 พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง (vietnamplus) |
ในการประชุมครั้งที่ 7 ของคณะกรรมการร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมทางจิตใจเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปี 2012 องค์การยูเนสโกได้รับรอง “ความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งที่จังหวัดฟู้เถาะ” ให้เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติ ข้อกำหนดเกี่ยวกับพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งถูกระบุอย่างชัดเจนและเข้มงวด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพศรัทธาของราชวงศ์ต่างๆและประชาชนต่อบรรพบุรุษ
ความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง-สร้างความผูกพันประชาชาติเวียดนาม
ความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตด้านจิตใจของประชาชนเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่า มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พึ่งทางจิตใจ สร้างพลังที่เข้มแข็งแห่งความสามัคคีประชาชาติในการร่วมกันสร้างชาติและรักษาชาติ ประชาชนเวียดนามทุกคนมีความภาคภูมิใจที่มีสายเลือดเดียวกันโดยเทพหลากลองกวนและนางฟ้าเอิวเกอคือผู้ให้กำเนิดประชาชาติ ศาสตราจารย์ ดร. โงดึ๊กถิ่ง สมาชิกสภามรดกวัฒนธรรมแห่งชาติยืนยันว่า ประเพณีการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งได้รับการรักษาและสืบทอดจากคนเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่า มีส่วนร่วมหล่อหลอมจิตใจและความกล้าหาญมุ่งมั่นของประชาชาติเวียดนาม “เมื่อพูดถึงคุณค่า ความสำคัญของประเพณีนี้ต้องกล่าวถึงที่มาของความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งที่มาจากคติความเชื่อดื่มน้ำต้องรำลึกถึงแหล่งที่มาของน้ำและประเพณีการบูชาบรรพบุรุษในตระกูลและครอบครัวผสานกับความต้องการของประเทศในสมัยศักดินาหลังพ้นจากการปกครองของราชวงศ์จีน ซึ่งต้องมีที่พึ่งทางจิตใจ ทั้งหมดนี้ผสมผสานกันเป็นประเพณีที่ยูเนสโกประทับใจอย่างมาก แต่กลับมีชื่อที่เรียบง่ายคือพิธีบวงสรวง เหมือนเวลาที่บรรพบุรุษพวกเรากล่าวถึงการบวงสรวงปู่ย่าตายาย เป็นสิ่งที่คุ้นเคย ดังนั้นมีพลังชีวิต”
ความเชื่อในการบูชาและการแสดงความสำนึกในบุญคุณบรรพบุรุษของชาวเวียดนามได้กลายเป็นมรดกวัฒนธรรมทางจิตใจอันเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม อีกทั้งมีลักษณะรวมของมนุษยชาติอย่างเด่นชัด ศาสตราจารย์ ดร. โงดึ๊กถิ่ง แสดงความเห็นว่า การที่ยูเนสโกรับรอง “ความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง” เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติก็เป็นการยืนยันถึงความภาคภูมิใจและความสามัครในชุมชนของประชาชาติเวียดนาม “นี่คือจุดศูนย์รวมทางจิตวิญญาณของชาวเวียดนาม ทำให้ชาวเวียดนามสำนึกในรากเหง้าร่วม สร้างความสามัคคีและความผูกพันของประชาชาติ ในประวัติศาสตร์เวียดนาม ความผูกพันและความสามัคคีคือพลังที่เข้มแข็ง ในปัจจุบันและในอนาคต ประชาชาติเวียดนามต้องใช้พลังที่เข้มแข็งดังกล่าวในการพัฒนาเศรษฐกิจและพิทักษ์รักษาบูรณภาพแห่งดินแดน”
รักษาและส่งเสริม “ความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง”เพื่ออนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมเวียดนาม
เมื่อหลายพันปีก่อน ชาวเวียดนามได้สร้างวิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง ณ ภูเขาเหงียลิง ในตำบลฮีเกือง เมืองเวียดจี จังหวัดฟู้เถาะ นอกจากนั้น ยังมีศาลาและวิหารอีกหลายแห่งที่บูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง ภรรยาและบุตรของนายพลในสมัยบรรพกษัตริย์หุ่งทั้งในจังหวัดฟู้เถาะและสถานที่หลายแห่งในทั่วประเทศ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก แต่ชาวเวียดนามยังคงไม่ลืมรากเหง้าและรำลึกถึงปิตุภูมิ อีกทั้งได้ยืนยันกับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตนในประเทศเวียดนาม ชาวเวียดนามในต่างประเทศได้เดินทางไปยังวิหารหุ่งเพื่อขอดิน น้ำและก้านธูปในเขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์วิหารหุ่งเพื่อนำกลับไปสำหรับตั้งวิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งในประเทศที่ตนอาศัย นาย เหงียนคักเซือง นักวิจัยวัฒนธรรมได้แสดงความเห็นว่า “ตำนานกษัตริย์หุ่งมีความหมายเป็นที่พึ่งทางจิตวิญญาณของเวียดนาม เพราตำนานนี้สะท้อนความรู้สึกของประชาชาติเวียดนามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า เมื่อเดินทางไปยังจังหวัดฟู้เถาะและวิหารเหงียหลิงก็คือการเดินทางกลับสู่ผืนดินแห่งบรรพบุรุษ”
ผ่านการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ ประเพณีการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งยังคงได้รับการธำรงและสืบทอดจากคนวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนทั้งชาติ ทุกปี พิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งได้รับการจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ นาย ฝ่ามบ๊าเคียม นายกสมาคมศิลปะพื้นเมืองจังหวัดฟู้เถาะเผยว่า ประชาชนจังหวัดฟู้เถาะได้รับมอบหมายให้อนุรักษ์ ปฏิสังขรณ์และจัดพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่ง ณ วิหารบรรพบุรุษกษัตริย์หุ่ง “สิ่งนี้ได้รับการปฏิบัติมานับพันปีก่อนที่ยูเนสโกรับรองความเลื่อมใสศรัทธาในการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติ การที่ยูเนสโกยกย่องสดุดีก็เป็นการยืนยันอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับรากเหง้าของประชาชาติเวียดนาม พวกเราเป็นคนรุ่นหลังต้องช่วยกันอนุรักษ์และส่งเสริมคุณค่ามรดกนี้ต่อไป”
ประเพณีการบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งแสดงให้เห็นถึงคติความเชื่อว่า “ดื่มน้ำต้องรำลึกถึงแหล่งที่มาของน้ำ”ของประชาชาติเวียดนาม ซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่มีชาติใดในโลกเสมอเหมือน.