(VOVworld)- ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงช่วงปลายปี2012นี้ พรรคสาขาทุกระดับในทั่วประเทศได้ทำการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตามเจตนารมณ์ของมติการประชุมครั้งที่4คณะกรรมการกลางพรรคเกี่ยวกับปัญหาที่เร่งด่วนในการพัฒนาองค์กรพรรค โดยกระบวนการดังกล่าวได้เริ่มจากกรมการเมือง คณะเลขาธิการกลางพรรคและขยายออกไปในทั่วองค์กรพรรคอย่างเข้มแข็ง

กรมการเมืองกับคณะเลขาธิการกลางพรรคก็ได้เป็นหน่วยงานเดินหน้าปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตั้งแต่เดือนสิงหาคม(internet)

วัตถุประสงค์ของการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นคือแปรเนื้อหาของมติการประชุมครั้งที่4คณะกรรมการกลางพรรคเกี่ยวกับปัญหาที่เร่งด่วนในการพัฒนาองค์กรพรรคให้เป็นปฏิบัติการที่จริงจังโดยเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาความเสื่อมถอยด้านแนวคิด คุณธรรม การดำเนินชีวิตในหมู่สมาชิกพรรค เพื่อเพิ่มทักษะและพลังการต่อสู้ขององค์กรพรรค ส่งเสริมบทบาทเป็นแบบอย่างแห่งการเดินหน้าของเจ้าหน้าที่ผู้บริหารทุกระดับและสมาชิกพรรค เพื่อช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่มีต่อพรรคในหมู่ประชาชน โดยเป้าหมายของกิจกรรมการเมืองดังกล่าวคือพรรคสาขาและคณะผู้บริหารหน่วยงานต่างๆรวมทั้งเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคทุกระดับ และกรมการเมืองกับคณะเลขาธิการกลางพรรคก็ได้เป็นหน่วยงานเดินหน้าปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นาย โงวันยุ สมาชิกกรมการเมือง หัวหน้าคณะกรรมการตรวจตราส่วนกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้กล่าวถึงขั้นตอนการการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นในกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคว่าการทำการวิจารณ์ครั้งนี้ใช้เวลา16วันซึ่งเป็นการจัดทำการวิจารณ์ที่นานที่สุด แบ่งเป็นหลายขั้นตอนโดยก่อนอื่นคือวิจารณ์คณะบุคคล ต่อจากนั้นจะวิจารณ์ผู้นำ4ท่านคือเลขาธิการใหญ่ ประธานประเทศ นายกฯและประธานรัฐสภา ตลอดจนสมาชิกกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรครวม14ท่าน หลังการวิจารณ์ครั้งนี้ของกรมการเมือง คณะเลขาธิการกลางพรรคก็ดำเนินกิจกรรมนี้ต่อไปและเสร็จสิ้นกิจกรรมหลังจากที่ประชุมครั้งที่6คณะกรรมการกลางพรรคผ่านความเห็นชอบรายงานการปฏิบัติการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นของกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรค

ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคชี้นำการประชุมวิจารณ์ตนเองและวิารณ์คนอื่นของพรรคสาขากรุงฮานอย(internet)

การจัดกิจกรรมวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นในองค์กรพรรคนั้นถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญเป็นพิเศษเพื่อความบริสุทธิ์และเข้มแข็งของพรรค โดยเนื้อหาต่างๆได้ยึดตามเจตนารมณ์ของมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่4 ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนและได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรคที่ถูกนำมาทำการวิจารณ์และวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาในเชิงสร้างสรรค์และจริงจังเพื่อช่วยถอดประสบการณ์ ซึ่งในการกล่าวปราศรัยปิดประชุมครั้งที่6คณะกรรมการกลางพรรคท่านเหงวียนฟู๊จ๋องเลขาธิการใหญ่พรรคก็ได้ย้ำถึงผลเบื้องต้นของกระบวนการดังกล่าวว่าจากการวิจารณ์และรับฟังความเห็นของเจ้าหน้าที่ สมาชิกพรรคและประชาชนกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรครวมทั้งสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคแต่ละท่านต่างตระหนักถึงข้อดีและข้อบกพร่องได้อย่างรอบด้าน รู้จักวิเคราะห์สาเหตุและวางมาตรการแก้ไข โดยกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้หารือและมีการชี้นำแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนต่างๆ ส่งเสริมปัจจัยที่เอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติ เพิ่มความเคร่งครัดรัดกุมด้านระเบียบวินัยเพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันพฤติกรรมทุจริต  นอกจากนี้บรรดาสมาชิกของทั้งสององค์กรยังมีโอกาสเข้าใจกันมากขึ้น ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและเรียนรู้ซึ่งกันและกันเพื่อสร้างความสามัคคีที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยกระบวนการปฏิบัตินั้นได้ส่งผลดีและเป็นแบบอย่างให้องค์กรพรรคทุกระดับปฏิบัติตามมีส่วนร่วมเสริมสร้างความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่ สมาชิกพรรคและประชาชนที่มีต่อพรรค

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่6และผลเบื้องต้นของกระบวนการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นของกรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรค พรรคสาขาในทุกระดับตั้งแต่ส่วนกลางถึงท้องถิ่นทั่วประเทศก็ร่วมกันปฏิบัติตามด้วยความรับผิดชอบสูงจนประสบความสำเร็จ นาย เจิ่นห่งกวน สมาชิกพรรคสาขาทังลองเขตหว่านเกี๊ยม กรุงฮานอยกล่าวว่าการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นจะสำเร็จเมื่อมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคทุกคนบวกกับความมุ่งมันตั้งใจของบรรดาผู้บริหารในส่วนกลาง โดยบทบาทขององค์กรมวลชนต่างๆรวมทั้งแนวร่วมปิตุภูมิมีความสำคัญมาก ซึ่งงานนี้เรียกร้องให้เราปฏิบัติด้วยใจจริงเพื่อภารกิจการสร้างสรรค์พรรคและพัฒนาประเทศ

การประชุมของพรรคสาขาจ.ด่งทาบเป็นไปอย่างจริงจังและตรงไปตรงมา(internet)

บนเจตนารมณ์แห่งการเป็นแบบอย่างและเป็นผู้เดินหน้าปฏิบัติ กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้ทำการวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นอย่างแข็งขัน อันเป็นการเปิดกระบวนการทางการเมืองที่กว้างขวางและโดดเด่นในองค์กรพรรคในปี2012 เอื้ออำนวยให้แก่ภารกิจการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค ซึ่งต่อไปนี้การวิจารณ์ตนเองและวิจารณ์คนอื่นตามเจตนารมณ์ของมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่4จะกลายเป็นกิจกรรมที่จะดำเนินการเป็นประจำในพรรคควบคู่กับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างพลังการชี้นำที่เข้มแข็งของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม./.