( VOVworld )-ปี ๒๐๑๓ เวียดนามกับหลายประเทศจะจัดกิจกรรมต่างๆฉลองครบรอบ ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคเอเชียคือ ญี่ปุ่นกับอินเดีย โดยอยู่ในภูมิภาคที่ได้ถือว่าเป็นพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินเดียเช่นเดียวกับญี่ปุ่นกำลังขยายกว้างในหลายด้านอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ปี ๒๐๑๓ ถือเป็นปีสำคัญที่เป็นพื้นฐานให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินเดียและญี่ปุ่นอย่างยั่งยืนในอีกนับสิบปีข้างหน้า
ความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับอินเดียที่มีมาช้านานได้รับการทำนุบำรุงจากประธานโฮจิมิหน์และนายกฯเยาวหะราล เนรู โดยในเดือนตุลาคม ๑๙๕๔ ภายหลังที่เราสามารถยึดคืนอำนาจบริหารกรุงฮานอยจากนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส ท่านเยาวหราล เนห์รูได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่มาเยือนเวียดนามหลังจากที่เรากอบกู้เอกราชกลับมาสู่ประเทศได้ อีกทั้งเป็นการยืนยันความสัมพันธ์เคียงบ่าเคียงไหล่กันระหว่างสองประเทศทั้งในยามสงครามและในยามสันติ เวียดนามยังจดจำถึงการสนับสนุนของประชาชนอินเดียในสงครามปลดปล่อยชาติ ซึ่งสโลแกน “ ชื่อคุณ ชื่อฉันและชื่อของเราคือเวียดนาม ” ของประชาชนอินเดียที่มอบให้แก่เวียดนามได้สะท้อนชัดเจนถึงความสนับสนุนดังกล่าวและยังคงตราตรึงในหัวใจของคนเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่า ซึ่งสัมพันธไมตรีที่ซื่อสัตย์และเหนียวแน่นเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้ทั้งสองประเทศพัฒนาความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นในระยะปัจจุบัน
นับตั้งแต่สองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อเดือนกรกฏาคมปี ๒๐๐๗ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เน้นผลักดันความสัมพันธ์นั้นในทุกด้านรวมทั้งการรักษาและส่งเสริมมิตรภาพ ผลักดันการเสริมสร้างและขยายมิตรภาพระหว่างสองประเทศตั้งแต่ระดับประชาชน ทั้งนี้จะมีส่วนร่วมไม่เพียงแต่ต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น หากยังทำให้ความสัมพันธ์หลายฝ่ายในปัจจุบันเข้าสู่ส่วนลึกมากขึ้น การรักษาสันติภาพและความมีเสถียรภาพ ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค ซึ่งงานมหกรรมมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศทั้ง ๕ ครั้งนับตั้งแต่ปี ๒๐๐๗ มาจนถึงเดือนธันวาคมปี ๒๐๑๒ ที่ผ่านมาเป็นการพิสูจน์ความตั้งใจดังกล่าว นายยาดา เรดดี อดีตเลขาธิการองค์การสันติภาพและสามัคคีทั่วอินเดียเห็นว่า “ กิจกรรมพบปะสังสรรค์มิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศได้ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เนื่องจากความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อและมิตรภาพพิเศษระหว่างอินเดียกับเวียดนามมาจากการที่ทั้งสองประเทศต่างมีประวัติศาสตร์การต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานจากภายนอกและกอบกู้เอกราชมาให้แก่ประเทศ ผมหวังว่า การฉลองครบรอบ ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ครบรอบ ๕ ปีที่เราจะจัดกิจกรรมต่างๆในปีนี้จะเป็นก้าวกระโดดเพื่อกระชับความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างสองประเทศยิ่งขึ้น ”
|
ปรธานโฮจิมินห์เยือนอินเดีย |
ในด้านการศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ๒ ปีที่ผ่านมา ศ.นักประวัติศาสตร์ เลวันลานที่มีชื่อเสียงของเวียดนามและเพื่อนร่วมอาชีพชาวอินเดียได้เร่งร่างโครงการร่วมมือศึกษาวิจัยวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นโครงการศึกษาวิจัยในโอกาสฉลองครบรอบ ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ ๕ ปีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับอินเดีย ท่านเลวันลานเผยว่า “ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินเดียในด้านวัฒนธรรมมีเอกลักษณ์ของความสัมพันธ์สันติภาพ มิตรภาพและความร่วมมือ ซึ่งโครงการที่พวกเรากำลังร่างนั้นจะมีส่วนร่วมในการสรรเสริญสัมพันธไมตรี สันติภาพและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ”
สำหรับญี่ปุ่นนั้นก็มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมดั้งเดิมของเวียดนาม ความใกล้กันทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในอดีตเช่นเดียวกับผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นทำให้สองประเทศกระเถิบเข้าใกล้กันยิ่งขึ้น ซึ่งเห็นชัดจากการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ตั้งแต่ปี ๒๐๐๙ รัฐบาลทั้งสองประเทศให้ความสนใจต่อความสัมพันธ์ทั้งในระดับรัฐบาลไปจนถึงระดับประชาชนที่นับวันขยายกว้างขึ้น โดยผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกำหนดปี ๒๐๑๓ นี้เป็นปีมิตรภาพเวียดนาม-ญี่ปุ่น ส่วนรัฐบาลเวียดนามได้ร่างแผนจัดกิจกรรมต่างๆในโอกาสฉลองครบรอบ ๔๐ ปีแห่งความร่วมมือระหว่างสองประเทศ นายเจิ่นหงอกแอง อธิบดีกรมและผู้อำนวยการกองทุนเศรษฐกิจการทูตแห่งกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเผยว่า “ โดยตระหนักถึงความสำคัญทางยุทธศาสตร์และเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์เวียดนามสู่สายตาชาวญี่ปุ่นมากขึ้น นายกฯและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้กำหนดจัดปีสามัคคีกับญี่ปุ่นโดยมีกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการพบปะระหว่างผู้นำระดับสูง ด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการศึกษา เนื่องจากเห็นว่า แม้การลงทุนและการค้าระหว่างสองประเทศได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายปีที่ผ่านมาแต่สองประเทศยังมีศักยภาพมากมาย หากเราทำการประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดีก็สามารถดึงดูดเงินลงทุนและการค้าจากญี่ปุ่นได้มากขึ้น ”
|
ประธานวุฒิสภาญี่ปุ่นให้กานต้อนรับประธานรัฐสภาเหงวียนซิงห์หุ่ง |
อินเดีย ญี่ปุ่นและเวียดนามตั้งอยู่ในภูมิภาคที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัว ดังนั้นหากได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเวียดนาม อินเดียจะประสบความสำเร็จในการปฏิบัตินโยบายมุ่งสู่ตะวันออก ส่วนเวียดนามก็จะได้รับประโยชน์มากมายจากการให้ความร่วมมืออย่างแน้นแฟ้นกับอินเดีย และในทำนองเดียวกัน การขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นจะช่วยปกป้องผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของแต่ละประเทศ ./.