( VOVworld )-มาตรา ๗๐ ร่างรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ฉบับแก้ไขระบุว่า กองกำลังติดอาวุธประชาชนต้องจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม มาตุภูมิและประชาชน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐธรรมนูญได้มีการกำหนดเช่นนี้และสอดคล้องกับการสร้างสรรค์และขยายตัวของกองทัพประชาชนเวียดนามในตลอด ๖๙ ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเป็นการยืนยันว่า กองทัพเวียดนามไม่ได้อยู่เหนือการเมือง ซึ่งเนื้อหานี้ได้รับการสนับสนุนจากประชามติอย่างกว้างขวางในการแสดงความคิดเห็นต่างๆต่อร่างรัฐธรรมนูญปี ๑๙๙๒ ฉบับแก้ไขที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
กองโฆษณาติดอาวุธเวียดนาม
กองทัพไม่ใช่กองกำลังการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นเองและไม่ใช่กลุ่มอำนาจ พล.ตรี. ศ. บุ่ย ฟาน กี่ นักวิชาการของสถาบันยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของเวียดนามเห็นว่า ไม่ว่ากองทัพของประเทศไหนๆก็ต้องผูกพันกับกองกำลังการเมืองใดกองกำลังการเมืองหนึ่ง พล.ตรี. บุ่ย ฟาน กี่ กล่าว “ กองทัพเวียดนามได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคมปีค.ศ. ๑๙๔๔ ก่อนการก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ๑ ปีและก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญปีค.ศ. ๑๙๔๖ ประมาณ ๒ ปี ซึ่งคำสั่งของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับการจัดตั้งกองโฆษณาติดอาวุธเวียดนามซึ่งเป็นต้นกำเนิดของกองทัพประชาชนเวียดนามในปัจจุบันได้ระบุว่า เนื่องจากการเรียกร้องขององค์การมวลชน ซึ่งหมายถึงองค์การพรรคนั้น ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า กองทัพได้กำเนิดขึ้นมาจากรากเหง้าดังกล่าวเพราะขณะนั้นยังไม่ได้จัดตั้งรัฐ และก็ไม่ใช่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเวียดนาม หากในทุกประเทศ กองทัพต้องจงรักภักดีต่อพรรคกุมอำนาจ ”
ปัจจุบัน กองทัพเวียดนามได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระเบียบแบบแผนและทันสมัยเพื่อปฏิบัติภารกิจยุทธศาสตร์สองประการคือ สร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิสังคมนิยมเวียดนาม กองทัพอยู่เคียงข้างประชาชนและมีคุณลักษณะของชนชั้นกรรมกร พล.ตรี บุ่ย ฟาน กี่ วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า คุณลักษณะของกองทัพคือ จงรักภักดีต่อมาตุภูมิ ประชาชนและพรรคกุมอำนาจ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ผมเชื่อว่า ด้วยคุณลักษณะดังกล่าวกองทัพจึงไม่สามารถอยู่เหนือการเมืองได้ หากกองทัพไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็จะกลายเป็นกองทัพมืออาชีพ ได้รับคำสั่งให้สู้รบตรงไหนก็ต้องทำตาม
|
กองทัพเเรือวียดนามได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระเบียบแบบแผนและทันสมัย
|
ส่วนพล.ท. ร.ศ. ดร. เหงวียน หงอกโห่ย บรรณาธิการใหญ่นิตยสาร ก๊วก ฝ่อง ต่วาน เยิญหรือกองทัพของประชาชนทุกคนเห็นว่า การระบุมาตรา ๗๐ เข้าในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเป็นการกำหนดประวัติศาสตร์ในตลอด ๖๙ ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพประชาชนเวียดนามเข้าในรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ ตลอดระยะเวลาเกือบ ๗๐ ปีที่ผ่านมา กองทัพประชาชนเวียดนามมีความจงรักภักดีต่อพรรค ปกป้องพรรค มาตุภูมิและประชาชน ดังนั้น มาตรา ๗๐ จึงสอดคล้องกับความต้องการในการสร้างพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่กองทัพประชาชนเวียดนามในการเคลื่อนไหวต่างๆ อีกทั้งสะท้อนพัฒนาการก้าวใหม่ในความคิดทางยุทธศาสตร์ของพรรคในการสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยม พล.ท เหงวียน หงอก โห่ยเห็นว่า “ การประเมินว่า กองทัพประชาชนเวียดนามจงรักภักดีต่อพรรคหรือไม่ต้องอาศัย ๓ ปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่ อุดมการต่อสู้ แนวความคิดและการจัดตั้งกองทัพที่ปฏิบัติตามแนวทางการสร้างสรรค์กองทัพของพรรค ซึ่งตลอด ๖๙ ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า เป้าหมายการต่อสู้ของพรรคก็คือเป้าหมายการต่อสู้ของกองทัพนั่นคือ เอกราชแห่งชาติและสังคมนิยมเพื่อความผาสุกของประชาชน การก่อตั้งกองโฆษณาติดอาวุธเวียดนาม ก็เพื่อเป้าหมายปลดปล่อยประชาชาติตามแนวทางขบวนการรักชาติภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ๒ คือ งานด้านแนวความคิดของกองทัพประชาชนเวียดนามใน ๖๙ ปีที่ผ่านมาก็เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่แนวความคิดของพรรคในกองทัพ ๓ คือ การจัดตั้ง องค์ประกอบของกองทัพเวียดนามมีทั้ง ระบบการบัญชาการและระบบองค์กรพรรค ”
|
| เรือสนับสนุนจรวดดิง เตียน หว่าง ที่ทันสมัยของเวียดนาม ( จ่อง เทียต ) |
ดร.กาว ดึ๊ก ท้าย อดีตหัวหน้าสถาบันมนุษยชนแห่งสถาบันรัฐศาสตร์และการปกครองแห่งชาติโฮจิมินห์ได้เห็นว่า การระบุเนื้อหาเกี่ยวกับกองทัพมีความจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อเพิ่มความรู้และจิตสำนึกทางการเมืองของกองทัพต่อระบอบการเมือง ชาติและประเทศ ดร.ท้านยืนยันว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาการจงรักภักดีต่อพรรคในทุกแง่มุม ดร.ท้ายกล่าว “ การจงรักภักดีต่อพรรคหมายความว่า จงรักภักดีต่อแนวทางสร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิ จงรักภักดีต่อแนวทางการต่างประเทศโดยไม่ปล่อยให้ตกอยู่ในกับดักของอิทธิพลที่เป็นอริ ๒ คือ จงรักภักดีต่อเป้าหมายเอกราชแห่งชาติ สังคมนิยม โดยสนับสนุนปัจจัยที่ดี ต่อต้านกลุ่มผลประโยชน์ อีกทั้งสะท้อนการแบ่งเบาความเดือดร้อนให้กับพรรคและรัฐในสถานการณ์ปัจจุบัน ”
|
| จรวดต่อสู้อากาศยาน S-300 |
การธำรงการนำของพรรคต่อกองทัพ การสร้างสรรค์กองทัพให้แข็งแกร่งในด้านการเมืองจะช่วยป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองปฏิกิริยา กองกำลังที่ฉกฉวยโอกาสและบุคคลที่มีความทะเยอทะยานสามารถขึ้นมากุมอำนาจในกองทัพและควบคุมการบัญชาการกองทัพได้เพื่อหวังชักชวนกองทัพเข้าร่วมการเคลื่อนไหวต่อต้านบ่อนทำลายประเทศ ทั้งนี้และทั้งนั้นอาจยืนยันได้ว่า การระบุ กองกำลังติดอาวุธประชาชนต้องจงรักภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเข้าในรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งจำเป็น ./.