ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มความตึงเครียดเนื่องจากแผนการผนวกเขตเวสต์แบงค์ของอิสราเอล

Bá Thi
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในช่วงนี้ ภูมิภาคตะวันออกกลางมีความร้อนแรงมากขึ้นเนื่องจากปัญหาความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องถึงแผนการของอิสราเอลที่ผนวกเขตเวสต์แบงค์ของแม่น้ำจอร์แดนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้ โดยเกิดความวิตกกังวลว่า อาจเกิดภาวะความรุนแรงครั้งใหม่ในภูมิภาคเมื่อแผนการดังกล่าวได้รับการปฏิบัติ
ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มความตึงเครียดเนื่องจากแผนการผนวกเขตเวสต์แบงค์ของอิสราเอล - ảnh 1เขตตั้งถิ่นฐาน Maale Adumim ของอิสราเอลในเยรูซาเลมตะวันออก (AFP) 

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ประชาชนอิสราเอลนับพันคนได้จัดการชุมนุมประท้วง ณ จัตุรัส Rabin ในเมืองเทลอาวีฟเพื่อคัดค้านแผนการของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู เกี่ยวกับการขยายอธิปไตยที่ครอบคลุมถึงเขตเวสต์แบงก์โดยชูข้อความคัดค้านการผนวก การยึดครอง และเรียกร้องให้สนับสนุนสันติภาพและประชาธิปไตย ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ การชุมนุมประท้วงในอิสราเอลสะท้อนหลายความหมาย เพราะแสดงให้เห็นว่า แผนการของรัฐบาลอิสราเอลไม่เพียงแต่ไม่สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาของประชาชนเท่านั้น หากยังเต็มด้วยความเสี่ยงที่น่าวิตกกังวล โดยเฉพาะความไม่พอใจของชาวปาเลสไตน์และโลกอาหรับ

ความไม่พอใจของชาวปาเลสไตน์และโลกอาหรับ

ก่อนการชุมนุมประท้วง 1 วัน ทูตพิเศษของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติ Riyad Mansour ได้ยืนยันว่า ทางการปาเลสไตน์จะเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขัดขวางอิสราเอลปฏิบัติแผนการผนวกดินแดนในเขตเวสต์แบงค์ อีกทั้งเผยว่า จะพบปะกับประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและประเทศสมาชิกอื่นๆเพื่ออธิบายเกี่ยวกับผลร้ายที่จะตามมาถ้าอิสราเอลปฏิบัติแผนการดังกล่าว ในขณะเดียวกัน สมาชิกของคณะกรรมการส่วนกลางขบวนการฟาตาห์ในเขตเวสต์แบงค์ Sabri Seidam ได้ประกาศว่า ผู้นำปาเลสไตน์ได้ตัดสินใจจัดการประชุมพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการตอบโต้แผนการของอิสราเอล ส่วนสภาแห่งชาติปาเลสไตน์หรือพีเอ็นซีได้ประกาศยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นเกี่ยวกับการยุติข้อตกลงทุกฉบับกับสหรัฐและอิสราเอล โดยชี้ชัดว่า นโยบายและปฏิบัติการของอิสราเอลสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลอิสราเอลในการเดินหน้ายึดครองดินแดนของรัฐปาเลสไตน์ ทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคมีความเลวร้ายและความตึงเครียดยืดเยื้อต่อไป

ในภูมิภาค กลุ่มสันติภาพอาหรับซึ่งเป็นองค์การวิจัยอิสระที่มีอดีตประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีของประเทศอาหรับและผู้ที่มีอิทธิพลในวงการนักวิจัยเข้าร่วมได้ส่งจดหมายถึงบรรดาผู้นำอาหรับโดยเรียกร้องให้โลกอาหรับเห็นพ้องทัศนะและทำการรับมือแผนการของอิสราเอล ในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดนได้เตือนว่า ถ้าหากอิสราเอลผนวกดินแดนส่วนหนึ่งที่ยึดครองในเขตเวสต์แบงค์ในเดือนกรกฎาคมนี้จะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคเกิดความไร้เสถียรภาพและทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะก้าวเดินที่อันตรายนี้จะนำไปสู่“การเผชิญหน้าครั้งใหญ่” กับจอร์แดน และประเทศนี้จะพิจารณาทุกทางเลือก ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ จอร์แดนเป็หนึ่งใน 2 ประเทศอาหรับ นอกจากอียิปต์ที่ได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลและ “ทุกทางเลือก” ในคำเตือนของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 แห่งจอร์แดนก็หมายถึงการพิจารณาข้อตกลงสันติภาพที่ได้ลงนามกับอิสราเอลด้วย

ความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง

ในทางเป็นจริง ได้มีคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงถ้าหากอิราเอลปฏิบัติแผนการผนวกดินแดน หลังจากผู้นำอิสราเอลบรรลุข้อตกลงประนีประนอมทางการเมืองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ความวิตกกังวลนี้ก็เพิ่มมากขึ้นเมื่อทางการปาเลสไตน์ประกาศยุติคำมั่นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ให้ไว้กับอิสราเอลเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อคัดค้านแผนการผนวกดินแดน ต่อจากนั้น กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ต่างๆในเขตเวสต์แบงค์และฉนวนกาซ่าซึ่งนำโดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มครูเสดญิฮาดได้ออกคำประกาศที่แข็งกร้าวต่ออิสราเอลโดยยืนยันว่า พร้อม“ทำทุกสิ่งทุกอย่าง”เพื่อต่อต้านแผนการของอิสราเอล นอกจากนั้น แหล่งข่าวจากภูมิภาคอาหรับเผยว่า กลุ่มติดอาวุธครูเสดในเลบานอน ซีเรีย อิรักและลิเบียได้ประกาศสนับสนุนการต่อสู้เพื่อต่อต้านการยึดครองของชาวปาเลสไตน์ พร้อมให้การช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างกับกองกำลังปาเลสไตน์เพื่อต่อต้านอิสราเอล

ประชามติในภูมิภาคและโลกแสดงความวิตกกังวลว่า ในสภาวการณ์ที่แผนการผนวกดินแดนของอิสราเอลมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับการปฏิบัติเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและการขาดความสนใจของประชาคมโลกต่อกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าที่อันตรายระหว่างชาวปาเลสไตน์กับอิสราเอล เพราะชาวปาเลสไตน์กำลัง “ไม่มีทางเลือกใด” ดั่งเช่นคำเตือนของสภาแห่งชาติปาเลสไตน์หรือพีเอ็นซี ส่วนตามความเห็นของนักวิเคราะห์อาหรับ “ชาวปาเลสไตน์ต้องต่อสู้เพื่อไม่ปล่อยให้ประชาคมโลกลืมเลือนกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลางและถูกละทิ้งเหมือนที่เคยเป็นมา”./.

Komentar