( VOVworld )- หมกโจว์มีอะไรน่าสนใจที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากค้นหา โดยเฉพาะหนุ่มสาวนิยมเที่ยวแบบขี่มอเตอร์ไซค์ไปเองถึงแม้ต้องเดินทางระยะไกลถึง ๒๐๐ กิโลเมตรและมีทางโค้งหลายช่วง แต่พวกเขาได้สูดลมบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์สองข้างทางขณะเดินทางไปหมก โจว์ ในจังหวัดเซิน ลา เขตเขาตอนบนของประเทศเวียดนาม
ไร่ชารูปหัวใจน่ารักที่หนุ่มสาวมักจะมาถ่ายรูป
ยามเช้าที่หมก โจว์เงียบสงบและอากาศเย็นสบาย บังกะโลแบบตู้คอนเทนเนอร์ตั้งอยู่กระจัดกระจายในไร่ชาเขียวชะอุ่มของเขตนิเวศอาเรน่า วิลเลช ตื่นขึ้นในห้องเล็กๆแต่อบอุ่นของบังกะโลแบบตู้คอนเทนเนอร์แล้วเปิดประตูจะได้รับลมเย็นโชยเข้ามาและได้ชมไร่ชาที่จัดเป็นร่องๆตามเนินเขาต่างๆสุดลูกหูลูกตาที่กำลังโชว์สีเขียวสดสวย ทำให้เรารู้สึกฟ้าเป็นใจและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ทิ้งความแออัด ความจอแจและความเหนื่อยล้าให้กับชีวิตในตัวเมือง การพักผ่อน การรีแลกซ์ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติโดยแท้และอากาศบริสุทธิ์ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกมีแรงมากขึ้น คุณฝ่าม แทง เติม ที่กำลังพักอยู่ในบังกะโลแบบตู้คอนเทนเนอร์เล่าว่า “ ดิฉันชอบบรรยากาศตอนเช้าเพราะอากาศบริสุทธิ์ รู้สึกไม่เหมือนอยู่ในตัวเมือง ดิฉันนอนหลับสนิทและเมื่อตื่นขึ้นไม่รู้สึกเหนื่อย ดิฉันอยากอยู่กับธรรมชาติ เก็บยอดและใบชาแล้วนำกลับไปชงเพื่อดื่ม รู้สึกสนุกมากและชอบด้วย ”
จากไร่ชาเดินทะลุป่าเขียวชะอุ่มก็จะถึงหมู่บ้านอ๊างในตำบลดง ซาง ที่นี่มีป่าสนในพื้นที่ ๕ เฮกต้าร์ล้อมรอบทะเลสาบน้ำใสที่สะท้อนเงาทิวต้นสน นักท่องเที่ยวเดินทอดน่องริมทะเลสาบในป่าสนที่สูงตระหง่านอันกว้างใหญ่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเก็บภาพธรรมชาตินั้นนี่เป็นโอกาสดีเพื่อเก็บภาพสวยๆของป่าสน
ความโดดเด่นของหมู่บ้านอ๊างอยู่ตรงที่ ประเพณีวัฒนธรรมของชนเผ่า บ้านไม้ยกพื้นหลังเล็กๆที่อยู่ในเขตป่าสนซึ่งเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยว โดยพวกเขาจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตประจำวันและเข้าร่วมงานเทศกาลประเพณีต่างๆของเชนเผ่าไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลเฮ๊ตจ๊าเมื่อวสันต์เวียนมาและอาหารพื้นบ้านของชนเผ่าไทและม้ง คุณหวู มาย แคง เจ้าหน้าที่ของบริษัทหุ้นส่วนการท่องเที่ยวนานาชาติแค้ง ซินห์เปิดเผยว่า “ สำหรับรายการท่องเที่ยวหมก โจว์ พวกเราจะจัดรายการแบบพักผ่อนและค้นหาวิถีชีวิตของชนเผ่า ณ ที่นี่ โดยเฉพาะวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าไทยและม้ง ทั้งนี้ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกใกล้ชิดกับชาวบ้านและศึกษาวิถีชีวิตกับประเพณีขนบธรรมเนียมของชาวบ้าน นอกจากนี้แล้ว นักท่องเที่ยวยังได้ร่วมสนุกกับรายการแสดงศิลปะพื้นบ้านต่างๆเช่น การร้องเพลงและระบำของชนเผ่าม้ง การฟ้อนรำแสว่วของชนเผ่าไทและรำกระทบไม้ที่มีอัตลักษณ์ของเขตตะวันตกเฉียงเหนือหรือเขตเตย บั๊ก นักท่องเที่ยวจะได้อยู่ในบรรยากาศของธรรมชาติและความเป็นเตยบั๊กของคนในพื้นที่โดยแท้ ”
ป่าสนหมู่บ้านอ๊าง
พอตกบ่าย เดินไปตามเส้นทางเล็กๆที่ตัดผ่านทุ่งดอกผักกาดสีขาวบริสุทธิ์และทุ่งหญ้าสีเขียวชะอุ่นอันกว้างใหญ่ไปยังฟาร์มเลี้ยงโคนมและโรงผลิตนมหมกโจว์ ณ ที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้ลองรีดน้ำนมและให้โคกินหญ้า ซึ่งทำให้พวกเขาเข้าใจกระบวนการตั้งแต่การเลี้ยงโคไปจนถึงการผลิตนม คุณฝุ่ง ลิว ลี รองหัวหน้าฝ่ายวัฒนธรรมอำเภอหมก โจว์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เกษตรของหมกโจว์ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่พิเศษ นอกจากนมแล้ว พวกเรายังมีผลิตภัณฑ์จากพืชผักต่างๆ คุณลิวลีกล่าวว่า “ รายการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่หมก โจว์มีหลายรายการเช่น เรามีขนมที่ทำจากนมและนมสด ชาและผักผลไม้ที่ปลอดสารพิษ พวกเราบริการนักท่องเที่ยวด้วยผลิตภัณฑ์ที่สะอาดและนักท่องเที่ยวจะไม่ผิดหวังเมื่อมาหมก โจว์ มีรายการท่องเที่ยวเด็ดลูกพรุนเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่น เรามีผลิตภัณฑ์จากลูกพรุนที่ปลอดสารพิษไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่น ลูกพรุนแช่น้ำตาล เหล้าลูกพรุนและน้ำลูกพรุนอัด นอกจากนี้ยังมีรายการท่องเที่ยวปลูกผักและเก็บข้าวโพดด้วย ”
พอตกค่ำ อากาศเย็นขึ้นและมีน้ำค้าง ซึ่งเป็นช่วงเข้าร่วมกิจกรรมวัฒนธรรมและการบันเทิงของชนเผ่าไทและม้งบนบ้านไม้ยกพื้น และก่อนเข้านอน นักท่องเที่ยวจะได้อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเช่น อาบน้ำกับชาสด อาบน้ำนมและคั่วชา หนึ่งวันค้นหาหมก โจว์ มีความคุ้มค่าจริงๆและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว.