อิสราเอลยิงจรวดใส่ฉนวนกาซ่าเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา (Photo: : Reuters) |
การปะทะในช่วง 3 วันที่ผ่านมาเป็นการปะทะที่ดุเดือดที่สุดระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มนักรบในฉนวนกาซ่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากให้แก่ประชามติในภูมิภาคและโลกในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางมีความไร้เสถียรภาพและการปะทะระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล
การปะทะเกิดขึ้นและความวิตกกังวลของประชาคมโลก
การปะทะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมหลังจากที่กองทัพอิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศหลายครั้งใส่เป้าหมายต่างๆในฉนวนกาซ่า ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 15 คนเสียชีวิต รวมถึงแกนนำของกลุ่มญิฮาด ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยาอีร์ ลาพิดได้ชี้ชัดว่า การโจมตีนี้ก็เพื่อทำลายแผนการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซ่าที่อิหร่านสนับสนุน ต่อจากนั้น ในระหว่างวันที่ 6 -7 สิงหาคม กองทัพอิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศอีกหลายครั้งใส่เป้าหมายต่างๆในฉนวนกาซ่า ตามข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขปาเลสไตน์ ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 44 คน ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บประมาณ 360 คน บ้านเรือนนับร้อยหลังและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆได้รับความเสียหาย
เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอล กลุ่มนักรบญิฮาดได้ยิงจรวดนับร้อยลูกจากฉนวนกาซ่าใส่ดินแดนของอิสราเอล ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของอิสราเอล ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ได้ยิงจรวดประมาณ 580 ลูกใส่ดินแดนของอิสราเอลแต่ส่วนใหญ่ถูกระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ Iron Dome สกัดเอาไว้ได้ โดยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ
ตามการประเมินขององค์การด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การปะทะที่ผ่านมาได้สร้างความวิตกกังวลต่อประชาคมโลกเนื่องจากทำให้โอกาสการฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสโตน์ที่ชะงักงันในรอบหลายปีที่ผ่านมามีความเปราะบางมากขึ้น ในประกาศเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นาย Josep Borrell โฆษกของตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปหรืออียูที่ดูแลนโยบายด้านการต่างประเทศได้ชี้ชัดว่า อียูมีความวิตกกังวลต่อความผันผวนครั้งล่าสุดทั้งบริเวณภายในและบริเวณโดยรอบฉนวนกาซ่า อียูเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องใช้ความอดกลั้นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดมากขึ้น
ทหารอิสราเอลปฏิบัติหน้าที่ในเขตชายแดนที่ติดกับฉนวนกาซ่า (Photo: TTXVN) |
ธำรงการปฏิบัติข้อตกลงหยุดยิงเพื่อเอื้อให้แก่การเจรจาสันติภาพ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศประเมินว่า การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นก้าวเดินที่สำคัญในความพยายามรักษาเสถียรภาพสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดร้อนเกี่ยวกับการปะทะในโลกในหลายทศวรรษที่ผ่านมา อันเป็นการอธิบายให้แก่การที่หลายประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้ออกมาแสดงการสนับสนุนหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงได้รับการประกาศ โดยในประกาศเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องปฏิบัติข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจังและสมบูรณ์ พร้อมทั้งย้ำว่า สหประชาชาติสนับสนุนมาตรการสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนพื้นฐานของมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ กฎหมายสากลและข้อตกลงฉบับต่างๆ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้แสดงความยินดีต่อข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว พร้อมทั้ง เร่งรัดให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องปฏิบัติข้อตกลงดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ ค้ำประกันกิจกรรมการจัดสรรเชื้อเพลิงและกิจกรรมการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซ่า
แต่อย่างไรก็ดี บรรดาผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้เตือนว่า การธำรงข้อตกลงหยุดยิงเป็นความท้าทายใหญ่ โดยทั้งกองทัพอิสราเอลและกลุ่ม PIJ ต่างประกาศว่า จะมีการตอบโต้ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและในอดีต ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าก็เคยถูกละเมิดหลายครั้งภายหลังการประกาศใช้ไม่กี่วันเนื่องจากมีหลายเหตุผล ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ในประกาศเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นาย Tor Wennesland ผู้ประสานงานพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางได้ย้ำว่า สถานการณ์มีความเปราะบางมากและข้อตกลงหยุดยิงอาจถูกละเมิดได้ทุกเมื่อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องและประชาคมโลก โดยเฉพาะสหประชาชาติ ประเทศที่มีอิทธิพลต่างๆ เช่น สหรัฐ อียิปต์และอิหร่านต้องส่งเสริมความพยายามเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติข้อตกลงหยุดยิงอย่างสมบูรณ์ เอื้อให้แก่การผลักดันการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพในเวลาที่จะถึง.