กระตุ้นด้านที่มีศักยภาพสูงเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

Anh Huyen - VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) - ในการประชุมครั้งที่ 5 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 ที่มีขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2022 เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง ได้ลงนามอนุมัติมติที่สำคัญๆ โดยมี 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องถึงประชาชนโดยตรง ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชามติเป็นอย่างมากเพราะล้วนเป็นแนวทาง ใหญ่และถูกต้องของพรรคฯ ในการกระตุ้นศักยภาพเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

กระตุ้นด้านที่มีศักยภาพสูงเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ - ảnh 1การประชุมครั้งที่ 5 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13

มติดังกล่าวคือมติที่ 18 ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ปรับปรุงกลไกและนโยบาย ยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารและการใช้ที่ดิน เพื่อผลักดันให้เวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูง มติที่ 19 เกี่ยวกับการเกษตร เกษตรกรและชนบทถึงปี 2030 และวิสัยทัศน์ถึงปี 2045 และมติที่ 20 เกี่ยวกับการปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างต่อเนื่อง พัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพของเศรษฐกิจแบบหมู่คณะในยุคใหม่

สร้างแรงกระตุ้นจากแหล่งพลังด้านที่ดิน

มติที่ 18 ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชาชนทุกชั้นชน เนื่องจากได้รับการจัดทำบนพื้นฐานของการสรุปผล 10 ปีการปฏิบัติมติที่ 19 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ปี 2012 ที่ได้มีการระบุปัญหาใหม่ๆ มีความเข้มงวดและเคร่งครัดมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายคือ ถึงปี 2023 ต้องเสร็จสิ้นการแก้ไขกฎหมายที่ดินปี 2013 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความสมบูรณ์ ค้ำประกันความพร้อมเพรียงและความเป็นเอกภาพ ถึงปี 2025 ต้องเสร็จสิ้นการจัดทำฐานข้อมูลและระบบข้อมูลข่าวสารแห่งชาติเกี่ยวกับที่ดินให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนและเชื่อมโยงกัน

มติที่ 18 ที่ระบุแนวทางใหญ่ๆ เกี่ยวกับที่ดิน เช่น เสร็จสิ้นการแก้ไขกฎหมายที่ดินปี 2013 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งได้รับการประเมินว่า ค้ำประกันให้แก่งานด้านการบริหารที่ดินอย่างเข้มงวด มีประสิทธิภาพและส่งเสริมแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่จากแหล่งทรัพยากรอันล้ำค่าที่ประชาชนเป็นเจ้าของ

มีหลายประเด็นที่มติที่ 19 ยังไม่สามารถกำหนดมาตรการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่ในมติที่ 18 ก็ได้เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อสามารถกำหนดแนวทางได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะการชดเชย การสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานใหม่และการเวนคืนที่ดินเพื่อเป้าหมายด้านกลาโหม ความมั่นคง การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและชุมชน มติที่ 18 ได้ระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนและตรงกับปัญหาร้อนระอุในปัจจุบันเพื่อส่งเสริมการใช้แหล่งพลังด้านที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศ นาง บุ่ยถิอาน หัวหน้าสถาบันทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชุมชนได้ให้ข้อสังเกตว่า

“ มติที่ 18 ได้รับการประกาศอย่างทันท่วงทีเพื่อสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ดินได้อย่างเต็มที่ เพิ่มงบประมาณแผ่นดิน สร้างความยุติธรรมและภาษีในด้านที่ดินมีความเหมาะสมมากขึ้น การโอนที่ดินและการทำธุรกิจด้านที่ดินในตลาด  ฉันคิดว่า ถ้าหากเราปฏิบัติมตินี้ได้อย่างเคร่งครัด เราจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ในด้านที่ดินที่ยังคั่งค้างอยู่ในเวลาที่ผ่านมาได้”

ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจภาคการเกษตรและเศรษฐกิจแบบหมู่คณะ

ด้านท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะเกษตรกรต่างให้ความสนใจต่อมติที่ 19 เกี่ยวกับ “การเกษตร เกษตรกรและชนบทถึงปี 2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2045” เพราะนี่ไม่ใช่แค่การต่อยอดจากมติที่ 26 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 10 ปี 2008 เกี่ยวกับการเกษตร เกษตรกรและชนบทเท่านั้น หากยังมีการพัฒนาใหม่ๆและมีเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย นาย เหงียนชี้หงอก รองประธานสมาคมเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า การประกาศมติที่ 19 เป็นแรงกระตุ้นให้แก่ภาคการเกษตรและชนบท อำนวยความสะดวกในการพัฒนาอย่างกลมกลืนระหว่างเขตชนบทและตัวเมือง ระหว่างเขตและท้องถิ่นต่างๆ ตามแนวทาง “เกษตรเชิงนิเวศ เขตชนบทที่ทันสมัยและเกษตรกรที่มีอารยธรรม”

“มติฉบับใหม่ได้สะท้อนความตั้งใจของทั้งระบบการเมืองต่อปัญหาการเกษตร เกษตรกรและชนบท แต่เพื่อให้มติมีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติ โดยเฉพาะในด้านการเกษตรและการเพาะปลูก เราเห็นว่า จำเป็นต้องมีก้าวกระโดดในการปรับปรุงกฎหมายที่ดินให้มีความสมบูรณ์เพราะว่า ที่ดินมีความหมายชี้ขาดต่อการพัฒนาการเกษตร โดยเฉพาะการเกษตรเชิงพานิชย์ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรเปลี่ยนแปลงความคิดจากการผลิตเกษตรธรรมดาไปสู่เศรษฐกิจเชิงเกษตร”

ส่วนมติที่ 20 เกี่ยวกับ “การปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างต่อเนื่อง พัฒนาและยกระดับประสิทธิภาพของเศรษฐกิจแบบหมู่คณะในยุคใหม่” ได้กำหนดเป้าหมาย หน้าที่และมาตรการแก้ไขเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแบบหมู่คณะในระยะต่อไป โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมาย กลไกและนโยบายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจแบบหมู่คณะและกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พร้อมทั้งย้ำถึงทัศนะว่า เศรษฐกิจแบบหมู่คณะคือภาคเศษฐกิจที่สำคัญ ต้องได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาควบคู่กับเศรษฐกิจภาครัฐเพื่อเป็นพื้นฐานอย่างมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจแบบหมู่คณะในสภาวการณ์การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและสอดคล้องกับเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม

มติฉบับต่างๆที่การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคฯ ครั้งที่ 5 สมัยที่ 13 เพิ่งประกาศได้รับการขานรับอย่างเต็มที่จากประชาชนทุกชั้นชน นี่เป็นแนวทางที่ได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างแรงกระตุ้นให้แก่เศรษฐกิจของประเทศในระยะต่อไป.

Komentar