การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 14 ระบุความท้าทายเพื่อวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

Vĩnh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ภายหลังเกือบ 1 เดือนที่ทำการประชุมด้วยจิตใจแห่งความรับผิดชอบในระดับสูง วันที่ 14 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 14 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม หลังการประชุมครั้งนี้ เอกสารกฎหมายและนโยบายหลายฉบับได้ถูกประกาศใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างอยู่และข้อจำกัดให้สอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาของประเทศ เพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม เสถียรภาพทางการเมือง ความมั่นคงและกลโหม
การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 14 ระบุความท้าทายเพื่อวางแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ - ảnh 1การประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 14 (quochoi.vn) 

ในปี 2018 และในช่วงต้นปี 2019 เราสามารถมองเห็นถึงความพยายามของรัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆในการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจที่สภาแห่งชาติได้มอบหมาย โดยบรรลุ 13 เป้าหมายที่วางไว้ รวมทั้งการขยายตัวจีดีพี

กำหนดแนวทางนโยบายเพื่อนำเศรษฐกิจสังคมพัฒนา

การประชุมมีขึ้นในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อน เศรษฐกิจถูกคาดการณ์ว่า จะสัญญาณชะลอตัวและต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ความขัดแย้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศใหญ่ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนาม ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดว่า ปี 2019 คือปีแห่งก้าวกระโดดเพื่อเสร็จสิ้นแผนการระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2016-2020 ด้วยแนวทาง “มีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติ มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างก้าวกระโดดและมีประสิทธิภาพ” โดยรัฐบาลยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายและมาตรฐานที่วางไว้ เน้นปฏิบัติหน้าที่และมาตรการต่างๆตามมติของพรรค สภาแห่งชาติและรัฐบาลอย่างเคร่งครัด พร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ ผ่านการอภิปรายในการประชุมและการหารือตามหน่วย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้เห็นว่า สภาแห่งชาติได้มองสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของประเทศในภาพรวม มีความมุ่งมั่นในระดับสูงเพื่อฟันฟ่าอุปสรรคและความท้าทายในปัจจุบันและนำประเทศก้าวรุดหน้าไป นาย เจิ่นแองต๊วน ผู้แทนสภาแห่งชาติจากคณะผู้แทนนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า “ถึงแม้ได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2018 และมีความคืบหน้าในช่วงต้นปี 2019 แต่ยังมีข้อจำกัด บรรดาผู้แทนได้หารืออย่างตรงไปตรงมาถึงข้อจำกัดและสาเหตุปัญหาดังกล่าวเพื่อมีส่วนร่วมช่วยเหลือรัฐบาลในการกำหนดมาตรการบริหารให้ดีขึ้นในช่วงปลายปี 2019 และปีต่อๆไป”

ในการประชุมครั้งนี้ ร่างกฎหมาย 7 ฉบับและร่างมติ 10ฉบับได้รับการอนุมัติ ควบคู่กันนั้น สภาแห่งชาติได้เห็นพ้องเลือกเนื้อหาเชิงวิชาการเพื่อทำการตรวจสอบในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 9 เกี่ยวกับ “การปฏิบัตินโยบาย กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการล่วงละเมิดเด็ก” โดยเฉพาะ สภาแห่งชาติได้อนุมัติมติให้สัตยาบันการเข้าร่วมอนุสัญญาฉบับที่ 98 ขององค์การแรงงานสากลว่าด้วยการประยุกต์ใช้หลักการของสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วมที่ได้รับความสนใจจากประชามติทั้งภายในและต่างประเทศเนื่องจากได้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานที่กว้างลึกของเวียดนามต่อคำมั่นระหว่างประเทศในด้านแรงงาน โดยเฉพาะเมื่อเวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีในภูมิภาคและโลก นาย เหงาะ ยวี เหียว จากคณะผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอยได้แสดงความเห็นว่า “การให้สัตยาบันแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งการเป็นฝ่ายรุกและการผสมผสานที่เข้มแข็งของเวียดนาม อีกทั้งสร้างบรรยากาศสังคม การทำงานที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของแรงงาน และผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม แต่เมื่อเข้าร่วม เวียดนามต้องแปรกฎหมายอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อค้ำประกันข้อกำหนดของกฎหมายอย่างพร้อมเพรียง สร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาและเพื่อให้โลกเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้”

ปรับปรุงการตั้งและตอบกระทู้ถามให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น

การตั้งและตอบกระทู้ถามในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 14 มีการเข้าร่วมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงก่อสร้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและขนส่งและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว ด้วยบรรยากาศแห่งความคึกคัก มีประชาธิปไตย ตรงไปตรงมา มีความรับผิดชอบและมีความคิดสร้างสรรค์ มีผู้แทนสภาแห่งชาติ 230 คน ลงทะเบียบตั้งกระทู้ถามและอภิปราย นาย เลิมด่ายกวาง ผู้แทนสภาแห่งชาติจากนครโฮจิมินห์ได้แสดงความเห็นว่า “มีเวลา 2 วันครึ่งเพื่อตั้งกระทู้ถามสมาชิกรัฐบาล ประกอบด้วยรัฐมนตรี 4 ท่าน และบรรดารองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการตั้งกระทู้ถามของบรรดาสมาชิกสภาแห่งชาติเกี่ยวกับปัญหาสังคมที่ได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง การตอบกระทู้ถามของบรรดารัฐมนตรีได้ตอบตรงตามคำถามของผู้แทนสภาแห่งชาติ”

อาจกล่าวได้ว่า การเปลี่ยนปลงใหม่วิธีการหารือเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม งบประมาณแผ่นดิน การเพิ่มเวลาหารือในการประชุม การผลักดันการสนทนาและการอภิปรายอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ได้สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในระดับสูงต่อกิจกรรมด้านนิติบัญญัติ การตรวจสอบและการอนุมัติปัญหาสำคัญๆ การอภิปรายในการประชุมนับวันมีความคึกคักมากขึ้นเพราาะสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในชีวิต มีความผูกพันกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและการอนุมัติเนื้อหาต่างๆเกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริง นาง เหงียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติได้แสดงความเห็นว่า “การตั้งกระทู้ถามของผู้แทนสภาแห่งชาติแสดงให้เห็นถึงบทบาท ความรับผิดชอบ สิทธิการตรวจสอบของสภาแห่งชาติ อีกทั้งเป็นการเดินพร้อม การแบ่งเบาอุปสรรคในการบริหาร ควบคุมและแนะนำข้อเสนอ เพิ่มเติมมาตรการให้แก่แผนการของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานมุ่งสู่การแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่และข้อจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความไว้วางใจและความรอคอยของประชาชนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในทั่วประเทศ”

บนพื้นฐานการตั้งกระทู้ถามของผู้แทนสภาแห่งชาติและการตอบกระทู้ถามของสมาชิกรัฐบาล คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติจะวิจัยอย่างรอบคอบและตรงไปตรงมา เตรียมมติเพื่อยื่นเสนอให้สภาแห่งชาติพิจารณาและอนุมัติในช่วงท้ายของการประชุม สร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การปฏิบัติและตรวจสอบการปฏิบัติเพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ตอบสนองความต้องการและความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ควบคู่กันนั้น สภาแห่งชาติและสำนักงานต่างๆของสภาแห่งชาติจะเปลี่ยนแปลงใหม่และเกาะติดสถานการณ์จริงในชีวิตมากขึ้นเพื่อประกาศใช้มติที่ถูกต้อง ทันการณ์ เกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริง ตอบสนองความปรารถนาของประชาชน มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สภาแห่งชาติที่คล่องตัว มีประสิทธิภาพและมีความผูกพันกับประชาชน.

Komentar