ผลักดันความร่วมมือในทุกด้านกับหุ้นส่วนสำคัญต่างๆในยุโรป

Ánh Huyền-VOV5
Chia sẻ

(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนประเทศเบลเยี่ยม สหภาพยุโรปและเยอรมนีเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางและมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ในทุกด้านที่จริงจังและมีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนสำคัญต่างๆในยุโรป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้าน มีส่วนร่วมในเชิงรุกและเข้มแข็งของเวียดนามต่อปัญหาต่างๆที่โลกให้ความสนใจ


(VOVworld) – ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยือนประเทศเบลเยี่ยม สหภาพยุโรปและเยอรมนีเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางและมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ในทุกด้านที่จริงจังและมีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนสำคัญต่างๆในยุโรป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในทุกด้าน มีส่วนร่วมในเชิงรุกและเข้มแข็งของเวียดนามต่อปัญหาต่างๆที่โลกให้ความสนใจ

ผลักดันความร่วมมือในทุกด้านกับหุ้นส่วนสำคัญต่างๆในยุโรป - ảnh 1
ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนาย มานูเอล บาโรโซ ประธานคณะกรรมการยุโรป

ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามเดินทางไปเยือนประเทศเบลเยี่ยม สหภาพยุโรปหรืออียูและเยอรมนีตามคำเชิญของท่าน เอลีโอ ดีรูโป นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม นาย มานูเอล บาโรโซ ประธานคณะกรรมการยุโรปหรืออีซีและนาง แองเกลาแมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีซึ่งเป็นกิจกรรมต่างประเทศสำคัญของเวียดนามในปี 2014
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจคือจุดเด่นในความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-เบลเยี่ยม

ประเทศแรกที่ท่านเหงียนเติ๊นหยุงจะเดินทางไปเยือนในกรอบการเยือนประเทศต่างๆในยุโรปคือเบลเยี่ยม ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์เวียดนาม-เบลเยี่ยมได้มีก้าวเดินพัฒนาที่ดีงามในทุกด้านโดยในด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับเบลเยี่ยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เบลเยี่ยมเป็นตลาดเล็กแต่ความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสองประเทศยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆในอียูและยุโรป โดยเฉพาะการส่งออกของเวียดนามโดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศบรรลุ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2013 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปี 2012 และใน 6 เดือนแรกของปี2014 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุประมาณ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนโดยตรงของเบลเยี่ยมในเวียดนามบรรลุกว่า 155 ล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอประมาณ 78 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปี 2011-2015 ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายกำลังเน้นความร่วมมือในด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เช่นโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ บริการโลจิสติก การคมนาคมขนส่ง เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สาธารณะสุขและการศึกษา เป็นต้น  ดังนั้น การเยือนเบลเยี่ยมอย่างเป็นทางการของท่านเหงียนเติ๊นหยุงตามคำเชิญของนาย เอลีโอ ดีรูโป นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยมจึงมีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศในทุกด้าน
ปฏิบัติแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์เวียดนาม-เยอรมนี
เยอรมนีเป็นหนึ่งใน 6 ประเทศสมาชิกของอียูที่มีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามและเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจสำคัญชั้นนำของเวียดนามในยุโรปโดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนใน 6 เดือนแรกของปี 2014 บรรลุประมาณ 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ จนถึงเดือนสิงหาคมปี 2014 การลงทุนโดยตรงของเยอรมนีในเวียดนามบรรลุ 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยมีโครงการที่ยังดำเนินการ 232 โครงการซึ่งเน้นในด้านการผลิตอุปกรณ์ พลังงาน เคมีภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์ เยอรมนีให้คำมั่นที่จะจัดสรรค์เงินทุนช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา 100 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่เวียดนามในช่วงปี 2014-2015โดยเน้นใน 3 ด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆประกอบด้วย สิ่งแวดล้อม พลังงานและการฝึกสอนอาชีพ นาย จูต๊วนก๊าป อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรองนายกสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-เยอรมนีได้แสดงความเห็นว่าถ้าหวนมองความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมาจะพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยสถานประกอบการใหญ่ๆทุกแห่งของเยอรมนีได้ลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม รวมไปถึงสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ส่วนสถานประกอบการเวียดนามกำลังเริ่มลงทุนในเยอรมนี ในฐานะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในอียู เยอรมนีกำลังผลักดันให้อียูรับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามอย่างเข้มแข็ง นั่นคือพลังที่เข้มแข็งในการสนับสนุนเวียดนามที่จะได้รับการรับรองเป็นเศรษฐกิจเชิงตลาดจากอียู”
ในปี 2015 ทั้งสองประเทศจะฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ด้วยการเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการของท่าน เหงียนเติ๊นหยุง แผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์เวียดนาม-เยอรมนีจะได้รับการผลักดัน ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านแรงงาน การฝึกสอนอาชีพ การศึกษาและโครงการใหญ่ๆที่ได้รับการลงนามจะได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นแน่นอน
ทำให้ความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-อียูมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สำหรับอียู ความสัมพันธ์กับเวียดนามกำลังพัฒนาอย่างจริงจังและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามกรอบข้อตกลงหุ้นส่วนและร่วมมือในทุกด้านหรือพีซีเอและกำลังมุ่งสู่การเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอวีเอฟทีเอ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 20 ต่อปี ใน 6 เดือนแรกของปี 2014 มูลค่าการค้าบรรลุ 1 หมื่น 7 พัน 5 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2013
เนื่องจากเวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ 6 ประเทศสมาชิกของอียู ดังนั้น อียูนับวันยืนยันถึงบทบาทหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนามในด้านการค้า การลงทุนและการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา รายงานสถิติล่าสุดปรากฏว่า มีประเทศสมาชิกอียู 23 ประเทศจากจำนวนทั้งหมด 28 ประเทศลงทุนในเวียดนาม รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนบรรลุเกือบ 1 หมื่น 8 พัน 4 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ อียูและประเทศสมาชิกเป็นนักอุปถัมภ์ทวิภาคีรายใหญ่อันดับ 2 ในด้านเงินทุนโอดีเอและเป็นนักอุปถัมภ์ช่วยเหลือในรูปให้เปล่ารายใหญ่ที่สุดให้แก่เวียดนาม ท่าน ฝ่ามแซงโจว เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำเบลเยี่ยมและอียูได้ยืนยันว่าในสภาวการณ์ดังกล่าว เวียดนามได้ผลักดันความร่วมมือในทุกด้านกับอียูอย่างเข้มแข็ง นอกจากมูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นแล้ว การถ่ายทอดวิทยาศาสตร์ทอดเทคโนโลยียังคงได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งและสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเวียดนามยังคงได้รับเงินช่วยเหลือโอดีเอจากอียูต่อไปเพราะปัจจุบัน มีบางประเทศได้ลดการสนับสนุนเงินช่วยเหลือโอดีเอให้แก่เวียดนาม แต่เงินช่วยเหลือโอดีเอของอียูให้แก่เวียดนามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ในสภาวการณ์ของความสัมพันธ์ที่ดีงามนี้ การเยือนอียูของนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือเวียดนาม-อียูในเวลาที่จะถึง ผลักดันการเสร็จสิ้นการเจรจาเอวีเอฟทีเอและหารือเกี่ยวกับการผลักดันการประสานงานในฟอรั่มพหุภาคี เช่นสหประชาชาติ อาเซม อาเซียน-อียูเพื่อสานต่อกิจกรรมด้านต่างประเทศที่คึกคักตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน การเยือนเบลเยี่ยม เยอรมนีและสหภาพยุโรปของท่าน เหงียนเติ๊นหยุงจะเปิดโอกาสใหม่มากมายในความสัมพันธ์ร่วมมือหลายด้านระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆในยุโรปอย่างแน่นอน./.

Komentar