เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของตลาดน้ำภาคตะวันตก

Tô Tuấn
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในระบบแม่น้ำลำคลองที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันตกของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง มีแม่น้ำใหญ่ๆหลายสายที่มีเรือล่องไปมาตลอดทั้งวันทั้งคืน และมีตลาดน้ำที่เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของภูมิภาคนี้
เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของตลาดน้ำภาคตะวันตก - ảnh 1 ตลาดหงาไบ๊

ตลาดน้ำก๊ายรัง อยู่ห่างจากนครเกิ่นเทอประมาณ๖กิโลเมตร จากท่าเรือนิงเกี่ยวไปยังตลาดใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวในนครเกิ่นเทอ โดยตั้งแต่เช้าตรู่ นักท่องเที่ยวได้รีบลงเรือไปเที่ยวชมตลาดน้ำเพราะตลาดจะเริ่มวายเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น

คุณผู้ฟังกำลังฟังเสียงเรือยนต์และเสียงโฆษณาของพ่อค้าแม่ค้าในขณะที่เรือนักท่องเที่ยวใกล้ถึงสะพานตลาดน้ำก๊ายรังในยามเช้าตรู่ ตลาดน้ำก๊ายรังเป็น 1 ในตลาด 3 แห่งที่ใหญ่ที่สุดของเขตตะวันตกภาคใต้ โดยมีเรือเล็กเรือใหญ่หลายร้อยลำและผู้ที่มาอุดหนุนจำนวนมากตั้งแต่เช้าตรู่ ในวันธรรมดา ตลาดจะเริ่มตั้งแต่ตี3 ถึง9 โมงเช้า แต่เมื่อใกล้ถึงช่วงตรุษเต๊ตประเพณี จะมีตลาดนัดทั้งวัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้ นอกจากได้ชมเรือบรรทุกผลไม้และผลิตภัณฑ์เกษตรแล้ว จะมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยว กาแฟและร้านอาหารลอยน้ำ โดยเฉพาะภาพ“cây bẹo” หรือ เสาไม้ที่แขวนตัวอย่างสินค้าที่ขายไว้ที่หัวเรือ เช่น ผักผลไม้เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยนิตยสาร Rough Guide ของอังกฤษได้ประเมินว่า ตลาดน้ำก๊ายรังคือหนึ่งในตลาดที่ดีที่สุดในโลกเพราะมีเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สินค้าที่นำมาขายที่ตลาดก๊ายรังมีจำนวนมากเพราะที่นี่เป็นตลาดขายส่ง โดยชาวบ้านและประชาชนในเขตใกล้เคียงมักจะใช้เรือขนาดกลางเพื่อขนส่งผลิตภัณฑ์เกษตรไปขายที่ตลาด ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าจะใช้เรือขนาดใหญ่เพื่อขนส่งผลไม้ไปยังท้องถิ่นต่างๆและไปยังต่างประเทศ เช่น กัมพูชาและจีน  ซึ่งเรือของพ่อค้าแม่ค้ามักจะรอซื้อผลไม้ที่ตลาดในขณะที่เรืออื่นๆยังมาไม่ถึงตลาด นาง หวิ่งถิอุ๊ต เจ้าของเรือซื้อสับปะรดได้เผยว่า“เรามักจะมาซื้อผลไม้ตั้งแต่ตี 1 เมื่อซื้อเสร็จก็กลับทันที ซึ่งการค้าขายในปีนี้ถือว่า ดีมาก”

ตลาดน้ำก๊ายแบ่มีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นตลาดน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเตี่ยนยางและเชื่อมโยงระหว่าง 3 จังหวัด ได้แก่ หวิงลอง เบ๊นแจและเตี่ยนยาง ซึ่งนอกจากภาพเรือที่ล่องอยู่ในแม่น้ำอย่างคึกคักแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยภาพสวนผลไม้ และต้นมะพร้าวริมฝั่งแม่น้ำ ซึ่งถือเป็นภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของเขตตะวันตกภาคใต้  ที่ตลาดน้ำก๊ายแบ่ มีการขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ผลไม้ สัตว์ปีก สัตว์น้ำ ของใช้ในครัวเรือนและผ้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นคือ ส้มเขียวหวาน ลูกอมมะพร้าวและสบู่ที่ทำจากมะพร้าว ถ้าอยากไปเที่ยวชมตลาดน้ำก๊ายแบ่ จะต้องไปตั้งแต่เช้ามืดเพราะตลาดแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ตี 2 ถึง 8โมงเช้า

เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของตลาดน้ำภาคตะวันตก - ảnh 2ตลาดก๊ายรัง 

ส่วนตลาดน้ำฝุงเหียบ หรือ มีอีกชื่อคือ ตลาดหงาไบ๊เพราะเป็นจุดที่แม่น้ำ 7 สายไหลมาบรรจบพบกัน อยู่ห่างจากเมืองหวิแทง จังหวัดเหายาง 75 กิโลเมตร เป็นตลาดชื่อดังของจังหวัดเหายางและอยู่ห่างจากใจกลางนครเกิ่นเทอไปทางทิศใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร ตลาดน้ำฝุงเหียบมีความได้เปรียบเมื่อเทียบกับตลาดน้ำอื่นๆเพราะการสัญจรไปมาที่สะดวก มีขนาดใหญ่และมีความเก่าแก่ โดยได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 1915 ภายหลัง 10ปีของการขุดคลองซ้างที่เชื่อมกับคลองอื่นๆจนกลายเป็นหงาไบ๊ฝุงเหียบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ในช่วงที่การค้าขายคึกคัก แต่ละวันจะมีเรือหลายพันลำมาค้าขายที่หงาไบ๊ โดยตลาดหงาไบ๊เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีทั้งขายปลีกและขายส่ง ส่วนชีวิตในสายน้ำก็มีความหลากหลายมากเมื่อเทียบกับชีวิตแบบธรรมดา ซึ่งนอกเหนือจากเรือขนส่งผลไม้และผลิตภัณฑ์การเกษตร ยังมีการให้บริการอื่นๆ เช่น “เฝอ” หรือก๋วยเตี๋ยว กาแฟและร้านอาหารลอยน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมีครอบครัวต่างๆใช้ชีวิตบนเรือเพื่อขายอาหารให้แก่ลูกค้าและนักท่องเที่ยว คุณอุ๊ตลาน เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่ตลาดหงาไบ๊ได้เผยว่า“ดิฉันอาศัยอยู่บนเรือ เวลาว่างก็จะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิดและช่วยดูแลสวนที่บ้าน ส่วนลูกก็ฝากให้พ่อแม่สามีดูแลเพื่อมาทำงานที่นี่ ซึ่งรายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยว ก็พอกินพอใช้”

ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักของตลาดน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาการใช้ชีวิตบนเรือของครอบครัวที่มีสมาชิกหลายรุ่น โดยเรือต่างๆถูกตกแต่งเหมือนบ้านเคลื่อนที่ โดยมีกระถางดอกไม้ สัตว์เลี้ยง ทีวีและมอเตอร์ไซค์

ปัจจุบัน แม้ระบบคมนาคมขนส่งทางบกได้พัฒนาอย่างทั่วถึง แต่ตลาดน้ำยังคงอยู่และพัฒนามากขึ้น ซึ่งในอนาคต อาจมีเรือขายของที่ทันสมัยและสวยงามมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรือก็ยังคงเป็นพาหนะที่ขาดไม่ได้ในตลาดน้ำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นในเขตตะวันตกของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง.

Komentar