(VOVworld) – เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวางพร้อมภริยาได้เสร็จสิ้นการเยือนประเทศลาวและกัมพูชาอย่างเป็นทางการ นี่เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของท่านเจิ่นด่ายกวางในฐานะประธานประเทศเวียดนาม ซึ่งผลสำเร็จในการเยือนครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างมากต่อความสัมพันธ์มิตรภาพและยุทธศาสตร์พิเศษรหว่างเวียดนาม – ลาวและกัมพูชา

ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางและพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี

การเยือนประเทศลาวและกัมพูชาของประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้มีขึ้นตามคำเชิญของท่านบุนยัง วอละจิด  เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานประเทศลาวและพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาในระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน ท่ามกลางบรรยากาศที่เวียดนามและลาวกำลังเตรียมฉลองครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 5 กันยายนและ 40 ปีการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ 18 กรกฎาคม พร้อมทั้งฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา 24 มิถุนายน
เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานอย่างดีงาม
ในระหว่างการเยือนประเทศลาวและกัมพูชาเป็นเวลา 5 วัน ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้มีการเจรจาและพบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยยืนยันแนวทางการต่างประเทศของเวียดนามว่า ถือลาวและกัมพูชาเป็นสองประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุด ส่วนผู้นำระดับสูงของลาวและกัมพูชาก็ยืนยันว่า ถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนเก่าแก่ที่สำคัญที่สุดและเป็นหุ้นส่วนพิเศษ เป็นความสัมพันธ์พิเศษที่ได้รับการสถาปนาเนื่องจากการสละเลือดเนื้อของประชาชนทั้งสามประเทศ ในการเยือนประเทศลาว ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้ย้ำถึงความสำคัญพิเศษระหว่างเวียดนามกับลาว ซึ่งได้สถาปนาจากเลือดเนื้อของนักปฏิวัติรุ่นแล้วรุ่นเล่าของทั้งสองประเทศและกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของ 2 ประชาชาติ ส่วน พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชาและผู้นำระดับสูงของกัมพูชาได้ยืนยันว่า ประเทศกัมพูชาสำนึกในบุญคุณของทหารอาสาสเวียดนามที่ได้ช่วยปลดปล่อยประชาชนกัมพูชาให้หลุดพ้นจากภัยฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดงเมื่อปี 1979และถือการเสียสละดังกล่าวเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ประธานประเทศเวียดนามและผู้นำลาวและกัมพูชาต่างยืนยันว่า จำเป็นต้องพยายามมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าวให้นับวันพัฒนามากขึ้นและเอื้อประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสามประเทศ ตลอดจนต้องสืบทอดให้แก่คนรุ่นหลังและพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานและความสามัคคีพิเศษที่งดงามนี้มากขึ้น
ขยายความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนาม ลาวและกัมพูชาต่อไป
นอกจากผลสำเร็จที่งดงามในด้านการเมืองและการทูตแล้ว ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางยังหารือกับผู้นำลาวและกัมพูชาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยยืนยันว่า โครงการลงทุนต่างๆของเวียดนามในลาวและกัมพูชาได้มีส่วนร่วมต่อการขยายตัวของแต่ละประเทศ สร้างงานทำ มีส่วนร่วมแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
ในด้านการค้า ผู้นำประเทศลาวและกัมพูชาต่างแสดงความคิดเห็นว่า ยังมีศักยภาพมากในด้านนี้ ดังนั้นต้องพยายามมากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า ส่วนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจระหว่างลาวกับเวียดนาม ระหว่างกัมพูชากับเวียดนามและระหว่างสามประเทศในกรอบ CLV (ประกอบด้วยกัมพูชา ลาวและเวียดนาม) และ CLMV (ประกอบด้วยกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม)ได้รับการหารือและมีความเห็นพ้องกันในระดับสูง ลาวมีความประสงค์ที่จะขยายรูปแบบ “ประตูเดียว”ที่กำลังใช้อยู่อย่างมีประสิทธิภาพในจุดผ่านแดนนานาชาติลาวบ๋าว – แดนสะหวัน สำหรับประเทศลาว ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะพยายามปฏิบัติแผนความร่วมมือระหว่างสองรัฐบาลในปี 2016 และข้อตกลงร่วมมือทวิภาคีเวียดนาม – ลาวช่วงปี 2016-2020 ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะปฏิบัติผลการประชุมคณะกรรมการผสมเวียดนาม – กัมพูชาครั้งที่ 14 และการประชุมร่วมมือของจังหวัดชายแดนครั้งที่ 8 ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สื่อลาวลงบทความเกี่ยวกับการเยือนของประธานประเทศเจิ่นด่ายกวาง

ในด้านการศึกษา วัฒนธรรมและสังคม เวียดนามและลาวได้เห็นพ้องกันที่จะจัดสัปดาห์วัฒนธรรมลาวในเวียดนาม ร่วมกันปฏิบัติโครงการไมตรีจิตรมิตรภาพระหว่างสองประเทศ รวมทั้งสวนสาธารณะประธานโฮจิมินห์ในกรุงเวียงจันทน์
ในปัญหาระดับโลก ทั้งลาวและกัมพูชาต่างเห็นพ้องกันว่า สถานการณ์ในภูมิภาคกำลังมีความซับซ้อน ซึ่งควรส่งเสริมการใช้สันติวิธีเพื่อแก้ไขการพิพาท รวมทั้งการเจรจาและทาบทามความคิดเห็น มีความอดกลั้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง ปฏิบัติตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและร่วมมือกับประเทศสมาชิกอื่นๆของคณะกรรมการลุ่มน้ำโขงเพื่อค้ำประกันการควบคุมและการใช้แหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน
ผลสำเร็จจากการเยือนประเทศลาวและกัมพูชาของประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับลาวและความสัมพันธ์เพื่อนบ้านที่ดีงาม มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือที่รอบด้าน ยาวนานและยั่งยืนกับประเทศกัมพูชาให้นับวันพัฒนามากขึ้น./.