พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-จีนขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

Viet Cuong, Ha Thang- VOV
Chia sẻ
(VOVWORLD) -วันที่11พฤษภาคม ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนามได้เริ่มการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา4วันและเข้าร่วมฟอรั่มความร่วมมือระดับสูงภายใต้หัวข้อ “ระเบียงและเส้นทาง”  ซึ่งเป็นการเยือนจีนครั้งแรกของประธานประเทศเวียดนามภายหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12และของท่าน เจิ่นด่ายกวาง ในฐานะประธานประเทศเวียดนาม
พัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-จีนขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ - ảnh 1 ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม (Photo: vietnamplus.vn)

เวียดนามและจีนเป็นสองประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานถึงแม้ในประวัติศาสตร์จะมีบางช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความผันผวนต่างๆแต่ความร่วมมือมิตรภาพก็ยังคงเป็นกระแสหลักของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

การธำรงและการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน

  ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมเพราะการพัฒนาของทั้งสองประเทศจะสร้างโอกาสให้แก่แต่ละฝ่าย โดยเฉพาะ สองพรรคและสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน  นาย ดั๋งมิงโทย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามก่อนการเยือนดังกล่าว โดยยืนยันว่า“ผมเห็นว่า นี่เป็นแนวทางใหญ่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและสองรัฐในเวลาที่ผ่านมาและเป็นสิ่งที่ย้ำว่า พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในระยะยาวกับพรรค รัฐและประชาชนจีน  มีความประสงค์ที่จะร่วมกับจีนผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้าน  แก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ  นี่เป็นนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายและปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศระหว่างเวียดนามกับจีน”

ในหลายปีที่ผ่านมา จากความตั้งใจและความพยายามของพรรค รัฐและประชาชนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านมิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศได้รับการเสริมสร้างและบรรลุความคืบหน้าที่สำคัญต่างๆในทุกด้าน

ความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้าน

  มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศในช่วงปี2006-2016ได้เพิ่มขึ้นเกือบ10เท่าคือจาก9พัน9ร้อยล้านเป็น7หมื่น2พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม13ปีติดต่อกันและเมื่อปี2016 เวียดนามได้กลายเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียน ในเวลาที่ผ่านมา จีนได้ผลักดันการลงทุนในเวียดนาม  ส่วนอัตราการขยายตัวด้านความร่วมมือก็เป็นที่น่าประทับใจ  เอกอัครราชทูต ดั๋งมิงโทยได้เผยว่า “เมื่อปี2016 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวเวียดนามอยู่ที่2.8ล้านคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี2017  ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามก็เป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เดินทางไปเที่ยวประเทศจีนมากที่สุด โดยอยู่ที่เกือบ2ล้านคนในปี2016  ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการบริหารเขตชายแดนทางบก  ธำรงและรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในเขตชายแดนเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์เส้นแบ่งพรมแดนที่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและมิตรภาพ”

สำหรับปัญหาทางทะเล บรรดาผู้นำทั้งสองประเทศได้ธำรงการหารืออย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้ง เห็นพ้องกันว่า บนพื้นฐานของความเข้าใจร่วมระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและกฎหมายสากล  จะยืนหยัดการเจรจาเพื่อแสวงหามาตรการขั้นพื้นฐานเพื่อแก้ไขปัญหาในทะเลตะวันออกที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับได้  ปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์  ร่วมกับอาเซียนจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว   ควบคุมความขัดแย้งในทะเล รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก

            ขยายความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน

  ในสภาวการณ์นี้ การที่ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง เดินทางไปเยือนจีนและเข้าร่วมฟอรั่มความร่วมมือระหว่างประเทศ “ระเบียงและเส้นทาง”เป็นกิจกรรมที่มีความหมายสำคัญ  เอกอัครราชทูต ดั๋งมิงโทย ได้เผยว่า “ฝ่ายจีนได้ให้คำมั่นว่า “ความคิดริเริ่มระเบียงและเส้นทาง”จะได้รับการปฏิบัติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล  อนุสัญญาของสหประชาชาติและหลักการ “ร่วมกันหารือ ร่วมกันทำและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน” ส่งเสริมความเชื่อมโยงและช่วยเหลือกันระหว่างประเทศต่างๆในกระบวนการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้วยเป้าหมาย “ร่วมกันชัยชนะ ร่วมกันพัฒนาและร่วมกันเจริญรุ่งเรือง”และเวียดนามก็ให้ความสนใจต่อปัญหาดังกล่าว  การที่ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางเข้าร่วมฟอรั่มนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของเวียดนามต่อจีนในการจัดฟอรั่มดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ”

การเยือนประเทศจีนและการเข้าร่วมฟอรั่มของประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางก็เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรค สองรัฐ  ส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศ  โดยส่งสาส์นที่ว่า เวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับจีนและประเทศต่างๆในการสร้างสรรค์และปฏิบัติโครงการต่างๆเพื่อเป้าหมายสันติภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองบนพื้นฐานของหลักการให้ความเคารพกัน  ความเสมอภาค  เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ปฏิบัติตามอนุสัญญาของสหประชาชาติและกฎหมายสากล  ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัน.

Komentar