นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในการประชุม |
ในปี 2024 เวียดนามไม่เพียงแต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงในระดับสูงกว่าปี 2023 เท่านั้น หากยังต้องแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ในหลายปี หลายวาระที่ผ่านมาและเตรียมพร้อมรับมือปัญหาใหม่ ๆ ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้อีกด้วย
อำนวยความสะดวกให้แก่พลังขับเคลื่อนใหม่ๆ
หนึ่งในมาตรการแรกๆ ที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ระบุในการประชุมครั้งนี้คือ การผลักดันการขยายตัว ค้ำประกันความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหาภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ คุ้มครองความสมดุลใหญ่ๆ การชี้นำนโยบายการเงินและงบประมาณประจำปี โดยกำชับว่า
“ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการขยายตัว การธำรงเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อและค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆของเศรษฐกิจ ปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างคล่องตัว เป็นฝ่ายรุก ทันการณ์และมีประสิทธิภาพต่อไป ประสานงานอย่างพร้อมเพรียง กลมกลืนและใกล้ชิดกับนโยบายงบประมาณประจำปีอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับประเด็นสำคัญและนโยบายอื่นๆ ผลักดันพลังขับเคลื่อนที่มีมาช้านานต่างๆ เช่น การลงทุน การส่งออกและการบริโภค รวมทั้งผลักดันพลังขับเคลื่อนใหม่ๆ เช่น การเชื่อมโยงระหว่างเขต วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล การปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เซมิคอนดักเตอร์และไฮโดรเจน เป็นต้น”
นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงความต้องการในการปรับปรุงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยต้องปฏิรูปองค์กรสินเชื่อที่อ่อนแอ แก้ไขโครงการที่ขาดประสิทธิภาพและผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างเขต เป็นต้น ในปี 2024 เวียดนามจะผลักดันการก่อสร้างกิจการคมนาคมที่สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะท่าอากาศยานนานาชาติ ลองแถ่ง ยื่นเสนอให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องอนุมัติโครงการลงทุนก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเหนือจรดใต้ และพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงพร้อมกับวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสำหรับการเป็นฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรระดับสูงในด้านต่างๆ มุ่งสู่เป้าหมายฝึกอบรมแหล่งบุคลากรขั้นสูง 50,000 – 100,000 คนให้แก่อุตสาหกรรมผลิตเซมิคอนดักเตอร์จนถึงปี 2030
ภาพการประชุม |
รัฐบาลเน้นการฟื้นฟู พัฒนาภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูป การผลิต โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ พยายามให้ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมในปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7-8 การส่งออกผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงคิดเป็นกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ในด้านการเกษตร ได้มีการปฏิบัติโครงการพื้นที่ปลูกข้าวสะอาดที่ลดการปล่อยคาร์บอน 1 ล้านเฮกตาร์
นอกจากนี้ เวียดนามยังเร่งดำเนินโครงการตามคำมั่นต่างๆ ในการประชุม COP28 และแถลงการณ์การเมืองเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมหรือ JETP ผลักดันการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างรอบด้าน
จากแนวทางของพรรคและรัฐคือ ถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เป็นเจ้าของ เป็นเป้าหมาย เป็นพลังขับเคลื่อนและเป็นแหล่งพลังให้แก่การพัฒนา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังยืนยันว่า ในทุกสภาวการณ์ เวียดนามต้องปฏิบัติหน้าที่ด้านสวัสดิการให้ดีที่สุด โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับคนจน กลุ่มคนด้อยโอกาส ประชาชนในเขตเขา เขตที่ห่างไกลความเจริญ เขตชายแดนและเกาะแก่ง
พยายามบรรลุผลงานที่ดีที่สุด
ในปี 2024 สถานการณ์ภายในประเทศและโลกอาจมีความลำบากมากขึ้น ดังนั้น หน่วยงานทุกระดับและท้องถิ่นต่างๆ ต้องมุ่งมั่นปฏิบัติเป้าหมายและหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมต่างๆ
“ตั้งใจแก้ไขอุปสรรคและความท้าทายในด้านต่างๆ ผลักดันการผลิตประกอบธุรกิจ ค้ำประกันให้ประชาชนและสถานประกอบการได้รับประโยชน์มากที่สุด ตั้งใจและพยายามเพื่อบรรลุผลงานที่ดีที่สุดในปี 2024”
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า หน้าที่ในปี 2024 มีความหมายสำคัญต่อการปฏิบัติเป้าหมายที่วางไว้ตามมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 พร้อมทั้งกำชับให้สมาชิกในรัฐบาล รัฐมนตรีและหัวหน้าสำนักงานต่างๆ และประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดต่างๆ พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2024 อย่างรอบด้าน เพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2021-2025 ให้ลุล่วงไปด้วยดี.