ปี 2014 จำนวนแรงงานเวียดนามในตลาดหลักๆได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2013  เช่น ในตลาดไต้หวันประเทศจีน มีแรงงานเวียดนามกว่า 6 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 1 หมื่น 5 พันคน ญี่ปุ่นมีแรงงานเวียดนามเกือบ 2 หมื่นคน เพิ่มขึ้น 1 หมื่น 4 ร้อยคน ซาอุดิอาระเบียมีเกือบ 4 พันคนและในการ์ต้ามีเกือบ 1 พันคน

ด้วยจำนวนแรงงานเวียดนาม 6 หมื่น 2 พันคน ไต้หวันประเทศจีนได้กลายเป็นตลาดที่เปิดรับแรงงานเวียดนามมากที่สุดในปี 2014 และในปี 2015 ได้หวันก็ยังคงเป็นตลาดหลักในการส่งออกแรงงานเวียดนามเนื่องจากไต้หวันยังคงรักษานโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและการผลักดันงานทำนับตั้งแต่ปลายปี 2011 มาจนถึงปัจจุบันในขณะที่แรงงานจากประเทศต่างๆเข้าตลาดนี้มีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ สถานประกอบการเวียดนามยังพยายามมากขึ้นในการตอบสนองแหล่งจัดสรรแรงงานให้แก่ตลาดไต้หวัน คุณต๊งห่ายนาม รองอธิบดีกรมควบคุมแรงงานเวียดนามในต่างประเทศเผยว่า “ปี 2015 ไต้หวันประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่สามารถรับแรงงานเวียดนามจำนวนมาก ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามได้ทำการคัดเลือกและฝึกอบรมยกระดับคุณภาพของแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผมมีความเชื่อมั่นว่า ในปีต่อๆไป ไต้หวันจะยังคงเป็นตลาดที่เปิดรับแรงงานเวียดนามจำนวนมากต่อไป”

นอกจากตลาดไต้หวันแล้วในปี 2015 นี้ ประเทศญี่ปุ่นก็ได้เปิดโอกาสให้คนเวียดนามสามารถมาทำงานหรือศึกษาต่อ ซึ่งอาชีพที่ญี่ปุ่นต้องการแรงงานจำนวนมากคือ การก่อสร้าง วิศวกรรมเครื่องจักรกล การเกษตรและการแปรูปอาหาร นอกจากการเปิดรับนักศึกษาฝึกงานแล้ว ญี่ปุ่นก็มีความต้องการรับแรงงานที่มีทักษะความสามารถระดับสูง เช่น วิศวกรออกแบบ วิศวกรเครื่องกลและนางพยาบาล เป็นต้น

ควบคู่กับการพัฒนาตลาดส่งออกแรงงานเดิม ในปี 2015 เวียดนามจะทำการวิจัยและมุ่งสู่การขยายไปยังตลาดที่มีเงื่อนไขการทำงานที่สะดวกและให้ค่าตอบแทนสูงแก่แรงงาน ซึ่งตลาดใหม่ๆที่ให้ค่าตอบแทนสูงจะเปิดโอกาสให้แก่แรงงานเวียดนาม เช่น แอฟริกาและตะวันออกกลางเพราะเวียดนามจะลงนามข้อตกลงในหลายด้านกับแองโกลาและซาอุดิ อาระเบีย นอกจากนี้ การก่อตั้งประชาคมอาเซียนในปลายปี 2015 จะอำนวยความสะดวกให้แรงงานเวียดนามไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น โดยในเบื้องต้นจะมี 8 สาขาอาชีพที่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสีรีภายในกลุ่มอาเซียนตามข้อตกลงมาตรฐานทักษะวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วย นักบัญชี สถาปนิก ทันตแพทย์ แพทย์ วิศวกร นางพยาบาล การขนส่งและเจ้าหน้าที่หน่วยงานการท่องเที่ยว ดังนั้น คาดว่า จำนวนแรงงานในกลุ่มเหล่านี้จะไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้น

เพื่อรักษาตัวเลขแรงงานไปทำงานในต่างประเทศให้อยู่ในระดับสูงในปี 2015และปีต่อๆไป เวียดนามได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการยกระดับคุณภาพของแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานที่มีคุณภาพสูง นายต๊งห่ายนาม รองอธิบดีกรมควบคุมแรงงานเวียดนามในต่างประเทศเผยว่า ก่อนหน้านี้ แรงงานที่มีคุณภาพสูงมีโอกาสไปทำงานในประเทศสาธารณรัฐเกาหลีได้เท่านั้นและยังถูกจำกัดด้านจำนวนแต่ในสองปีมานี้ แรงงานที่มีคุณภาพสูงของเวียดนาม โดยเฉพาะนางพยาบาลมีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศมากขึ้นเพราะกรมควบคุมแรงงานเวียดนามในต่างประเทศได้ปฏิบัติโครงการร่วมมือกับญี่ปุ่นและเยอรมนีในการเลือก ฝึกอบรมและส่งแรงงานเหล่านี้ไปทำงานในสองประเทศดังกล่าว ปัจจุบันนี้ ทางกรมฯกำลังปฏิบัติโครงการช่วยเหลือแรงงานเวียดนามไปทำงานในต่างประเทศตามสัญญาและในระยะยาวเพื่อยกระดับคุณภาพของแรงงานเวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมท่านฝ่ามถิ่ห่ายเฉวี่ยนเสนอว่า “พวกเราได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการสอนอาชีพเพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีและยกระดับทักษะความสามารถของครูอาจารย์ในการฝึกสอนอาชีพ ปี 2015 พวกเราได้รับหนังสือตำราเรียนจากต่างประเทศ 34 ชุดในระดับอาเซียน พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาวิธีการสอนในประเทศต่างๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้ พวกเราได้ส่งครูอาจารย์ 500 คนและอธิการบดี 45 คนไปเรียนในโรงเรียนอาชีวศึกษาระดับโลก”

นอกจากนี้เวียดนามกำลังมุ่งสู่การสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าให้แก่แรงงานเวียดนามที่ทำงานในต่างประเทศ รักษาภาพลักษณ์ที่ดีของแรงงานเวียดนามในสายตาของนายจ้าง รัฐมนตรีฝ่ามถิ่ห่ายเฉวี่ยนเผยต่อไปว่า “ก่อนที่แรงงานจะไปทำงานในต่างประเทศจะได้ศึกษาความรู้ในขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศและคนของประเทศที่จะไปทำงาน พร้อมทั้งวัฒนธรรมและระเบียบวินัยในการทำงาน ปัจจุบัน หน้าที่นี้ได้มอบหมายให้แก่สถานประกอบการ 70 แห่ง ในเร็วๆนี้ พวกเราจะประกาศใช้รายละเอียดให้แก่สถานประกอบการเพื่อค้ำประกันให้แรงงานเวียดนามที่ทำงานในต่างประเทศสามารถรักษาสถานะและภาพลักษณ์ของตน”

ถึงแม้จะเป็นตลาดเดิมหรือตลาดใหม่ แต่ถ้าหากแรงงานเวียดนามสามารถใช้จุดแข็งที่มีอยู่และได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานสากล ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายเพิ่มการส่งออกแรงงานในปี 2015 และปีต่อๆไป ซึ่งจะมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ./.