ค กึน เฮ เป็นผู้แต่งตั้งเท่านั้น นอกจากนั้น ตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ ประธานาธิบดีมีเอกสิทธิ์ในการไม่ถูกดำเนินคดีอาญาในขณะดำรงตำแหน่ง ยกเว้นกรณีที่เกี่ยวข้องถึงผลประโยชน์ของประเทศหรืออธิปไตยของประเทศที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ต่างประเทศ
นอกจากนั้น ยังมีหลายความคิดเห็นว่า เหลือเพียง 1 ปีเท่านั้นก็จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยต่อไป ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านจึงอยากใช้เหตุเอื้อฉาวนี้เพื่อลดชื่อเสียงของพรรครัฐบาล 
มรสุมทางการเมืองในสาธารณรัฐเกาหลี - ảnh 2
 นาย Ahn Jong-beom อดีตเลขาธิการระดับสูงของนาง ปาร์ค กึน เฮ ถูกจับกุมตัวฉุกเฉินเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุนไม่แสวงผลกำไรของนาง ซอย ชุน ซิล (EPA)

ผลกระทบต่อนโยบายการต่างประเทศ
นี่คือปีที่ 4 ที่นาง ปาร์ค กึน เฮ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระ 5 ปี วิกฤตการเมืองดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะทำให้กระบวนการวางนโยบายในการสิ้นสุดวาระมีความผันผวน ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบในทางลบต่อปัญหาภายในประเทศเท่านั้น หากอาจจะส่งผลกระทบไม่น้อยต่อนโยบายการต่างประเทศอีกด้วย บรรดานักวิเคราะห์ภายในประเทศบางคนยังแสดงความวิตกกังวลว่า เหตุอื้อฉาวนี้จะส่งผลกระทบต่อนโยบายที่แข็งกร้าวต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่สาธารณรัฐเกาหลียืนหยัดปฏิบัติมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงที่อ่อนไหวในปัจจุบันเมื่อสาธารณรัฐเกาหลีตัดสินใจอนุญาตให้สหรัฐติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD บนดินแดนของตน
สำหรับชาวสาธารณรัฐเกาหลี เหตุอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องถึงนักการเมืองไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกและเหตุการณ์ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เหตุเอื้ยฉาวนี้กำลังถูกสืบสวน และยังไม่มีข้อสรุปสุดท้าย มีความเป็นไปได้สูงว่า ในเวลาที่จะถึงจะมีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมหรือจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอนุญาตให้ประธานาธิบดี ปาร์ค กึน เฮ ส่งมอบอำนาจ ถ้าหากลาออกจากตำแหน่ง ตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ สาธารณรัฐเกาหลีต้องจัดการเลือกตั้งภายในเวลา 60 วันนับตั้งแต่นาง ปาร์ค กึน เฮ ลาออก แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีตามกำหนดนั้นจะมีขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2017 ดังนั้น พรรคฝ่ายค้านยังไม่ได้เตรียมพร้อมเพื่อเข้าร่วมการเลือกตั้งก่อนกำหนด จากการปรับคณะรัฐมนตรีและแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ซึ่งเป็นคนกลางทางการเมือง นาง ปาร์ค กึน เฮ กำลังพยายามเรียกคืนชื่อเสียงของตน ซึ่งเวทีการเมืองสาธารณรัฐเกาหลีจะต้องเกิดการผันผวนในเวลาที่จะถึงอย่างแน่นอน.

Komentar