ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศส

Anh Huyen/VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอดัวร์ ฟีลิป ได้เดินทางมาเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน การเยือนมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศฉลองครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 5 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศสที่พัฒนาอย่างเข้มแข็งนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี 2013 และได้รับการพัฒนาอย่างกว้างลึกในทุกด้าน
ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศส - ảnh 1พิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส 

ฝรั่งเศสตั้งอยู่ในยุโรปตะวันตก เป็นเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก อยู่อันดับที่ 3 ด้านการส่งออกบริการ และมีสถานประกอบการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสถานประกอบการชั้นนำระดับโลก

เวียดนามและฝรั่งเศสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1973 และภายหลัง 40 ปีคือเมื่อปี 2013 ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ ซึ่งสร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ

ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์พัฒนาอย่างกว้างลึก

ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงหลายคณะ และประสานกลไกร่วมมือต่างๆ เช่นการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงกลาโหมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหมเวียดนามและฝรั่งเศส การสนทนาระดับสูงประจำปีเกี่ยวกับเศรษฐกิจ

สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ฝรั่งเศสคือหุ้นส่วนการค้ายุโรปรายใหญ่อันดับ 5 ของเวียดนาม รองจากเยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์และอิตาลี เมื่อปี 2017 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศบรรลุ 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เมื่อเทียบกับปี 2016 การแลกเปลี่ยนการค้าใน 6 เดือนแรกปี 2018 บรรลุ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการประเมินเกี่ยวกับความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศสในปัจจุบัน เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำฝรั่งเศส เหงียนเถียบได้แสดงความเห็นว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส โดยเฉพาะนับตั้งแต่หลังการเยือนฝรั่งเศสของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีก้าวกระโดดที่เข้มแข็ง โดยเนื้อหาความร่วมมือได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องถึงการพัฒนาของเวียดนาม หลังการเยือนนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ให้กลายเป็นเสาหลักของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหวังว่า ในการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะลงนามเนื้อหาดังกล่าว”

สำหรับการลงทุน เมื่อปี 2017 ฝรั่งเศสอยู่อันดับที่ 3 ในจำนวนประเทศยุโรป รองจากเนเธอร์แลนด์และอังกฤษ และอยู่อันดับที่ 16 ในจำนวน 114 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามมากที่สุด โดยมี 512 โครงการลงทุนที่ยังดำเนินการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนบรรลุ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนโดยตรงของฝรั่งเศสในเวียดนามเน้นในด้านต่างๆ เช่นการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ อุตสาหกรรมแปรรูปและการประดิษฐ์ การผลิตและจัดสรรแก๊ส ไฟฟ้า การผลิตน้ำอุ่นน้ำร้อนจากแอร์และครื่องปรับอากาศ จนถึงขณะนี้ สถานประกอบการเวียดนามมี 9 โครงการลงทุนในฝรั่งเศส รวมยอดเงินลงทุนกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการสนับสนุนของฝรั่งเศส ข้อตกลงการค้าเวียดนาม-สหภาพยุโรปซึ่งคาดว่าจะได้รับการลงนามในปลายปีนี้จะสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ความสัมพันธ์การค้า การลงทุนเวียดนาม-ฝรั่งเศสได้รับการขยายมากขึ้น เอกอัครราชทูต เหงียนเถียบ เผยว่า “ปัจจุบัน ฝรั่งเศสคือประเทศที่มีทัศนะที่เข้มแข็งเกี่ยวกับการสนับสนุนการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียู ข้อตกลงฉบับนี้มีส่วนเกี่ยวข้องถึงเกือบ 49 ประเทศ มีรายการสินค้ารายการระหว่างเวียดนามกับอียูเกือบร้อยละ 98 ซึ่งจะช่วยให้การแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นหลายเท่า ฝรั่งเศสคือประเทศเดียวของยุโรปในกลุ่มประเทศนำหน้ายุโรป P 5 ซึ่งทำให้การสนับสนุนนี้มีผลอย่างเข้มแข็ง”

เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศส ต้องกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ เพราะนี่คือเอกลักษณ์ของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส ขณะนี้ มี 38 ท้องถิ่นของฝรั่งเศสที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนกับ 18 จังหวัดและนครของเวียดนาม โดยเน้นถึงด้านสาธารณสุข การศึกษา น้ำประปา สุขาภิบาล การอนุรักษ์มรดกและการพัฒนาชนบท ซึ่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ในฐานะเป็นสมาชิกขององค์การกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ทั้งสองประเทศได้มีกิจกรรมร่วมมือต่างๆภายใต้กรอบองค์การฯนี้ โดยเฉพาะในการสอนภาษาฝรั่งเศสและกิจกรรมด้านรัฐสภา ปัจจุบัน มีชาวเวียดนามเกือบ 3 แสนคนกำลังอาศัย ศึกษาและทำงานในฝรั่งเศส ซึ่งมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ฝรั่งเศสและเป็นสะพานเชื่อมที่มีประสิทธิภาพให้แก่สัมพันธไมตรีเวียดนาม-ฝรั่งเศส

ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

การเยือนระดับสูงในปี 2018 ได้สร้างนิมิตหมายการพัฒนาที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะภายหลังการเยือนฝรั่งเศสของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่องและการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอดัวร์ ฟีลิป ซึ่งการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เอดัวร์ ฟีลิป จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศสให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามคือหุ้นส่วนสำคัญในผลประโยชน์ของฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และย่านมหาสมุทรแปซิฟิก – มหาสมุทรอินเดีย.

Komentar