การโจมตีซีเรีย ปฏิบัติการที่อันตรายของอิสราเอล

Hong Van/VOV5
Chia sẻ
(VOVworld)- แค่ใน3วันที่ผ่านมาคือตั้งแต่วันที่3-5พฤษภาคม อิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศใส่ดินแดนซีเรียรวม2ครั้ง ซึ่งได้สร้างกระแสความวิตกกังวลในหมู่ประชามติระหว่างประเทศเกี่ยวกับการละเมิดอธิปไตยและทำให้สงครามกลางเมืองในประเทศนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น จนอาจจะนำไปสู่การจุดชนวนการปะทะในทั่วภูมิภาค

(VOVworld)- แค่ใน3วันที่ผ่านมาคือตั้งแต่วันที่3-5พฤษภาคม อิสราเอลได้เปิดการโจมตีทางอากาศใส่ดินแดนซีเรียรวม2ครั้ง ซึ่งได้สร้างกระแสความวิตกกังวลในหมู่ประชามติระหว่างประเทศเกี่ยวกับการละเมิดอธิปไตยและทำให้สงครามกลางเมืองในประเทศนี้ซับซ้อนยิ่งขึ้น จนอาจจะนำไปสู่การจุดชนวนการปะทะในทั่วภูมิภาค

การโจมตีซีเรีย ปฏิบัติการที่อันตรายของอิสราเอล - ảnh 1
การโจมตีล่าสุดของอิสราเอลเกิดขึ้นเมื่อวันที่5พฤษภาคม(PhotoReuters/SANA/Handout via Reuters)

การโจมตีล่าสุดของอิสราเอลเกิดขึ้นเมื่อวันที่5พฤษภาคมโดยเป้าหมายคือฐานทัพจามรายา ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงดามัสกัส และดูเหมือนว่านี่มิใช่เป็นการบังเอิญเพราะเมื่อ4เดือนก่อนสถานที่แห่งนี้ก็ตกเป็นเป้าหมายโจมตีของอิสราเอลแล้ว แต่เพื่อแก้ต่างให้แก่ปฏิบัติการของตนฝ่ายซีเรียได้เผยว่าการโจมตีทางอากาศครั้งต่างๆนั้นมุ่งทำลายคลังอาวุธโดยเฉพาะคือจรวด Fateh-100 ที่มีพิสัยยิงไกลถึงอิสราเอลที่ทางการซีเรียมีแผนส่งมอบให้แก่กองกำลังฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านกับอิสราเอลเท่านั้น หลังการโจมตีดังกล่าวฝ่ายซีเรียได้แถลงว่าจะสนับสนุนอาวุธรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพให้แก่ขบวนการอิสลามฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและว่าการโจมตีของอิสราเอลใส่ดินแดนซีเรียได้ละเมิดกฎหมายสากลอย่างรุนแรงและทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางตกอยู่ในภาวะที่ล่อแหลมมากขึ้น ส่วนในการประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลซีเรียก็ได้มีการย้ำถึงความเป็นไปได้ที่จะตอบโต้อิสราเอลโดยรัฐมนตรีต่างประเทศซีเรียได้ยืนยันว่า อิสราเอลได้ประกาศสงครามกับทางการดามัสกัสจากการโจมตีซีเรียและฝ่ายซีเรียได้ยื่นคำร้องต่อสหประชาชาติเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

ในขณะเดียวกันการกระทำของอิสราเอลยังเผชิญกับกระแสคัดค้านอย่างรุนแรงจากประชาคมระหว่างประเทศโดยเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติบันคีมูนได้แสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างมากพร้อมทั้งเรียกร้องให้เคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของทุกประเทศในภูมิภาค ปฏิบัติตามทุกมติที่เกี่ยวข้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในขณะที่สันนิบาตอาหรับเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงมีปฏิบัติการที่เข้มแข็งทันทีเพื่อยุติการโจมตีของอิสราเอลที่มุ่งเป้าไปยังซีเรียซึ่งเสมือนเป็นการคุกคามอธิปไตยของประเทศอาหรับ ส่วนจีนและรัสเซียต่างก็ประกาศคัดค้านการใช้ความรุนแรงพร้อมทั้งยืนยันว่าต้องให้ความเคารพอธิปไตยของทุกประเทศ  ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษนั้นได้เตือนความใส่ใจว่าการกระทำของอิสราเอลอาจจะส่งผลให้การใช้ความรุนแรงในซีเรียบานปลายไปทั่วภูมิภาค ในขณะที่ผู้สังเกตุการณ์ตะวันตกหลายคนก็ได้ประเมินว่า อิสราเอลเป็นฝ่ายขยายความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ เพราะอันที่จริงแล้ว การที่อิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศใส่ซีเรียในหลายวันที่ผ่านมามิใช่แค่เป็นการป้องกันการสนับสนุนอาวุธให้แก่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ดังที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอิสราเอลยอมรับเท่านั้น หากยังบ่งบอกถึงความหมายอื่นอีกด้วย ซึ่งก่อนอื่นคือเป็นการสนับสนุนกองกำลังลุกขึ้นในซีเรีย โดยหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล กองกำลังลุกขึ้นก็ได้ยิงปืนใส่ศูนย์วิจัยในจามรายาและโจมตีค่ายทหารป้องกันเมืองหลวงด้วยเช่นกัน ซึ่งฝ่ายซีเรียได้กล่าวหาว่า การที่อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายต่างๆในดามัสกัสได้ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กองกำลังกบฎภายหลังความพ่ายแพ้ในการสู้รบครั้งต่างๆ และเป้าหมายที่ลึกกว่านั้นก็คืออิสราเอลมุ่งยั่วยุให้กองทัพรัฐบาลซีเรียเพื่อเปิดสงครามเพื่อใช้เป็นเหตุผลอ้างให้แก่การแทรกแซงทางทหารของต่างชาติ ซึ่งก็ตรงกับความมุ่งหมายของฝ่ายค้านในซีเรียที่เคยเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงในสงครามกลางเมืองของซีเรียด้วยเหตุผล เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์

สงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อกว่า2ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า7หมื่นคนและอีก1.2ล้านคนต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพลี้ภัย และการโจมตีทางอากาศเมื่อเร็วๆนี้ของอิสราเอลยิ่งทำให้สถานการณ์ในประเทศซีเรียซับซ้อนวุ่นวายมากขึ้นจนทำให้ทางการของประธานาธิบดีบาซา อัล อาสซาด ต้องใช้สติในการเลือกมาตรการรับมืออย่างเหมาะสมพร้อมทั้งเป็นการเตือนให้ประชาคมระหว่างประเทศมีมาตรการที่เข้มแข็งก่อนที่สถานการณ์ในซีเรียจะถูกดันให้หลุดออกนอกกรอบการควบคุมซึ่งจะทำให้ภูมิภาคตะวันออกกลางจะตกเข้าสู่วังวนแห่งความไร้เสถียรภาพครั้งใหม่./.

Komentar

ชาญชัย คุ้มปัญญา
สองฝ่ายอาจได้รับอาวุธเพิ่มอีก เพราะต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุน