เวียดนามและฝรั่งเศสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 เมษายนปี 1973 ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและบรรลุผลงานที่น่ายินดีในหลายด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้นหลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเมื่อปี 1995 ซึ่งถือเป็นการพัฒนาสู่กรอบความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปหรืออียูกับเวียดนามและถูกระบุในนโยบายของฝรั่งเศสต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองประเทศมีทัศนะร่วมกันในปัญหาสำคัญๆหลายประเด็น โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน การส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและบทบาทของกลไกพหุภาคีในการควบคุมและบริหารกระบวนการโลกาภิวัตน์
จุดเด่นในความสัมพันธ์ทวิภาคี
เวียดนามและฝรั่งเศสได้ประสบปัญหามากมายในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม เหนือสิ่งอื่นใด ทั้งสองประเทศได้ละทิ้งอดีต ร่วมกันแลกเปลี่ยนทัศนะที่คล้ายคลึงกันและผลประโยชน์ร่วมกันในหลายด้าน การที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์เมื่อปี 2013 ถือเป็นนิมิตหมายแห่งยุคใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส
นับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศลงนามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศส ความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงามระหว่างทั้งสองประเทศก็ถูกระบุผ่านการเยือนระดับสูงระหว่างกัน การพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำระดับสูงได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศ ทั้งสองประเทศธำรงกลไกการแลกเปลี่ยนในด้านการเมือง เศรษฐกิจและกลาโหมในทุกระดับเป็นประจำ โดยเฉพาะ การสนทนายุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและกลาโหมระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหมเวียดนามและฝรั่งเศส การสนทนาด้านเศรษฐกิจระดับสูงประจำปีที่รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนามและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศของฝรั่งเศสร่วมเป็นประธาน การสนทนายุทธศาสตร์ด้านกลาโหมระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ
กรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ได้นำมาซึ่งผลงานความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม ทำให้การค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านการพัฒนา การศึกษาและฝึกอบรมและความร่วมมือระดับท้องถิ่นได้กลายเป็นจุดเด่นของความสัมพันธ์ทวิภาคี มูลค่าการค้าเวียดนาม-ฝรั่งเศสมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.7 ต่อปีในช่วงปี 2011-2019 เมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุกว่า 5.3 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2021 โดยเฉพาะ ในด้านการส่งออก ปัจจุบัน ฝรั่งเศสเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนามในสหภาพยุโรป ในด้านความร่วมมือด้านการลงทุน เมื่อปี 2022 ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI รายใหญ่อันดับสองของเวียดนามในสหภาพยุโรป และอยู่อันดับที่ 16 จาก 141 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม ฝรั่งเศสยังเป็นนักอุปถัมภ์ยุโรปทวิภาคีชั้นนำให้แก่เวียดนาม และเวียดนามอยู่อันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือในรูปให้เปล่าหรือโอดีเอของฝรั่งเศสในเอเชีย
การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น ทุกๆ ปี รัฐบาลฝรั่งเศสจัดงบประมาณ 5 ล้านยูโรสำหรับความร่วมมือด้านวัฒนธรรมกับเวียดนาม โดยมักจะสนับสนุนกิจกรรมของศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศสในกรุงฮานอย สถาบันแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมฝรั่งเศสในนครโฮจิมินห์ เว้และดานัง ทั้งสองประเทศยังมีกิจกรรมความร่วมมือมากมายในกรอบองค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสหรือ OIF
 รายการพบปะสังสรรค์ในโอกาสวันภาษาฝรั่งเศสสากล ณ สถาบันฝรั่งเศสในเมืองเว้ |
การพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้มีความลึกซึ้งมากขึ้นคือสิ่งที่จำเป็น
พื้นฐานของความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทูตที่ยั่งยืนควบคู่กับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งในเวลาที่ผ่านมาจะสร้างแรงผลักดัน อำนวยความสะดวกและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเวียดนาม-ฝรั่งเศสในด้านยุทธศาสตร์ในเวลาที่จะถึง เช่น พลังงาน สาธารณสุข การคมนาคมขนส่ง สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรมนุษย์
ความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศสถือว่ามีความสำคัญ ผลงานที่น่ายินดีที่ได้บรรลุและความเข้าใจร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของความสัมพันธ์เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับหุ้นส่วนต่างๆของทั้งสองฝ่ายในการเชื่อมโยงความร่วมมือที่กว้างลึกมากขึ้น ปัจจุบัน เวียดนามและฝรั่งเศสมีเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยหลายประการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่สำคัญในยุโรป และกำลังส่งเสริมบทบาทในระดับโลกอย่างเข้มแข็ง โดยมีผลประโยชน์และอิทธิพลที่สำคัญในเอเชีย ส่วนเวียดนามเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีความคล่องตัวและมีบทบาทที่สำคัญในอาเซียนและเอเชียตะวันออก ทั้งสองประเทศยังมีทัศนะและผลประโยชน์ร่วมกันในปัญหาระหว่างประเทศ ดังนั้น การกระชับความสัมพันธ์ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสจึงกลายเป็นความต้องการเชิงภาวะวิสัยและจำเป็นเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
ในสภาวการณ์โลกปัจจุบัน เวียดนามและฝรั่งเศสต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันเกี่ยวกับโลกหลายขั้วและลัทธิพหุภาคีบนพื้นฐานแห่งการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียมกัน ความเป็นธรรม ความร่วมมือบนเจตนารมณ์แห่งผลประโยชน์ร่วมกันและร่วมกันพยายามเพื่อสันติภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุม
เวียดนามและฝรั่งเศสได้ผ่านระยะเวลาความผันผวนต่างๆในประวัติศาสตร์ ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อกลายเป็นเพื่อนมิตรที่น่าเชื่อถือ ปัจจุบัน ความสัมพันธ์นี้ยังคงได้รับการทำนุบำรุง และการส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือและการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสยังคงมีความจำเป็นในระยะต่อไป.