 นาย Thoongsavanh Phomvihane สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคฯ หัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางของพรรคประชาชนปฏิวัติลาว |
ในฐานะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับลาวได้รับการทำนุบำรุงในตลอดประวัติศาสตร์แห่งการสร้างชาติ ปกป้องและสร้างสรรค์ประเทศของทั้งสองฝ่าย
ความสัมพันธ์ที่ได้รับการทำนุบำรุงจากไมตรีจิตมิตรภาพที่โปร่งใสและการอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1962 ได้เปิดยุคใหม่ในภารกิจการสร้างสรรค์และขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประชาชาติเวียดนามและลาว จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับความหมายที่ยิ่งใหญ่และบทบาทสำคัญพิเศษของความสัมพันธ์นี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนาม – ลาว ยืนยันความรักใคร่ที่โปร่งใสและให้คำมั่นที่จะเคียงบ่าเคียงไหล่ในภารกิจการปกป้องเอกราช สันติภาพและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามและลาว นาย Thoongsavanh Phomvihane สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคฯ หัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้ประเมินว่า
“ผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาวและเวียดนามในตลอด 60 ปีหลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตคือทั้งสองประเทศได้ร่วมกันต่อสู้กับศัตรู ช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชาติและปลดปล่อยประเทศเมื่อปี 1975 หลังจากนั้น 2 ปีคือปี 1977 เวียดนามและลาวได้ลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ นี่คือพื้นฐานที่ยั่งยืนที่ช่วยธำนุบำรุงและขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ สร้างพื้นฐานให้แก่การลงนามในข้อตกลงร่วมมืออย่างรอบด้านฉบับต่างๆในช่วงหลัง ย่างเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ คือช่วงปี 1980 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ได้รับการทำนุบำรุงและยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่จากผู้นำทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้ช่วยเหลือกันฟันฝ่าอุปสรรค สร้างสรรค์ประเทศและช่วยเหลือจุนเจือกันส่งเสริมพลังภายใน ยกระดับบทบาทและสถานะของแต่ละประเทศในภูมิภาคและโลก”
ในตลอดเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาวได้เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง กลาโหม ความมั่นคง การต่างประเทศ เศรษฐกิจสังคมและการลงทุนไปจนถึงวัฒนธรรมและการศึกษา โดยเฉพาะนับวันแน่นแฟ้นมากขึ้น นาย แสงเพชร ห่วงบุ่นญวง เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า
“ความสัมพันธ์ลาว –เวียดนามไม่เพียงแต่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น หากยังเป็นความสัมพันธ์พี่น้องในครอบครัวอีกด้วย เป็นตัวอย่างแห่งความสัมพันธ์ระหว่างระเทศที่หายากในทั่วโลกดั่งโอวาทของประธาน ไกสอน พมวิหาน ว่า “ในประวัติศาสตร์การปฏิวัติโลกมีตัวอย่างเกี่ยวกับจิตใจแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของชนชั้นกรรมชีพ แต่ยังไม่มีที่ใดมีความสามัคคีและพันธมิตรในการต่อสู้ที่พิเศษ ยาวนานและรอบด้านเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างลาวกับเวียดนาม”
ส่วนนาย เหงียนแหม่งหุ่งห์ อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศลาวแสดงความคิดเห็นว่า
“สิ่งที่ผมสามารถตระหนักได้ดีคือ ความรักใคร่พิเศษที่ประชาชนลาวได้สงวนให้แก่เวียดนาม ดังนั้น ในปัจจุบัน ถึงแม้ประเทศลาวมีความสัมพันธ์กับหลายประเทศและเวียดนามไม่ใช่ประเทศที่ลงทุนในลาวมากที่สุด แต่ในใจของคนลาวนั้น เวียดนามอยู่อันดับหนึ่งตลอดกาล นี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่เราต้องให้ความสำคัญและทำนุบำรุงตลอดไป”
 นาย แสงเพชร ห่วงบุ่นญวง เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม |
ยกระดับความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนา
เวียดนามและลาวให้ความสำคัญและให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการกระชับความสัมพันธ์พิเศษ ทั้งเป็นสหายและพี่น้องกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับเสาหลักของความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้ทัดเทียมกับความสัมพันธ์พิเศษ ในการพบปะต่างๆระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศเมื่อเร็วๆนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องผลักดันการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยให้ลาวปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเป็นศูนย์โลจิสติกส์ของภูมิภาคและมีการเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ทะเล
ผู้นำทั้งสองประเทศยังเห็นพ้องที่จะยกระดับคุณภาพของความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรม โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการพัฒนาแห่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงและการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้บริหารทุกระดับ ทั้งสองประเทศจะสนับสนุนกันต่อไปในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ โดยเฉพาะในกรอบสหประชาชาติ อาเซียนและกลไกความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่โขง ทั้งสองฝ่ายยืนยันร่วมมือกับบรรดาประเทศอาเซียนสนับสนุนกัมพูชาดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนของอาเซียนในปี 2022 ให้ประสบความสำเร็จ ธำรงความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ภายในกลุ่มอาเซียน นาย Thoongsavanh Phomvihane เผยต่อไปว่า
“สำหรับยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศ ในสนธิสัญญาฯ ได้ย้ำว่า เราร่วมกันพัฒนา ประสานงานและช่วยเหลือกันในการปกป้องเอกราช อธิปไตยและผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะธำรงความสัมพันธ์พิเศษระหว่างสองประเทศ นั่นคือหน้าที่ที่สำคัญเป็นอย่างมาก สถานการณ์ที่เป็นจริงได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคในภารกิจการสร้างสรรค์และปกป้องประเทศ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน เราต้องส่งเสริมความร่วมมือมากขึ้น ยกระดับความรู้ระหว่างกัน ให้การช่วยเหลือกันมากขึ้นเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ”
ความสัมพันธ์พิเศษเวียดนาม – ลาวเป็นผลสำเร็จที่ทั้งสองประเทศได้ร่วมกันเสริมสร้างและทำนุบำรุง ซึ่งได้กลายเป็นมรดกในวันนี้และเป็นพื้นฐานที่ดีงามของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต.