(VOVworld) –   รายงานของรัฐบาลที่เสนอในการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาครั้งที่๑๑ระบุว่า ปี๒๐๑๒ สถานการณ์อาชญากรรมยังไม่มีสัญญาณลดลง แถมยังมีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นด้วยซึ่งได้สร้างความเสียหายให้แก่รัฐเป็นอย่างมาก  เกี่ยวกับปัญหานี้ เมื่อเร็วๆนี้ ท่านHuỳnh Phong Tranh หัวหน้าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยืนยันว่า พรรคและรัฐเวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นผ่านการใช้มาตรการที่เด็ดขาดและเข้มแข็ง

การประชุมคณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาครั้งที่๑๑(Photo:Internet)

รายงานของรัฐบาลที่ท่านHuỳnh Phong Tranh หัวหน้าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาครั้งที่๑๑ระบุว่า จำนวนคดีคอรัปชั่นที่อยู่ในชั้นสอบสวนและอยู่ในขั้นตอนดำเนินคดีในปี๒๐๑๒ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี๒๐๑๑ สถานการณ์อาชญากรรมยังไม่มีสัญญาณลดลงแถมยังมีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น จนสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้แก่รัฐโดยเฉพาะ ในด้านธนาคาร การเงิน การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารที่ดิน และเครือบริษัทภาครัฐ ท่านHuỳnh Phong Tranhยืนยันว่า สถานการณ์คอรัปชั่นยังคงมีความซับซ้อน แม้ว่างานด้านการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นจะได้รับความสนใจก็ตาม “ในหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี๒๐๑๒ พรรค รัฐ หน่วยงานทุกระดับและประชาชนทุกชั้นชนได้เน้นการป้องกันและปราบปรามการคอปรัปชั่นโดยได้ดำเนินมาตรการแบบเบ็ดเสร็จไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน ความรับผิดชอบของหัวหน้าและการสอบสวนดำเนิคดีคอรัปชั่นซึ่งมีประสิทธิภาพพอสมควรโดยสามารควบคุมการคอรัปชั่นได้ในบางด้าน  สำนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีคอรัปชั่น๓๒๗คดีพร้อมผู้ถูกกล่าวหา๘๒๒คนซึ่งเพิ่มขึ้น๘๐คดีและมีผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มขึ้นกว่า๒๐๐คนเมื่อเทียบกับปี๒๐๑๑ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองและมาตรการป้องกันและปราบปรามที่มีประสิทธิภาพของพรรค รัฐ หน่วยงานทุกระดับและประชาชนทุกชั้นชน”   ท่านHuỳnh Phong Tranhยังเผยว่า กระบวนการปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นยังคงประสบอุปสรรค และมีข้อบกพร่อง และนี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์คอรัปชั่นในปัจจุบันมีความรุนแรง นั่นคือข้อบกพร่องในระเบียบ นโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่น ข้อกำหนดในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน การโยกย้ายผู้บริหารและดำเนินการกับหัวหน้างานที่ได้ปล่อยให้เกิดการคอรัปชั่นและการซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่ามากๆของสำนักงานของรัฐผ่านบัญชีซึ่งทำให้การป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นในเวลาที่ผ่านมาขาดประสิทธิภาพดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขยายการปฏิบัติมาตรการเหล่านี้เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการป้องกันและปราบปรามในอนาคต ท่าน Huỳnh Phong Tranhย้ำว่า“ประเด็นที่๑คือ ต้องส่งเสริมบทบาท ความรับผิดชอบของหัวหน้างานและดำเนินการกับหัวหน้างานที่ได้ปล่อยให้เกิดคอรัปชั่นในหน่วยงานและท้องถิ่นของตน ประเด็นที่๒คือวางนโยบายต่างๆควบคู่กับการปฏิรูประเบียบราชการเพื่อลดความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นต้นตอบ่อเกิดของภัยคอรัปชั่น ประเด็นสุดท้ายคือ ปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นให้มีความสมบูรณ์ตามแนวทางขยายกลุ่มที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน” 

ท่านHuỳnh Phong Tranh หัวหน้าสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน(Photo:Internet)

จากสถานการณ์ที่เป็นจริงแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติข้อกำหนดเกี่ยวกับความเปิดเผยและโปร่งใสในกิจกรรมของสำนักงาน องค์กร หน่วยงาน การวางแผนและปฏิบัติระเบียบ มาตรฐาน หลักปฏิบัติ  จรรยาบรรณวิชาชีพและโยกย้ายเจ้าหน้าที่ข้าราชการตามข้อกำหนดของกฏหมายป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นปี๒๐๐๕ของเวียดนามได้ส่งผลในทางบวกต่อการป้องกัน ยับยั้งและควบคุมการคอรัปชั่นในบางด้านแต่เพื่อให้การป้องกันและปราบปราบการคอรัปชั่นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กฏหมายป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นฉบับแก้ไขได้ขยายกลุ่มที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและรายได้ ประกอบด้วยผู้ที่ดำรงตำแหน่งของรัฐทุกคน เพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับการแสดงทรัพย์สินในเคหะสถานซึ่งจะยื่นเสนอต่อรัฐสภาพิจารณาอนุมัติในเร็วๆนี้   ความพยายามในการปรับปรุงเอกสารกฏหมาย แก้ไขข้อบกพร่องในระเบียบการตรวจสอบทรัพย์สินและรายได้ของเจ้าหน้าที่บริหารทุกระดับแสดงให้เห็นว่า เวียดนามกำลังปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่นอย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์สังคมที่โปร่งใสและพัฒนา ./.                                                                                                                Thu Hoa VOV5