นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีบทปราศรัยที่สำคัญ ณ สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศฝรั่งเศส

       ในกรอบการเยือนฝรั่งเศส วันที่24กันยายนท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เยือนและมีบทปราศรัยที่สำคัญ ณ สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศฝรั่งเศสโดยได้นำภาพลักษณ์ของเรือลำใหญ่ที่กำลังกางใบแล่นในทะเลมาเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสซึ่งแม้จะต้องผ่านลมมรสุมและความยากลำบากต่างๆแต่เรือลำนี้ก็ไม่มีวันจมและจะเดินทางถึงฝั่งแห่งความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

แบบอย่างแห่งความร่วมมือระหว่างตะวันออก-ตะวันตก

เมื่อเริ่มต้นบทปราศรัย นายกรัฐมนตรีเหงวียนเติ้นหยุงได้ย้ำว่า เวียดนามและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์กันมาช้านานก่อนที่ทั้งสองประเทศจะสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี๑๙๗๓ เมื่อหวนมองดูในระยะทางที่ผ่านมาอาจจะยืนยันได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสทุกวันนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ปิดฉากความปวดร้าวในอดีตและฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความไว้วางใจยุทธศาสตร์ ร่วมกันมุ่งสู่การไกล่เกลี่ยปรองดอง สันติภาพ มิตรภาพและการพัฒนา นี่ก็เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ระหว่างฝรั่งเศสซึ่งเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในยุโรปกับเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้        
ทั้งนี้นายกฯได้ยืนยันว่าการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม ฝรั่งเศส แสดงให้เห็นถึงความสุกงอมของสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านในทุกระดับ เปิดระยะแห่งความร่วมมือใหม่อย่างจริงจัง การไว้วางใจ การให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพื่อสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ
เพื่อให้ความสัมพันธ์นี้เกิดประสิทธิภาพอย่างจริงจัง ท่านเหงียนเติ้นหยุงได้เสนอว่า ต้องร่วมมือกันด้วยแนวคิดใหม่และมีวิธีการปฏิบัติที่มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อทำนุบำรุงความสัมพันธ์พิเศษที่ใกล้ชิดสนิทสนมนี้ให้พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ ลึกซึ้งและเข้มแข็ง นำมาซึ่งผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ โดยในเฉพาะหน้า พวกเราให้ความสนใจ พยายามร่วมมือในด้านที่สำคัญๆ เช่น การเมืองและ การทูต กลาโหมและความมั่นคง เศรษฐกิจ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา วัฒนธรรม การศึกษา ฝึกอบรม การวิจัยวิทยาศาสตร์ ตุลาการ ความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคีในฟอรั่มระหว่างประเทศ ภูมิภาคและโลก”   ควบคู่กับการขยายการเยือนและการพบปะของผู้นำระดับสูงเพื่อมีความเห็นพ้องในปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ทางด้านพลังงาน อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ เทคโนโยขั้นสูง การเกษตร การคมนาคมและธนาคาร ท่านเหงวียนเติ้นหยุงยังย้ำว่า ในเวลาที่จะถึง ควรให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความร่วมมือในด้านการศึกษาและฝึกอบรมให้แก่เยาวชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศในอนาคต และถือการแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒธรรมขององค์การสังคมและประชาชนเป็นที่พึ่ง เป็นพื้นฐานที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส            

สะพานเชื่อมความร่วมมือเอเชีย-ยุโรปแห่งใหม่

ท่านเหงวียนเติ้นหยุงยืนยันว่าในสภาวการณ์ของโลกาภิวัตน์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่หลากหลายในปัจจุบัน  ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม ฝรั่งเศสมีเอกลักษณ์เฉพาะเพราะมีจุดร่วมเกี่ยวกับคุณค่าวัฒนธรรม ความลึกซึ้งของความสัมพันธ์ในประวัติศาสตร์ระหว่างสองชาติ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายควรวิจัย หาทางพัฒนาความสัมพันธ์นี้ในความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปเพื่อให้ความสัมพันธ์นี้กลายเป็นสะพานใหม่ให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองทวีป ควบคู่กับแนวโน้มพัฒนาที่ดีของความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรป ปัญหาจากการแข่งขันด้านผลประโยชน์ยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะ ระหว่างประเทศใหญ่ๆและความแตกต่างด้านคุณค่าวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ที่ควรได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสม ในกระบวนการที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้จำเป็นที่จะต้องสร้างสรรค์ความไว้วางใจยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศหุ้นส่วน ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม ฝรั่งเศส บนพื้นฐานของความไว้วางใจ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และมนุษยศาสตร์ที่ลึกซึ้งเฉพาะ ควรได้รับการส่งเสริม สร้างพลังจูงใจเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาระหว่างทวีปเอเชียกับยุโรปเพื่อให้ทั้งสองประเทศร่วมกันยับยั้งการแทรกแซงเพื่อผลประโยชน์ของตนและการไร้ความเสมอภาค ยับยั้งปรากฎการณ์ที่เชิดชูพลังเข้มแข็งเพียงฝ่ายเดียว การเรียกร้องที่ไร้เหตุผล การกระทำที่ขัดกับกฎหมายสากลโดยจงใจและการเมืองแบบอำนาจบาดใหญ่ ทั้งนี้และทั้งนั้นเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในโลก
เมื่อเสร็จสิ้นบทปราศรัย ท่านเหงวียนเติ้นหยุงได้แสดงความยินดีอีกครั้งต่อการที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และชี้ชัดว่า นี่เป็นการเริ่มต้น ข้างหน้ายังมีโอกาสและความท้าทายไม่น้อยแต่จากความตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะสามารถแสวงหามาตรการที่สอดคล้อง วิธีการทำที่มีความคิดสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์นับวันยิ่งพัฒนาดังความปรารถนา เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างประเทศต่างๆในโลก./.