ศูนย์วิจัยใกล้กรุงดามัสกัสถูกทำลายหลังการโจมตีของสหรัฐและพันธมิตร (EPA)

ตามข่าวที่เราได้เสนอไปแล้ว เมื่อเช้าตรู่วันที่ 14 เมษายน สหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสได้ทำการโจมตีใส่ซีเรีย ถึงแม้ไม่มีความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สินอย่างหนัก แต่เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้บรรยากาศการเมืองระหว่างประเทศมีความร้อนระอุมากขึ้นในตลอด 3 วันที่ผ่านมา

การโจมตีทางทหารไม่ใช่มาตรการแก้ปัญหา

หลายประเทศได้แสดงความเห็นว่า การโจมตีของสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสใส่ซีเรีย โดยให้เหตุผลว่า เพื่อตอบโต้ทางการดามัสกัสเนื่องจากสงสัยว่า ใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์คือการกระทำที่ก้าวร้าวและขัดกับแนวทางของประชาคมโลก จนถึงขณะนี้ การโจมตีที่ถูกสงสัยว่า ใช้อาวุธเคมีในเมืองโดว์มา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังฝ่ายต่อต้านใน Ghouta ตะวันออกเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนยังไม่ได้รับการสืบสวนข้อเท็จจริง

ที่สหรัฐ ได้มีการชุมนุมประท้วงที่เมืองลอสแอนเจลิส เมืองพอร์ตแลนด์ นครนิวยอร์คและกรุงวอชิงตันเพื่อคัดค้านการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐใส่ซีเรีย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประชุมฉุกเฉิน แต่ไม่สามารถออกมติฉบับใดๆต่อปัญหานี้ ส่วนนาย อันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เร่งรัดให้ประเทศต่างๆต้องใช้ความอดกลั้นในสภาวการณ์ที่อันตรายในปัจจุบัน และหลีกเลี่ยงทุกปฏิบัติการที่อาจทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปและทำให้ประชาชนซีเรียตกเข้าสู่ภาวะเดือดร้อนมากขึ้น

จนถึงขณะนี้ ผลการโจมตีทางอากาศตามรายงานของทุกฝ่ายยังคงแตกต่างกัน ในขณะที่สหรัฐเผยว่า ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นและสามารถหลีกเลี่ยงการโต้ตอบจากระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียเพื่อสามารถโจมตีใส่เป้าหมายหลักที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีของซีเรียนั้น ฝ่ายรัสเซียกลับเผยว่า สามารถสกัดการโจมตีได้

แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือ การโจมตีทางอากาศครั้งนี้คือปฏิบัติการโจมตีใส่ประเทศที่มีอธิปไตยที่เพิ่งผ่านพ้นการปะทะที่ยืดเยื้อ และมีความคาดหวังที่จะเห็นสันติภาพ หลังจากกองกำลังก่อการร้ายถูกขับไล่ออกไป และกำลังย่างเข้าสู่ระยะการเจรจาทางการเมืองเพื่อสร้างเสถียรภาพนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะแก้ต่างได้ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมีการกระทำที่ระมัดระวังเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อเป็นเวลาหลายปีในซีเรีย

ชาวอเมริกันใน Philadelphia รัฐ Pennsylvania คัดค้านสหรัฐโจมตรีซีเรีย (sggp)

แสวงหาแนวทางการเจรจา

หลังการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส พร้อมกับการเรียกร้องให้องค์การห้ามอาวุธเคมีเร่งรัดสืบสวนอย่างสมบูรณ์และอิสระเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนซีเรีย ประชาคมโลกก็กำลังผลักดันการเจรจารอบใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาซีเรียอย่างเด็ดขาด

ประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกได้มีคำประกาศโดยยืนยันถึงทัศนะที่สนับสนุนความพยายามของประชาคมโลกเพื่อยุติการใช้ความรุนแรงและนำสันติภาพมาสู่ซีเรียผ่านมาตรการทางการทูต โดยออสเตรียได้เสนอให้ทุกฝ่ายฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพของกลุ่มนานาชาติช่วยเหลือซีเรีย ซึ่งเคยจัดขึ้น ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียเมื่อปี 2015 และยืนยันว่า พร้อมที่จะเป็นคนกลางและจัดการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับซีเรียในทุกที่ทุกเวลา

ภายหลังการโจมตีทางอากาศ สหรัฐและพันธมิตรกำลังมีแนวโน้มกลับมาใช้มาตรการทางการทูต ร่างมติที่ 3 ประเทศนี้เป็นผู้จัดทำได้ถูกนำมาหารือในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ  รวมทั้งการเปิดการสืบสวนอิสระเกี่ยวกับการโจมตีต่างๆในซีเรียเพื่อหาผู้กระทำผิด ในขณะเดียวกัน เยอมนีได้ประกาศว่า จะร่วมมือกับฝรั่งเศสเพื่อเปิดการเจรจาใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาซีเรีย โดยมีการเข้าร่วมของประเทศที่มีอิทธิพลเพื่อค้ำประกันการแก้ไขการปะทะทางการเมืองในซีเรีย

ด้วยบรรยากาศทางภูมิศาสตร์และการเมืองที่ซับซ้อนและอ่อนไหวของซีเรีย การแทรกแซงทางทหารของฝ่ายตะวันตกครั้งล่าสุดนี้จะทำให้เกิดปรากฎการณ์โดมิโน่ใหม่ในตะวันออกกลาง ในเวลานี้ ทุกฝ่ายต้องมีปฏิบัติการที่ทันการณ์ ร่วมกันเจรจาเพื่อร่วมมือแก้ไขบนพื้นฐานกฎบัตรสหประชาชาติและอนุสัญญาระหว่างประเทศ และจนถึงขณะนี้ ทุกฝ่ายยังคงพยายามสร้างโอกาสเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหานี้.