ท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

การเยือนสหภาพยุโรปหรือEUของท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีขึ้นในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนมากมายเนื่องจากวิกฤตการเงินและความซบเซาของเศรษฐกิจโลกที่ยืดเยื้อมาหลายปี ประเทศต่างๆ รวมทั้งเศรษฐกิจชั้นนำของโลกกำลังหาวิธีการแก้ไขผลเสียหายเนื่องจากวิกฤติ ส่วนสันติภาพ ความร่วมมือ การผสมผสานและการพัฒนายังคงเป็นแนวโน้มใหญ่ เอเชีย แปซิฟิกยังคงถูกถือว่า เป็นภูมิภาคที่พัฒนาอย่างคล่องตัว และสหภาพยุโรปก็กำลังหันมาสนใจร่วมมือกับประเทศต่างๆในภูมิภาคนี้ รวมทั้งเวียดนาม ในหลายปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้เล็งเห็นบทบาทที่สำคัญของเวียดนามในภูมิภาคและมีความประสงค์ที่จะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามและกับอาเซียนผ่านเวียดนามโดยในการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนตุลาคมปี๒๐๑๒ ท่านHerman Van Rompuy ประธานสภายุโรป ได้กล่าวว่า“เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่มีความสำคัญเป็นพิเศษของสหภาพยุโรปในเอเชียและอาเซียน ผมหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายจะได้รับการขยายบนพื้นฐานของข้อตกลงหุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านหรือPCAที่ได้ลงนามกันและชื่นชมการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTAระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปซึ่งจะนำผลประโยชน์มาให้แก่ทั้งสองฝ่ายผ่านการผลักดันการขยายตัวและการสร้างงานทำทั้งในเวียดนามและสหภาพยุโรป  พวกเราให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อความสำเร็จของเวียดนามเพราะจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ภูมิภาคและเพื่อนมิตรในโลก”

ท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้การต้อนรับท่านHerman Van Rompuy ประธานสภายุโรป  ณ เวียดนามปี 2010(Photo:Internet)

ในกว่า๒๐ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปได้พัฒนาอย่างรวดเร็วและกว้างลึก ในด้านเศรษฐกิจและการค้า สหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนชั้นนำของเวียดนาม เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ๒ของเวียดนามรองจากสหรัฐและปี๒๐๑๒ได้แซงหน้ามาอยู่อันดับ๑ ในหลายปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ๑๕ถึงร้อยละ๒๐ต่อปี เกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาหรือODA สหภาพยุโรปก็เป็นนักอุปถัมภ์ใหญ่อันดับ๒ และเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในรูปให้เปล่าที่ใหญ่ที่สุดแก่เวียดนามคือ เป็นร้อยละ๒๐ของจำนวนเงินทั้งหมดที่ชมรมนักอุปถัมภ์ได้ให้คำมั่นสงวนแก่เวียดนาม ปี๒๐๑๒ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงโครง PCAและเสร็จสิ้นรอบที่๑ของการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTA นายLê Hải Bình อธิบดีกรมนโยบายต่างประเทศแห่งกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวว่า“เอเชีย แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่ประเทศและองค์กรใหญ่ๆให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง สหภาพยุโรปก็ให้ความสนใจเวียดนามเป็นอย่างมากโดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงPCA  เป็นโครงการที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องให้๒๗ประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ลงนามอนุมัติแต่นี่ถือเป็นนิมิตรหมายสำคัญด้านความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายเพราะเมื่อก่อนนี้ พวกเราได้มีข้อตกลงโครงปี๑๙๙๕ ภายหลัง๑๗ปี จนถึงปัจจุบันพวกเรามีข้อตกลงฉบับที่๒ที่กำหนดกรอบของความร่วมมือซึ่งสหภาพยุโรปให้ความสำคัญและยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามให้อยู่ในระดับสูง เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งนอกเหนือจากตัวเลขที่เป็นรูปธรรมแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังเริ่มการเจรจาFPAซึ่งเป็นผลสำเร็จที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”   บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่กำลังพัฒนาอย่างดีงามในปัจจุบัน การเยือนสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของเลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọng จะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายพัฒนายิ่งขึ้น มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ และผลักดันการปฏิบัติโครงการต่างๆที่บรรดาหุ้นส่วนในสหภาพยุโรปให้ความสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ  ผ่านการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบรรดาผู้นำคณะกรรมการยุโรป เลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọng สามารถส่งสาส์นว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป ให้คำมั่นที่จะร่วมกับสหภาพยุโรปผลักดันความสัมพันธ์ให้มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นพร้อมทั้งส่งเสริมบทบาทการเป็นคนกลางเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหภาพยุโรป

สหภาพยุโรปก็เป็นนักอุปถัมภ์ใหญ่อันดับ๒ และเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในรูปให้เปล่าที่ใหญ่ที่สุดแก่เวียดนาม(Photo:Internet)

จากการเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เบลเยี่ยมเป็นหนึ่งในประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์กับเวียดนามโดยจนถึงปัจจุบัน สัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างกว้างลึก โดยเฉพาะด้านการเมือง การทูต เศรษฐกิจ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การศึกษา การฝึกอบรม  การขยายความร่วมมือระหว่างเขตและท้องถิ่นของทั้งสองประเทศซึ่งในสภาวการณ์นี้ การเยือนเบลเยี่ยมของเลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọng จะสร้างเงื่อนไขล่วงหน้าเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาในทุกด้านในอนาคต ในการเยือนนี้ เลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọng และผู้นำเบลเยี่ยมจะพิจารณาถึงการยกระดับความสัมพันธ์ในด้านต่างๆที่เหมาะสมในอนาคตพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน  การเยือนสหภาพยุโรปและเบลเยี่ยมของเลขาธิการใหญ่Nguyễn Phú Trọng ก็เพื่อปฏิบัติแนวทางต่างประเทศของเวียดนามอย่างสมบูรณ์ซึ่งจะเป็นนิมิตรหมายสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปและเบลเยี่ยมอย่างแน่นอนและจะมีส่วนร่วมส่งเสริมความร่วมมือในหลายด้านกับหุ้นส่วนที่สำคัญเเหล่านี้ให้พัฒนายิ่งขึ้นในสถานการณ์ใหม่./.