ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐ

Ánh Huyền-VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามกำลังเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ ณ เขตตากอากาศ Sunnylands รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ การประชุมมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันโดยหารือถึงเนื้อหาสำคัญๆเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐให้แน่นแฟ้นมากขึ้น พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือที่จริงจังและเป็นรูปธรรมในเวลาที่จะถึง

(VOVworld)นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามกำลังเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ ณ เขตตากอากาศ Sunnylands รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ การประชุมมีขึ้นเป็นเวลา 2 วันโดยหารือถึงเนื้อหาสำคัญๆเพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐให้แน่นแฟ้นมากขึ้น พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือที่จริงจังและเป็นรูปธรรมในเวลาที่จะถึง

ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐ - ảnh 1
การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐมีการเข้าร่วมของประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า (AFP)

การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐมีการเข้าร่วมของประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า บรรดาผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียน เลเลืองมิงห์ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของอาเซียนกับสหรัฐในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และเป็นการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐที่มีขึ้นครั้งแรก ณ สหรัฐ คาดว่า ที่ประชุมจะมีการหารือ 2 นัดโดยเน้นผลักดันการพัฒนาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนตามแนวทางเชิงสร้างสรรค์และเชิงธุรกิจ รักษาสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะความปลอดภัยในการเดินเรือ การต่อต้านการก่อการร้ายและความท้าทายข้ามชาติ ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ในอนาคตของภูมิภาค

กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐ
นับตั้งแต่อาเซียน-สหรัฐสถาปนาความสัมพันธ์คู่สนทนาเมื่อปี 1977 และสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเมื่อปี 2005 ทั้งสองฝ่ายได้ขยายความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องผ่านกลไกและด้านร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่างๆ เช่นการเมืองกับความมั่นคง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับการค้า วัฒนธรรมกับสังคม เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ในการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐครั้งที่ 3 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย อาเซียนและสหรัฐได้ตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และอนุมัติแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนอาเซียน-สหรัฐจนถึงปี 2020 ในการประชุมนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่าได้เชิญผู้นำของประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพ
ภายใต้ทัศนะถือความสัมพันธ์กับอาเซียนคือหนึ่งในเนื้อหาหลักในยุทธศาสตร์สร้างความสมดุลและสนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาคที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง สหรัฐได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการช่วยเหลืออาเซียนเพื่อผลักดันการรักษาความมั่นคง โดยเฉพาะความปลอดภัยในการเดินเรือบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ทวิภาคี ตลอดจนผ่านฟอรั่มภูมิภาค อาเซียน-สหรัฐกำลังร่วมมืออย่างเข้มแข็งในด้านการต่อต้านการก่อการร้าย การไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ ความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ตและการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนชั้นนำของอาเซียน ทั้งสองฝ่ายกำลังขยายความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษา การรับมือกับโรคระบาด ความมั่นคงด้านพลังงาน การรับมือภัยธรรมชาติและหนึ่งในเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของสหรัฐในปัจจุบันคือการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ด้วยบทบาทของอาเซียนที่นับวันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะหลังการเป็นตัวประชาคมอาเซียน การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐครั้งนี้ได้รับการประเมินว่าเป็นการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เพิ่งได้รับการจัดตั้งระหว่างสหรัฐกับอาเซียนต่อไป
ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐ - ảnh 2
นายกรัฐมนตรี เหงียนเติีนหยุงและนาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ

วางแผนการร่วมมืออาเซียน-สหรัฐในระยะใหม่
ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ ณ เขตตากอากาศ Sunnylands ครั้งนี้มีความหมายพิเศษเพราะไม่เพียงแต่เป็นการประชุมนานาชาติสำคัญครั้งแรกในปี 2016 ของอาเซียนเท่านั้น หากยังเป็นการประชุมระดับผู้นำครั้งแรกระหว่างอาเซียนกับประเทศหุ้นส่วนหลังจากประชาคมอาเซียนได้เปิดตัวอีกด้วย ในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่ออนาคตของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐ นี่คือโอกาสเพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันหารือและเห็นพ้องกับมาตรการเพื่อนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เข้าสู่ส่วนลึกอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกฝ่ายรอคอยมากกว่าจากการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐ ณ เขตตากอากาศ Sunnylands ครั้งนี้ก็คือการกำหนดหลักการและกระบวนการให้แก่ความร่วมมือและการพัฒนาระหว่างสหรัฐกับอาเซียน ค้ำประกันเสถียรภาพ สันติภาพและการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในเวลาที่ผ่านมา จีนได้มีปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ผิดพลาดอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคทวีความตึงเครียดมากขึ้น การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐจึงเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า ปัญหาการพิพาทดินแดนในทะเลตะวันออกต้องได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาและตามกฎหมายสากล พร้อมทั้งย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องให้ความเคารพการเดินเรืออย่างเสรีและหลีกเลี่ยงการมีปฏิบัติการทางทหารที่ “ขาดความระมัดระวังและไม่จำเป็น”ในทะเลตะวันออก ก่อนการประชุม นาง Nina Hachigian เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอาเซียนได้ยืนยันว่า การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐมีบทบาทสำคัญต่อยุทธศาสตร์มุ่งให้ความสนใจถึงเอเชียแปซิฟิกที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า กำลังปฏิบัตินับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและสหรัฐจะผูกพันกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปถึงแม้นาย บารัค โอบาม่า จะเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ดังนั้น การประชุมคือโอกาสที่ดีเพื่อให้ประธานาธิบดี บารัคโอบาม่า ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐ ตลอดจนทำให้ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ต้องถือความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ
สำหรับเวียดนาม การประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐคือโอกาสเพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นฝ่ายรุก ความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบของเวียดนามในอาเซียน พร้อมทั้งยืนยันถึงความพยายามมีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน-สหรัฐเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ ในด้านทวิภาคี การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ของคณะผู้แทนเวียดนามก็เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีเวียดนาม-สหรัฐ รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงการป้องกันประเทศ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การพัฒนาเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ.  

Komentar