นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล้าวปราศรัยที่ศูนย์ NIC |
ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ได้ตั้งเป้าหมายถึงปี 2025 เวียดนามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีอุตสาหกรรมตามแนวทางที่ทันสมัย มีรายได้ระดับปานกลาง ถึงปี 2030 เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยมีรายได้ปานกลางในระดับสูงและถึงปี 2045 เป็นประเทศพัฒนา มีรายได้ระดับสูง” โดยกระบวนการพัฒนาอาศัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพัฒนานวัตกรรม
สร้างสรรค์ระบบนิเวศพัฒนานวัตกรรมในขั้นพื้นฐาน
กระทรวงวางแผนและการลงทุนเผยว่า ในตลอดกว่า 3 ปีที่เปิดให้บริการ คือตั้งแต่ปี 2019 – 2023 ศูนย์ NIC ได้สามารถสร้างสรรค์ระบบนิวเวศพัฒนานวัตกรรมที่มี 3 เสาหลักคือ ภาครัฐ สถาบันและสถานประกอบการ โดยมีหุ้นส่วนที่เป็นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ๆ ของเวียดนามและโลก ศูนย์วิทยาศาสาตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศต่างๆ กองทุนลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศเกือบ 200 กองทุน ผู้เชี่ยวชาญและปัญญาชนเวียดนามในทั่วโลกเกือบ 1,600 คน ซึ่งถึงขณะนี้ ศูนย์ NIC ได้กลายเป็นผู้เดินหน้าในการวิจัยและเสนอกลไกความร่วมมือ รูปแบบการบ่มเพาะและสนับสนุนการลงทุนทำธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ พร้อมทั้งปฏิบัติโครงการสนับสนุน ยกระดับทักษะความสามารถเกี่ยวกับนวัตกรรมในสถาบัน มหาวิทยาลัยและท้องถิ่นต่างๆ ประสานงานกับมหาวิทยาลัยระหว่างประเทศใหญ่ๆ เพื่อเปิดชั้นฝึกอบรมเกี่ยวกับนวัตกรรม การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล อี – คอมเมิร์ส เป็นต้น โดยเฉพาะทางศูนย์ฯ ได้ประสานงานกับหุ้นส่วน Google จัดกิจกรรมดึงดูด “ผู้ที่มีทักษะความสามารถ” ซึ่งมีการเข้าร่วมของนักศึกษาเวียดนามนับหมื่นคน ประสานงานกับองค์กรพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐหรือ USAID เพื่อพัฒนาแหล่งบุคลากร ประสานงานกับองค์กร STEAM for Vietnam ซึ่งเป็นองค์กรที่ผลักดันกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อฝึกอบรมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และ STEAM สำหรับนักเรียนกว่า 20,000 คน จัดการประกวด Robotics สำหรับนักศึกษาและสร้างสรรค์ระบบธรรมาภิบาลออนไลน์ ถึงขณะนี้ เครือข่ายนวัตกรรมเวียดนามได้พัฒนา 8 สาขาในเยอรมนี ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ไต้หวัน – ประเทศจีน ยุโรปและ 2 เครือข่ายในสหรัฐ ซึ่งถือเป็นแหล่งปัญญาชนที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะเข้าร่วมและมีส่วนร่วมต่อกิจกรรม โครงการเทคโนโลยีและนวัตกรรมในเวียดนาม
นายกรัฐมนตรีฟังคำแนะนำเกี่ยวกับศูนย์ NIC (VNA) |
สร้างสรรค์กลไกนโยบายเพื่อผลักดันการพัฒนานวัตกรรม
จากผลงานที่ได้บรรลุ เวียดนามกำลังแปรมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 ในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีให้กลายเป็นความจริง แต่เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในเวลาข้างหน้า รัฐบาลได้กำหนดว่า จำเป็นต้องมีนโยบายที่เหมาะสมเพื่อระดมสติปัญญาและต้องมีกลไกให้สิทธิพิเศษต่อแหล่งบุคลากรในด้านนี้
สำหรับการจัดทำกลไกนโยบาย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้กำชับอย่างชัดเจนว่า กระทรวงวางแผนและการลงทุนต้องประสานงานกับกระทรวง หน่วยงานและสำนักงานที่เกี่ยวข้องจัดทำเอกสารและสร้างกรอบทางนิตินัยเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิวเวศนวัตกรรมและสวนบ่มเพาะนวัตกรรม โดยเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาการจัดทำกองทุนนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเวียดนาม พร้อมทั้งลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์เพื่อค้ำประกันให้แก่การวิจัยพัฒนานวัตกรรม สร้างการเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลแห่งชาติเพื่อจัดทำฐานข้อมูลที่ยิ่งใหญ่และพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
นายกรัฐมนตรีได้แสดงความประสงค์ว่า ศูนย์ NIC จะระดมสติปัญญาและขยายผลประโยชน์เกี่ยวกับนวัตกรรมเวียดนาม กลายเป็นศูนย์ระดมสติปัญญาจากทั่วโลก โดยไม่คำนึงถึงปัญหาพรมแดน ระยะทางและอายุ เพื่อสร้างแหล่งพลังให้แก่การขยายผลประโยชน์และนำคุณค่ามาให้แก่สังคม ซึ่งรัฐพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่เพราะการลงทุนด้านนวัตกรรมคือการลงทุนให้แก่การพัฒนา
นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงวางแผนและการลงทุนต้องประสานงานกับกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปและสำนักงานต่างๆ ใช้ฐานข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับพลเมืองและฐานข้อมูลอื่นๆอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสร็จสิ้นรูปแบบศูนย์พัฒนานวัตกรรมเพื่อประสานงานกับกิจกรรมต่างๆของระบบนิเวศ ปฏิบัติการดำเนินงานของศูนย์และความร่วมมือระหว่างสูงกับระบบนิวเวศทั้งภายในและต่างประเทศตามรูปแบบดิจิทัล
ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและการเพิ่มทักษะความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น การสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยและการลงทุนที่สมเหตุสมผลเพื่อส่งเสริมศัยกภาพการพัฒนานวัตกรรมจะช่วยให้เวียดนามปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาประเทศที่อาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ.