 กฎหมายการพำนักอาศัยฉบับแก้ไขที่ได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2020 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ (VNA) |
นอกจากสิทธิ์เลือกตั้ง สิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สิทธิ์ในที่อยู่อาศัยที่ละเมิดไม่ได้ การรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนตัว จดหมาย อีเมล สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและสิทธิเสรีภาพด้านสื่อมวลชน สิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยถูกระบุในรัฐธรรมนูญปี 2013 ว่า เป็นสิทธิของมนุษย์และสิทธิของพลเมืองที่รัฐเวียดนามรับรอง ให้ความเคารพและคุ้มครอง การบริหารจัดการพำนักอาศัยของรัฐเกี่ยวข้องโดยตรงถึงสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมือง ดังนั้น เนื้อหาเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมืองและการบริหารจัดการภาครัฐในรัฐธรรมนูญปี 2013 จึงถูกแปรให้เป็นข้อกำหนดที่เป็นรูปธรรม เปิดเผย โปร่งใส ตามแนวทางปรับปรุงระเบียบราชการเพื่อลดเวลา ค่าใช้จ่ายและยกเลิกขั้นตอนที่ไม่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัย
เพื่อปฏิบัติแนวทางประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและปรับปรุงระเบียบราชการในการบริหารประชากร อีกทั้งค้ำประกันความโปร่งใส เปิดเผย อำนวยความสะดวกให้แก่พลเมืองในการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัย ค้ำประกันความเป็นเอกภาพและความพร้อมเพรียงของระบบกฎหมาย ตอบสนองความต้องการบริหารภาครัฐในการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม การปรับปรุงระบบกฎหมายเกี่ยวกับการพำนักอาศัยที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูประเบียบราชการ การผสมผสาน การขยายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศในการผลักดันภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและแนวโน้มการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในปัจจุบัน อีกทั้งค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมือง ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารภาครัฐในการรักษาความมั่นคงและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสภาวการณ์ใหม่ ปรับปรุงระเบียบราชการเกี่ยวกับการลงทะเบียนพำนักอาศัย กฎหมายการพำนักอาศัยปี 2020 ได้รับการจัดทำและได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนปี 2020 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดยมีข้อกำหนดใหม่หลายข้อที่ค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมือง เช่น ยกเลิกรูปแบบการบริหารประชากรด้วยทะเบียนบ้านและหนังสือรับรองการพักอาศัย อัพเดทเลขประจำตัวประชาชนในฐานข้อมูลประชากรแห่งชาติและฐานข้อมูลเกี่ยวกับการพำนักอาศัย ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนจากการบริหารจัดการการพำนักอาศัยตามรูปแบบเดิมมาเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชนในฐานข้อมูลประชากรแห่งชาติเพื่อค้นหาและอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการพำนักอาศัยของพลเมืองในฐานข้อมูลเกี่ยวกับการพำนักอาศัย
ควบคู่กันนั้น ขั้นตอนและระเบียบการลงทะเบียนพำนักอาศัยของพลเมืองได้รับการปรับปรุงให้กระทัดรัด โดยข้อที่ 3 มาตรที่ 23 ของกฎหมายการพำนักอาศัยปี 2020 ระบุว่า “หลังจากได้รับเอกสารลงทะเบียนตามแบบฟอร์มที่ได้กำหนด ภายในเวลา 7 วัน หน่วยงานภาครัฐต้องตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลใหม่ในฐานข้อมูลเกี่ยวกับการพำนักอาศัยและแจ้งผลการอัพเดทข้อมูลให้แก่พลเมือง” เงื่อนไขการลงทะเบียนไม่มีความแตกต่างระหว่างนครสังกัดส่วนกลางและท้องถิ่นตามมาตรที่ 21 ของกฎหมายการพำนักอาศัยปี 2020 ซึ่งสร้างความเท่าเทียมกันในการบริหารจัดการเรื่องการพำนักอาศัยของพลเมืองทุกคน มีส่วนร่วมค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมือง นอกจากนี้ พลเมืองสามารถลงทะเบียนพักอาศัยในสถานที่เช่าและบ้านของคนอื่นที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นจุดใหม่ในการค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัยของพลเมืองตามรัฐธรรมนูญปี 2013
ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า กฎหมายการพำนักอาศัยปี 2020 ได้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการปรับปรุงระเบียบราชการในการบริหารประชากร อีกทั้งค้ำประกันความโปร่งใส เปิดเผย อำนวยความสะดวกให้แก่พลเมืองในการปฏิบัติสิทธิเสรีภาพในการพำนักอาศัย มีส่วนร่วมปรับปรุงระบบกฎหมายเกี่ยวกับการพำนักอาศัยให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูประเบียบราชการ การผสมผสาน การขยายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผลักดันภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก.