(VOVworld) – การปฏิวัติเดือนสิงหาคมที่ประสบชัยชนะในวันที่ 19 สิงหาคมปี 1945 เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การต่อสู้กู้ชาติและสร้างสรรค์ประเทศของประชาชาติเวียดนาม ซึ่งแม้มีขึ้นในเวลาสั้นๆ แต่การปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้สร้างบทเรียนที่ล้ำค่าเกี่ยวกับการส่งเริมความสามัคคีชนในชาติ ซึ่งได้ขยายผลในสงครามต่อต้านฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาตลอดจนในภารกิจสร้างสรรค์ประเทศโดยเฉพาะในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
การปฏิวัติเดือนสิงหาคม - ชัยชนะของกลุ่มสามัคคีชนในชาติ
(Photo VNplus)
|
ในช่วงนี้ ประชาชนทั่วประเทศเวียดนามกำลังย้อนอดีตความทรงจำเกี่ยวกับบรรยากาศที่ฮึกเหิมของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมเมื่อ 70 ปีก่อน ซึ่งทุกคนต่างมีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประชาชาติเวียดนาม
สามัคคีเพื่อชัยชนะ
คุณตาหวูแอวง ที่ปัจจุบันมีอายุกว่า 90 ปี อดีตสมาชิกกรมการเมืองพรรคและอดีตสมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคสมัยที่ 6 อดีตหัวหน้าคณะผู้แทนการปฏิวัติกรุงฮานอยที่เข้าร่วม “สมัชชาใหญ่ตัวแทนประชาชนทั่วประเทศ” ที่เตินฉ่าวได้ชื่นชมผลสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ว่า แม้มีสมาชิกแค่ 5 พันคน โดยการนำของแนวร่วมเวียดมิงห์ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสามารถระดมประชาชนกว่า 20 ล้านคนเข้าร่วมการปฏิวัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ โดยความสามัคคีชนในชาติได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนจากการประชุมสมัชชาใหญ่ตัวแทนประชาชนทั่วประเทศที่เตินฉ่าวภายใต้อำนวยการของประธานโฮจิมินห์ก่อนการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคมแค่สองวันเท่านั้น โดยมีตัวแทนพรรคการเมือง องค์กรมวลชน กลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา ตัวแทนของ 3 ภาคเวียดนามและตัวแทนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเข้าร่วม ที่ประชุมได้อนุมัติแนวทางการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของพรรค จัดตั้งคณะกรรมการปลดปล่อยประชาชาติเวียดนามและรัฐบาลเฉพาะกาลประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม โดยท่านโฮจิมินห์เป็นประธานประเทศ นายหวูแอวงย้ำว่า “การประชุมสมัชชาใหญ่ตัวแทนประชาชนทั่วประเทศที่เตินฉ่าวเป็นการประชุมที่สะท้อนความสามัคคีชนในชาติ นอกจากกรุงฮานอยแล้ว ท้องถิ่นทุกแห่งได้ส่งผู้แทนมาเข้าร่วม รวมทั้งตัวแทนชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศ ประธานโฮจิมินห์ได้ชุมนุมผู้แทนทุกคนเพื่อหารือถึงปัญหาความสามัคคีชนในชาติเพื่อชัยชนะ คำขวัญที่ว่า “สามัคคี สามัคคีและมหาสามัคคี ความสำเร็จ ความสำเร็จและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” ต้องอาศัยประชาชน พัฒนาพลังของประชาชนเพื่อชัยชนะ การมีประชาชนคือจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง ประชาชนเป็นเจ้าของการปฏิวัติและประชาชนทำการปฏิวัติให้ประสบความสำเร็จ”
ชัยชนะการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 คือนิมิตหมายแห่งหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติและปลดปล่อยมนุษย์ภายใต้การนำที่ปรีชาสามารถของพรรคและประธานโฮจิมินห์ โดยเฉพาะพรรคคอมมิวนิสตร์เวียดนามได้สร้างสรรค์และพัฒนาพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ นั่นคือความสามัคคีของชนทั้งชาติ โดยแกนนำคือกลุ่มพันธมิตรกรรมกร เกษตรกรและปัญญาชนบนพื้นฐานของผลประโยชน์ ความต้องการและความปรารถนาของประชาชนในการร่วมต่อสู้แบบ “ใช้พลังของตนเพื่อปลดปล่อยให้แก่ตนเอง” ดังนั้น การปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้สร้างกระบวนการปฏิวัติที่กว้างลึกและเข้มแข็งอย่างไม่เคยมีมาก่อนโดยมีประชาชนทุกชั้นชนทั่วประเทศเข้าร่วม พร้อมทั้งเป็นสัญลักษณ์พลังอันเข้มแข็งของประชาชาติและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ รองศ.เลเหมาหานครูประชาชนเผยว่า “หลังจากที่ญี่ปุ่นโค่นล้มรัฐบาลฝรั่งเศส กระบวนการปฏิวัติได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ประธานโฮจิมินห์ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดการเคลื่อนไหวของประชาชาติเรา ในกระบวนการรณรงค์สามัคคีชนในชาติ ภายใต้ธงแนวร่วมเวียดมิงห์และพรรคคอมมิวนิสต์ ได้พบปัญหาว่า การปฏิวัตินั้นต้องระดมการเข้าร่วมของประชาชนทุกคน เชิดชูธงประชาชาติระดมพลังอันแข็งแกร่งของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรรมกร เกษตรกร ปัญญาชน ชนชั้นกลางหรือผู้ที่มีใจรักชาติเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเพื่อกู้ชาติของเวียดมิงห์”
สามัคคีกันเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ (Photo VNplus)
|
สามัคคีกันเพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ
นายฝ่ามเท้เหยวียด อดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามเผยว่า ภายใต้การนำของพรรคและประธานโฮจิมินห์ ทั้งประชาชาติได้สามัคคีกัน สร้างพลังที่เข้มแข็งเพื่อสร้างชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ชัยชนะในการต่อต้านฝรั่งเศสและอเมริกา ในภารกิจสร้างสรรค์สังคมนิยม การพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก เวียดนามมีทั้งโอกาส ความสะดวกและความลำบาก โดยเฉพาะการที่ฝ่ายที่เป็นอริได้ต่อต้านอย่างรุนแรงผ่านยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่น การผันผวนแห่งสันติภาพ การใช้ปัญหาสิทธิมนุษยชน ประชาชาติและศาสนาเพื่อสร้างความแตกแยกกลุ่มสามัคคีชนทั้งชาติ ดังนั้นต้องใช้พลังที่เข้มแข็งของทั้งประชาชาติเพื่อพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ นายฝ่ามเท้เหยีวดยืนยันว่า พรรคและรัฐเวียดนามต้องปฏิบัติยุทธศาสตร์การพัฒนความสามัคคีชนในชาติต่อไป “ผมคิดว่า ถ้าต้องการพัฒนาพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติ พรรคและคณะกรรมการกลางพรรคต้องสามัคคีกันและเป็นตัวอย่างให้แก่ประชาชน ส่วนประชาชนต้องเรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามปฏิบัติแนวทางและมติที่ได้วางไว้เพื่อพัฒนาพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีต่อไป ปฏิบัติภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและใช้การสนับสนุนจากประชาชนทั่วโลกที่มีความร่วมมือกับเราและช่วยให้เราผสมผสานเข้ากับกระแสโลกโดยยังสามารถคงอัตลักษณ์ของเราไว้ได้ นี่คือบทเรียนอันล้ำค่าของความสามัคคีชนในชาติ”
ในตลอด 70 ปีที่ผ่านมา การปฏิบัติวัติเดือนสิงหาคมเดินพร้อมกับประวัติศาสตร์การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของประชาชาติเวียดนาม ชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นชัยชนะของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติมีความหมายอย่างลึกซึ้งในด้านทฤษฎีและการปฏิบัติในระยะการพัฒนาต่อไปของการปฏิวัติเวียดนาม.