(VOVworld)- ในขณะที่การประชุมของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งเป็นฟอรั่มทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังมีขึ้น ณ นครนิวยอร์คประเทศสหรัฐโดยมีประเด็นหลักคือมุ่งแสวงหาทางออกให้แก่วิกฤตการเมืองในซีเรียนั้น เมื่อวันที่26กันยายน สำนักงานใหญ่คณะเสนาธิการกองทัพซีเรียที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงดามัสกัดต้องเผชิญกับเหตุระเบิด2ครั้ง ซึ่งเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะที่ความพยายามทางการทูตของประชาคมระหว่างประเทศไม่มีแนวโน้มที่จะสำเร็จนั้นก็ทำให้ประชามติไม่คาดหวังต่อการแสวงหามาตรการยุติสงครามภายในของเซียเรียในการประชุมครั้งนี้มากนัก

ประชุมของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (internet)

การโจมตีสำนักงานใหญ่ของกองทัพซีเรียเป็นฝีมือของกองกำลังลุกขึ้นสู้ซีเรียและก็เป็นการโจมตีครั้งที่สองในรอบ2วันที่ผ่านมาในเมืองหลวงดามัสกัด ซึ่งถึงแม้ทางรัฐบาลซีเรียได้แจ้งว่าความเสียหายจากสองเหตุการณ์ดังกล่าวมีไม่มากและไม่มีนายทหารเสียชีวิตแต่เรื่องนี้ก็ทำให้ประชามตินึกถึงการวางระเบิดสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติซีเรียเมื่อกว่า1เดือนก่อนจนส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงเสียชีวิต4คนและเป็นการแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ความรุนแรงในซีเรียนับวันเลวร้ายยิ่งขึ้น

ปัญหาซีเรียเคยเป็นหัวข้อใหญ่ของการประชุมระหว่างประเทศหลายครั้งแต่ในทางเป็นจริงภายหลังตกเข้าสู่ความไร้เสถียรภาพมาเป็นเวลา18เดือน ในปัจจุบัน ทุกข้อคิดริเริ่มและมาตรการทางการเมืองต่างๆทั้งในระดับภูมิภาคและโลกต่างขาดประสิทธิภาพ โดยนักวิเคราะห์หลายคนได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหานี้ว่าเป็นเพราะรัฐบาลซีเรียไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับนานาชาติ ส่วนอีกหลายฝ่ายได้กล่าวหาว่ากองกำลังฝ่ายค้านได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือประชาคมระหว่างประเทศขาดความเป็นเอกภาพในการตัดสินใจปัญหาซีเรีย  ซึ่งเมื่อหวนกลับไปในช่วงที่นายโคฟีอันนัน เป็นทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับ แผนการสันติภาพ6ข้อของเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายแต่การขาดระเบียบการปฏิบัติที่ชัดเจนและไม่อิงสถานการณ์ที่เป็นจริงในซีเรีย โดยเฉพาะจุดยืนของบางประเทศที่มีความเอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไปในการปะทะได้ทำให้กระบวนการปฏิบัติแผนการดังกล่าวประสบความล้มเหลว นอกจากนั้นเพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีบาร์ซาอัลอาสซาดต้องลาออก ฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศอาหรับได้เรียกร้องให้ฝ่ายค้านในซีเรียจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลแต่ความคิดนี้กลับถูกสหรัฐคัดค้านอย่างรุนแรงเพราะถึงแม้สหรัฐเองจะให้การสนับสนุนเรื่องนี้เช่นกันแต่ก็ได้ตำหนิการกระทำของปารีสว่ารีบร้อนเกินไป ไม่มีการประสานงานกับประเทศต่างๆและเห็นว่ายังเร็วเกินไปสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลในซีเรียเพราะฝ่ายค้านเองก็ยังไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับแผนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมือง ซึ่งวอชิงตันยังอยากใช้มาตรการคว่ำบาตรที่หนักกว่านี้และกำลังพยายามช่วยสนับสนุนการรบให้แก่ฝ่ายค้านในซีเรีย  ส่วนทางฝ่ายตะวันตกและประเทศอาหรับต่างๆนั้นถึงแม้ได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีซีเรียลาออกแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีประเทศใดออกมายอมรับความชอบธรรมในการบริหารของฝ่ายค้านในซีเรียอย่างเป็นทางการ นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่หลายประเทศในภูมิภาคได้ให้ความช่วยเหลืออาวุธแก่ฝ่ายค้านผ่านฐานทัพของตนในประเทศตุรกี ส่วนทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้นก็มีการออกมติหลายครั้งเพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบาร์ซา อัลอาสซาดลาออกจากตำแหน่งแต่ก็ได้ถูกรัสเซียและจีนคัดค้าน โดยทั้งสองประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงได้ยืนยันจุดยืนที่ว่าจะให้การสนับสนุนมาตรการเจรจาทางการทูตเท่านั้นโดยไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงทางทหารหรือการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และจุดยืนอันเหนี่ยวแน่นนี้ก็ได้รับการยืนยันอีกครั้ง ณ ที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่หารือเกี่ยวกับร่างมติโดยโมร็อคโกเสนอให้นาย อาสซาดถ่ายโอนอำนาจให้แก่รองประธานาธิบดี ส่วนนาย บราฮีมี ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับเผยว่า เขากำลังร่างแผนการใหม่เพื่อแก้ไขความชงักงันในซีเรียและจะทำการสนทนากับฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้ออีกหลายครั้งเพื่อเสร็จสิ้นแผนการนี้โดยเร็ว 

การโจมตีสำนักงานใหญ่ของกองทัพซีเรีย(internet)

            ยังไม่รู้ว่าแผนการใหม่นี้ของนาย บราฮีมีจะเป็นอย่างไรและสามารถประสานกับแผนการเดิมของนายโคฟีอันนันได้หรือไม่ แต่ประชามติก็ยังคาดหวังว่าในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งนี้จะสามารถแสวงหามาตรการทางการเมืองให้แก่ปัญหาซีเรียได้ โดยตามการวิเคราะห์ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ ยากที่จะกดดันให้นาย บาร์ซา อัล อาสซาด ลาออกแต่ความหวังในการแสวงหาทางออกให้แก่วิกฤตของซีเรียยังมีอยู่หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถแสวงหาความเห็นพ้องต้องกันในแผนการสันติภาพ แต่ในเมื่อประชาคมระหว่างประเทศพยายามอย่างเต็มที่นั้น ซีเรียกลับกำลังเผชิญกับผลเสียที่เกิดจากสงครามกลางเมือง นั่นคือวิกฤตด้านอาหารเนื่องจากการเก็บเกี่ยวไม่ได้ผล ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บไม่อยากไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนเด็กๆต้องหยุดเรียนเพราะโรงเรียนถ้าไม่เสียหายจากการโจมตีก็ถูกใช้เป็นที่พักชั่วคราวของประชาชนหลายหมื่นคนที่ไร้ที่อยู่อาศัย โรงงานและกิจการสังคมต่างๆถูกทำลายและกระแสผู้อพยพก็นับวันยิ่งสูงขึ้นจนทำให้ทูตพิเศษของสหประชาชาติและสันนิบาตอาหรับ นายบราฮีมีต้องยอมรับต่อที่ประชุมลับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 26ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ในประเทศตะวันออกกลางนี้กำลังเลวร้ายลงทุกวันซึ่งไม่เพียงแต่คุกคามต่อภูมิภาคนี้เท่านั้นหากรวมถึงความมั่นคงและสันติภาพของทั่วโลกอีกด้วย

            ทั้งนี้ เมื่อไหร่และด้วยมาตรการใด โลกจะได้เห็นจุดสิ้นสุดของวิกฤตในซีเรียในเมื่อบรรดาประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงยังมีความขัดแย้งกันอยู่ในเรื่องนี้  ซึ่งเป็นคำถามที่ยากจะหาคำตอบได้ และถึงแม้ว่าจะมีการประกาศคำสั่งหยุดยิงหรือข้อคิดริเริ่มใหม่เพิ่มอีก ซีเรียก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกันเองและอนาคตของซีเรียจะยังคงมืดมนไปอีกนาน./.