ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุกพร้อมภริยาได้เดินทางไปเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำฟอรั่มความร่วมมือเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปกครั้งที่ 29 ในระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน (VNA)

การเยือนไทยของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก เป็นการเยือนไทยครั้งแรกของผู้นำเวียดนามหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 และประธานประเทศยังเป็นผู้นำต่างประเทศคนแรกที่เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปกครั้งที่ 29

การเยือนมีความหมายทางประวัติศาสตร์ต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ

การเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศมุ่งสู่การฉลองครบรอบ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่เข้มแข็งของเวียดนามเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับไทยให้พัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป

ภายหลัง 46 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้พัฒนาอย่างดีงาม โดยความร่วมมือทางเศรษฐกิจเป็นด้านที่โดดเด่น เมื่อปี 2021 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 1 หมื่น 8 พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในช่วง 9 เดือนของปี 2022 บรรลุ 1 หมื่น 6 พัน 1 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 ในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ไทยเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับสองของไทย ปัจจุบัน 18 จังหวัดและนครของเวียดนามมีข้อตกลงความร่วมมือกับท้องถิ่นต่างๆของไทย ทั้งสองประเทศกำลังผลักดันการขยายอุตสาหกรรมที่รับแรงงานเวียดนามไปทำงานในประเทศไทย นาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยกล่าวว่า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจยังคงเป็นเนื้อหาที่ผู้นำทั้งสองประเทศหารือในการเยือนครั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายนำมูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุ 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025

“ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือเกี่ยวกับมาตรการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่ลึกซึ้งมากขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจใน 3 ด้าน ได้แก่ การเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การเชื่อมโยงโรงงานผลิตและการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การเติบโตแห่งสีเขียวของเวียดนามกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียวหรือ BCG ของไทย ประธานประเทศจะเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม-ไทยในช่วงปี 2022 - 2027 ซึ่งกำหนดมาตรการต่างๆในทุกด้าน”

นาย ฟานชี้แถ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย

สมาชิกที่มีความรับผิดชอบของฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก

หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก จะเข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำเอเปกครั้งที่ 29 ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามแลกเปลี่ยนทัศนะ ประสบการณ์และเสนอแนวทางเพื่อให้ความร่วมมือเอเปกมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อการแก้ไขความท้ายทายของภูมิภาค

คณะผู้แทนเวียดนามจะเข้าร่วมการประชุมต่างๆอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกและมีความรับผิดชอบ ให้ความสำคัญต่อจิตใจแห่งการสนทนา ความสามัคคีและลัทธิพหุภาคี พยายามร่วมมือกับเศรษฐกิจสมาชิกเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขความท้าทาย ปกป้องความสำเร็จและคุณค่าหลักของความร่วมมือและพัฒนาที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคต

ในตลอด 24 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของเอเปก เวียดนามได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งในเชิงรุกต่อการผลักดันสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและความเชื่อมโยงเศรษฐกิจในภูมิภาค ธำรงบทบาทของเอเปกในการเป็นกลไกความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจชั้นนำในเอเชีย-แปซิฟิก ที่โดดเด่นที่สุดคือเวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศสมาชิกที่ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกถึง 2 ครั้งคือเมื่อปี 2006 และ 2017  เวียดนามยังเป็นหนึ่งในสมาชิกที่กระตือรือร้นที่สุดในการเสนอข้อคิดริเริ่มและโครงการกว่า 100 โครงการในหลายด้าน ควบคู่กันนั้น เวียดนามยังได้มีส่วนร่วมมากมายในการจัดการกิจกรรมของเอเปกผ่านการดำรงตำแหน่งสำคัญในเอเปกและได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากเศรษฐกิจสมาชิก

นาย ธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย

ในปี 2022 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกครั้งที่ 29 ภายใต้หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล” ในฐานะประธานอาเซียนในเอเปก ปี2022 เวียดนามจะประสานกับประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อส่งเสริมความสามัคคี เสียงพูดร่วมกันของอาเซียนและให้ความสำคัญต่อบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เวียดนามมีบทบาทที่เข้มแข็งในการปฏิบัติแผนปฎิบัติการ Aotearoa เกี่ยวกับวิสัยทัศน์เอเปกถึงปี 2040 และยังคงส่งเสริมผลงานที่สำคัญของปีเอเปก 2017 ต่อไป นาย ธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทยแสดงความเห็นว่า

“ในภาพรวม เวียดนามมีบทบาทที่สำคัญ เป็นสมาชิกและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในเอเปก เมื่อก่อน เวียดนามเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ดังนั้น ไทยและเวียดนาม และเศรษฐกิจสมาชิกเอเปกจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจให้พัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต”

การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมสัปดาห์ผู้นำเอเปกครั้งที่  29 ของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก เป็นกิจกรรมด้านการต่างประเทศที่สำคัญของผู้นำเวียดนามในปี 2022 ผ่านข้อตกลงที่ได้บรรลุ รวมถึงการมีส่วนร่วมต่อเหตุการณ์นี้ เวียดนามจะส่งสารเกี่ยวกับความสามัคคี สันติภาพและการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาคและโลก.